Such a feelin's comin' over me
There is wonder in most everything I see
Not a cloud in the sky
Got the sun in my eyes
And I won't be surprised if it's a dream

Everything I want the world to be
Is now coming true especially for me
And the reason is clear
It's because you are here
You're the nearest thing to heaven that I've seen

เสียงร้องเพลงประสานเสียง Top of the World วง Carpenters ของผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยากว่า 10 คนที่มี ตัน คอง คูน ประธานเจ้าหน้าที่และกรรมการผู้จัดการใหญ่นำทีม บางคนก็คีย์เสียงต่ำบ้าง คีย์สูงบ้างแต่ท้ายที่สุดก็ร้องจนจบลงด้วยดี

เพลงที่ร้องมีความนัยหลายอย่าง นัยแรกแสดงถึงความร่วมมือกันระหว่างผู้บริหารที่มาจากจีอีและผู้บริหารคนไทยที่ต้องทำงานไปด้วยกันหลังจากที่จีอีเข้ามาถือหุ้นใหญ่เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

อีกนัยหนึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ผู้บริหารปรารถนาและซ่อนอยู่ภายในใจคือ การก้าวไปเป็นธนาคารอันดับหนึ่ง จากปัจจุบันที่ยังเป็นธนาคารอันดับที่ 5 โดยเทียบเคียงจากทรัพย์สินที่มีอยู่

ท่าทีของคูนและทีมงานผู้บริหารของธนาคารไม่ได้แสดงความวิตกต่อวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกาแม้ว่าจีอีจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ เพราะมีธุรกิจหลากหลายที่เข้าไปลงทุน อาทิ ธุรกิจเครื่องบินหรือธุรกิจอุตสาหกรรมก็ตามที

คูนยืนยันว่าในส่วนของจีอี แคปิตอล ที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงินและถือหุ้นอยู่ในธนาคารกรุงศรีอยุธยายังมีสภาพคล่องการเงิน

เขาชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจีอี แคปิตอล โดยได้โชว์ผลกำไรจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรกที่ผ่านมา จีอีมีกำไร 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ และผลกำไรของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในปีนี้ช่วยตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของธนาคารอีกส่วนหนึ่ง

6 เดือนแรกธนาคารมีกำไร 3,032 ล้านบาท มีรายได้รวม 23,449 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2550 ขาดทุน 3,991 ล้านบาท และมีรายได้รวม 42,611 ล้านบาท

รายได้หลักของธนาคารมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ ค่าธรรมเนียม ค่า transaction การปล่อยสินเชื่อ

คูนพอใจกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารไม่ปรับกลยุทธ์ในปีหน้าแต่จะโตตามจีดีพีที่ฝ่ายวิจัยของธนาคารคาดการณ์ไว้ว่าจีดีพีจะโตระหว่าง 3.5-4.5% ซึ่งธนาคารเลือกวัดผลจีดีพีไว้ที่ 4% เป็นตัวเลขกลางที่ไม่ต่ำหรือสูงเกินไป

และจากตัวเลขจีดีพีของไทย ทำให้คูนรู้ดีว่าการทำงานในปีหน้าจะต้องเต็มไปด้วยความระมัดระวังและไม่กดดันผู้บริหารโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมที่ผันผวน

ธนาคารกรุงศรีอยุธยายังเน้นกลุ่มลูกค้า 3 กลุ่มหลัก โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีและกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่

ในปีหน้าธนาคารคาดหวังกลุ่มลูกค้ารายย่อยมากที่สุด เพราะที่ผ่านมาตัวเลขการเติบโตของลูกค้ากลุ่มนี้เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างน่าสนใจและมีนัยสำคัญ

เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายย่อยเพิ่มเป็น 35% จากสิ้นปี 2550 เติบโต 22% และธนาคารได้กำหนดเป้าหมายไว้ว่าในอีก 2 ปี หรือปี 2553 จะต้องโตเพิ่มขึ้นเป็น 55%

ซึ่งธุรกิจรายย่อยจีอีได้ส่งผู้บริหารมาดูแลโดยเฉพาะ ก็คือ รอยย์ ออกุสตินัส กุนาร่า ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าบุคคล

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันจะเป็นเช่นไรก็ตาม แนวทางการดำเนินธุรกิจของธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะยึดรูปแบบการทำงาน 2 รูปแบบ คือ ออแกนิกส์ (organic) และ ไม่ออแกนิกส์ (non-organic)

ออแกนิกส์ คือการเติบโตบริหารงานทั่วไปโดยมีผู้บริหารดูแล ส่วนคูนและเจนิส แร แวน เอ็กเคอเรน ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน จะแสวงหาช่องทางเพื่อซื้อกิจการหรืออื่นๆ ที่เป็นรูปแบบของการโตในรูปไม่ออแกนิกส์ที่ไม่ได้โตไปตามธรรมชาติ

การบริหารธุรกิจของคูนที่ใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบเพื่อผลักดันให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาแห่งนี้ก้าวไปสู่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย เหมือนเพลง Top of the world ที่ร่วมร้องกับทีมงานนับว่าเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขาอย่างยิ่ง