การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่มี "บิ๊กบอส" มาจากทหารอากาศ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่ทัพฟ้าครั้งใดก็มักจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารในการบินไทย
เป็นประวัติศาสตร์ที่ดำรงอยู่จริงมาตลอด 28 ปีของการก่อตั้งสายการบินแห่งนี้
การโยกย้ายทหารเมื่อเดือนตุลาคม 2529 มีการพลิกโผชนิดหักปากกาเซียน เพราะพล.อ.อ.เกษตร
โรจนนิล เสนาธิการทหารอากาศในขณะนั้นได้ถูกวางตัวให้เป็น ผบ.ทอ.ต่อจากพล.อ.อ.ประพันธ์
ธูปเตมีย์ กลับกลายเป็นว่า พล.อ.อ.วรนารถ อภิจารี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศได้ดีขึ้นเป็นผบ.ทอ.
ส่วนพล.อ.อ.เกษตรนั้นหลุดจากวงโคจรไปเป็นรองผบ.สูงสุด
หลังจากนั้นมามีการเปลี่ยนแปลงมากมายที่กองทัพอากาศและการบินไทยพล.อ.อ.วีระ
กิจจาทร ซึ่งเป็นผู้ที่ พล.อ.อ.วรนารถให้ความไว้วางใจอย่างสูง ได้มาดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่
ซึ่งเขาได้เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงการบริหารภายในตลอดจนการแต่งตั้งโยก้ายอย่างมโหฬารอย่างที่เรียกกันว่า
"ล้างบางมาเฟีย"
ผลของการเปลี่ยนแปลงภายในการบินไทยยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะทำให้การพัฒนาองค์กรแห่งนี้ดีขึ้นหรือไม่
เพราะเวลายังไม่นานพอที่จะพิสูจน์ แต่ที่แน่ ๆ คือคนการบินไทยได้แบ่งเป็นสองฝ่าย
คือผู้ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น
เมื่อฟ้าผ่าอีกครั้งที่อาคารแปดแฉก พล.อ.อ.เกษตรได้หวนคืนกลับมาใหญ่ในรังเก่าในฐานะผบ.ทอ.
ส่วนพล.อ.อ.วีรารถต้องเข้ากรุไปในตำแหน่งเดียวกับที่ พล.อ.อ.เกษตรเคยนั่งเมื่อสองปีก่อนนั่นเป็นจุดที่ทำให้เกิดข่าวลือไปทั่วการบินไทยว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันอีกอย่างไม่ต้องสงสัย
"พล.อ.อ.วีระคงอยู่ไม่ได้ คุณฉัตรชัย (บุญยะอนันต์) อาจจะกลับมาใหญ่
ฯลฯ"
เช้าของวันที่เสาร์ที่ 16 กันยายน มีผู้คนเข้าแสดงความยินดีกับ ผบ.ทอ.กันเนืองแน่นและที่ขาดเสียมิได้ก็คือกลุ่มที่ว่ากันว่าเป็นมาเฟียเก่าการบินไทยทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นฉัตรชัย
กัปตันโยธิน ภมรมนตรีธรรมนูญ หวั่งหลี ก็พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านพล.อ.อ.เกษตรตั้งแต่ก่อนหกโมงเช้า
แม้ว่าพล.อ.อ.เกษตรจะกล่าวว่าจะไม่มีการมาล้างบางกันอีกเพราะทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งนั้น
แต่นักวิเคราะห์ทั้งหลายกลับคาดการณ์กันว่าคงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ในการบินไทยจะช้าหรือเร็วเท่านั้น