"บางกอกแลนด์" พ้นวิบากกรรม ประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้ล็อตสุดท้ายกับบสท.
มูลค่ารวมกว่า 6 พันล้านบาท ด้วยการตีโอนทรัพย์สินให้กับบสท. มูลค่า 4.1 พันล้านบาท
และจ่ายเงินสดเพิ่มเพียง 26.56 ล้านบาท โดยบสท.ยอมแฮร์คัตดอกเบี้ยค้างจ่ายจำนวน
2 พันล้านบาท พร้อมเปิดโอกาสให้ซื้อคืนภาย ใน 3 ปี ด้านราคาหุ้นในกระดานขานรับพุ่งขึ้น
8.94% ขณะที่นักวิเคราะห์ ชี้ราคาสูงเกินจริง แนะทิ้งหุ้น
วานนี้ (13 ส.ค.) หลักทรัพย์ของบริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ B-LAND
ได้สร้างความคึกคักให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากที่เงียบเหงาไปนาน
โดยมีสาเหตุจากความประสบความสำเร็จในการปรับโครงสร้างหนี้ก้อนสุดท้ายกับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
(บสท.)
โดยราคาหุ้น B-LAND ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่การซื้อขายในช่วงเช้า และมีปริมาณการซื้อขายเข้ามาอย่างหนาแน่น
ผลักดันให้ราคาเพิ่มขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ระดับ 6.85 บาท และมีราคาต่ำสุดที่ 6.20
บาท ก่อนจะปรับตัวลงมาปิดที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.55 บาท หรือคิดเป็น
8.94% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 231 ล้านบาท
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.)กล่าวว่า
บสท. ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ของ B-LAND โดยมีภาระเงินต้นรวมจำนวน 4,051.35 ล้านบาท
ได้มีมติเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ B-LAND และได้มีการลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายน
ที่ผ่านมา
แฮร์คัตดอกเบี้ยค้างจ่ายกว่า2พันล.
ทั้งนี้ B-LAND มีภาระหนี้สินกับบสท. จำนวนประมาณ 6,144 ล้านบาท แบ่งออกเป็นระหนี้เงินต้นรวมทั้งสิ้น
4,051 ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างชำระตามสิทธิรวม 2,093 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของแผนการปรับโครงสร้างหนี้นั้น B-LAND ตกลงชำระหนี้เต็มตามมูลค่าทางบัญชี
ให้กับบสท.เป็น จำนวนเงิน 4,125.76 ล้านบาท แบ่งเป็นชำระเงิน ต้นจำนวน 4,051.35
ล้านบาท และดอกเบี้ยค้างรับ 3 เดือน จำนวน 74.40 ล้านบาท
โดยบีแลนด์ จะดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์หลักประกัน และทรัพย์อื่นที่ไม่ใช่หลักประกัน
และปลอดภาระผูกพันให้กับบสท. มูลค่า รวมทั้งสิ้นประมาณ 4,100 ล้านบาท ภายในกำหนดระยะเวลา
3 เดือน และชำระเป็นเงินสดทันทีอีกจำนวน 26.56 ล้านบาท ขณะที่บสท.ได้มีการปรับลดดอกเบี้ยค้างส่วนที่เกินกว่า
3 เดือนให้กับบริษัทบางกอกแลนด์ด้วย
เปิดทางซื้อทรัพย์สินคืนภายใน 3 ปี
พร้อมกันนี้ บสท. ได้กำหนดเงื่อนไขให้บีแลนด์ มีสิทธิในการซื้อคืนทรัพย์สินที่ตีโอนให้กับบสท.
เป็นลำดับแรก (Right of First Refusal) ภายในกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ วันที่โอนกรรมสิทธิ์ให้กับ
บสท. เพื่อทำให้บริษัทฯ มีรายได้จากการพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคต ประกอบกับบสท.
เล็งเห็นว่าบีแลนด์ เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ซึ่งมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่ดี
บริษัทบางกอกแลนด์ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของ
ประเทศไทย ในอดีตต้องประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ
เนื่องจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลางได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเป็น
จำนวนมาก ทำให้ขาดกำลังซื้อ
รวมทั้งบริษัทฯ มีการสะสมที่ดินเพื่อรอการพัฒนาอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีภาระหนี้
สินมากตามไปด้วย บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ไปแล้วหลายราย
"บสท. ถือว่าเป็นเจ้าหนี้สถาบันการเงินรายสุดท้ายที่ได้บรรลุข้อตกลงในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้
ซึ่งในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับบริษัทบางกอกแลนด์ครั้งนี้ บสท.จึงเน้นการโอนทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน
และทรัพย์บางส่วน ที่ปลอดภาระ นำมาชำระหนี้ เพื่อทำให้บริษัทฯ มีภาระหนี้สินที่ลดลง
และอยู่ในฐานะที่ระดมเงินทุนใหม่เพื่อนำมาพัฒนาโครงการในอนาคตต่อไปได้" นายสมเจตน์
กล่าว
นักวิเคราะห์แนะทิ้งหุ้นบีแลนด์
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ให้ความเห็น ในกรณีการปรับหนี้ระหว่าง บสท.กับบีแลนด์
ว่า นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนหุ้น B-LAND เพราะราคาตลาดในปัจจุบันปรับตัวขึ้นมาสูงเกินกว่า
ราคาตามมูลค่าบัญชีที่ประมาณ 6 บาทแล้ว
ทั้งนี้หากดูข้อมูลย้อนหลัง พบว่าราคาหุ้น B-LAND ได้ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่
22 กรกฎาคม 2546 จนกระทั่ง 31 กรกฎาคม 2546 จึงปรับ ตัวขึ้นแรงอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมาจากการเข้าไปเก็งกำไรเพื่อรับข่าวการปรับโครงสร้างหนี้
อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทจะมีข่าวดีเรื่องการ ปรับโครงสร้างหนี้กับ บสท. แต่รายละเอียดเรื่อง
มูลหนี้อื่นๆ รวมถึงโครงการต่างๆ ที่จะสร้างราย ได้ให้กับบริษัทในอนาคตยังไม่มีความชัดเจน
จึงไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรหุ้น B-LAND
"ราคาหุ้นในปัจจุบันปรับขึ้นมาเต็มมูลค่าแล้ว ขณะที่โครงการในอนาคตก็ยังไม่เห็น
ส่วน โครงการเก่าก็ยังไม่ชัดเจนว่าปิดขายไปบ้างหรือไม่ เพราะฉะนั้นนักลงทุนไม่ควรเข้ามาเก็งกำไรแค่ข่าวการปรับโครงสร้างหนี้เท่านั้น"
ไตรมาสแรกยังขาดทุน 889 ล้าน
ด้านดำเนินงานล่าสุดของ B-LAND สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2546 บริษัทยังขาดทุนสุทธิจำนวน
889.97 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.48 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิถึง 1,923.28
ล้านบาท และขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 3.21 บาท หรือขาดทุนสุทธิลดลง 53.73%
โดยผลขาดทุนสุทธิที่ลดลงเกิดจาก B-LAND มีกำไรจากการซื้อคืนตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศจำนวน
1,855 ล้านบาท ภาระดอกเบี้ยลดลงจากการประนอมหนี้กับบสท. 787 ล้านบาท กำไรจากการโอนทรัพย์สินชำระหนี้
260 ล้านบาท ขณะที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1,685 ล้านบาท
ส่วนฐานะทางการเงินล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 6,000
ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 3,611 ล้านบาท ภาระหนี้สินรวมสูงกว่า 43,843 ล้านบาท
ขณะที่สินทรัพย์รวมจำนวน 47,454 ล้านบาท