|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอส. อี. ซี. ป่วนหลัง “สมพงษ์” หอบเงินหนี ลูกค้า-ลูกน้องวุ่น ล่าสุดส่งตัวแทนออกมาแถลง ย้ำเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับบริษัท เร่งประเมินความเสียหาย พร้อมนัดประชุมบอร์ดสัปดาห์นี้ ยันไม่ทิ้งลูกค้า ส่งมอบรถตามกำหนดเดิม ส่วนงานมอเตอร์เอ็กซ์ระดมรถจาก “ทีเอสเอล” หนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทสวมพื้นที่แทน ด้านวงการลงทุนเริ่มฟ้องร้องกันวุ่นระหว่างโบรกเกอร์ - ลูกค้า
หลังข่าวการหลบหนีออกนอกประเทศของนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เอส. อี. ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระรายใหญ่ ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) หุ้นของบริษัทฯ ในวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมราคาหุ้น(28พ.ย.)ตกลงมาอยู่ในระดับ 0.40 บาท/หุ้น ลดลง -0.33 จุด หรือ -45.21% ปริมาณซื้อ 371,686,500 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 172.681 ล้านบาท
โดยแหล่งข่าวในแวดวงยานยนต์ต่างให้ความเห็นว่า เป็นผลมาจากการที่นายสมพงษ์ใช้เงินจำนวนมากของบริษัทฯ วิ่งเต้นเพื่อให้ได้งานประมูลโครงการเช่ารถเมล์ปรับอากาศระบบเอ็นจีวี ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) แต่ไม่สำเร็จเพราะโครงการนี้ถูกตรวจสอบอย่างหนักจนต้องล้มและมีการเลื่อนการประมูลออกไป รวมถึงการมีปัญหากับลูกค้าและกลุ่มเงินทุนรายใหญ่
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดโดยกิตติมา สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บริษัท เอส. อี. ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาเปิดเผยในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 25 หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป 2008” ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว แต่อาจมีผลบ้างกับการดำเนินงานของบริษัทฯ และขณะนี้คณะกรรมการกำลังศึกษาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยจะมีการประชุมภายในสัปดาห์นี้
“เบื้องต้นเรายังไม่ได้ประเมินมูลค่าความเสียหาย แต่บอร์ดบริหารและผู้ถือหุ้นมีนัดประชุมกันสัปดาห์นี้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดวัน โดยจะศึกษาถึงผลกระทบและหนี้สินหรือนิติกรรมใดบ้างที่คุณสมพงษ์ทำไว้ในนามของบริษัทฯ แล้วถ้ามีมูลว่าคุณสมพงษ์มีความผิดก็ต้องปลดออกจากประธานกรรมการ และตั้งคนใหม่ขึ้นมารับตำแหน่ง”
นายกิตติมากล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีลูกค้ายกเลิกการจองรถ แต่หลายรายอยากให้มีการส่งมอบรถโดยเร็ว ซึ่งทางบริษัทยืนยันว่าทุกอย่างยังดำเนินการโดยปกติ ไม่มีการทิ้งลูกค้าแน่นอน พร้อมการแจ้งข่าวสารความเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมา และล่าสุดบริษัทฯ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยขยายเวลาการรับประกันรถยนต์ทุกคันเป็น 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร
“สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวอาจมีผลกับภาพลักษณ์ของบริษัทฯ แต่ยังยืนยันว่าลูกค้าทุกรายที่จองรถไว้ไม่มีปัญหา จะส่งมอบรถตามกำหนดเดิม และการออกงานมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงมุ่งมั่นตั้งใจ ขณะเดียวกันยังได้การสนับสนุนจากพันธมิตรและบรรดาผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี “นายกิตติมากล่าว
อย่างไรก็ตามในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่บริษัท เอส. อี. ซี. เข้าร่วมนั้น มีรายงานจากผู้สื่อข่าวว่า รถยนต์ที่นำมาจัดแสดง เป็นของ บริษัท ทีเอสเอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระในเครือเบนซ์แจ้งวัฒนะ โดย ทีเอสเอล เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของเอส. อี. ซี. เช่นกัน ส่วนรถยนต์ไฮไลต์อย่าง “แอสตัน มาร์ติน ดีบีเอส” ที่ตอนแรกประกาศจะนำมาโชว์พร้อมขายนั้น แต่พอถึงวันจริงกลับไม่มีมาปรากฏโฉมให้เห็น
ขณะเดียวกัน โบรกเกอร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า หุ้นSECC ซึ่งครบกำหนดชำระราคาและส่งมอบใบหุ้น (เคลียริง) เมื่อวันที่ 27 พ.ย. กลับไม่สามารถเคลียริงได้บางรายการ โดยมีลูกค้าและโบรกเกอร์ฟ้องร้องดำเนินคดีกันหลายราย เนื่องจากลูกค้าที่ซื้อหุ้น ไม่ยอมจ่ายค่าหุ้น นอกจากนี้ยังมีโบรกเกอร์บางรายไม่ชำระเงิน ค่าขายหุ้นให้กับลูกค้า
โดยจากข้อมูลพบว่า เกือบ 100% ของลูกค้า ที่ซื้อขายหุ้นนั้นเป็นกลุ่ม เดียวกัน หรือเป็นตัวแทนของเสี่ยรายใหญ่ชื่อดังย่านพระราม 3 และนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ เจ้าของบริษัท SECC ซึ่งเรื่องนี้ตลาดหลักทรัพย์และทางการควรเข้าไปตรวจสอบคำสั่งซื้อขายหุ้น SECC และเส้นทางการเงินของคนกลุ่มดังกล่าว เพื่อไม่ให้ระบบเสื่อมเสียและโครงสร้างเปลี่ยน
|
|
|
|
|