|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กบข.รับ ผลตอบแทนทั้งปีนี้ มีสิทธิ์ติดลบ 6-7% หากบรรยากาศหุ้นทั่วโลก ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ ย้ำกลยุทธ์ลงทุนเมืองนอกไม่ผิดผลาด ซ้ำยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าในประเทศ ส่วนปีหน้า มั่นใจผลตอบแทนดีดกลับเป็น 5-7% หลังประเมินตลาดหุ้นขานรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เล็งอีก 6 เดือนข้างหน้าใส่เงินลุยหุ้น พร้อมเพิ่มน้ำหนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์กินค่าเช่า
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เปิดเผยว่า ผลตอบแทนทั้งปีนี้ อาจจะติดลบประมาณ 6-7% หากสถานการณ์การลงทุนในหุ้นยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้ หลังจากตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนย้อนหลังไป 12 เดือนที่ผ่านมา ผลตอบแทนของกบข.ติดลบไปแล้ว 4.55% ทั้งนี้ ผลตอบแทนที่ติดลบดังกล่าว ต้องบอกว่าไม่ได้เกิดจากการออกไปลงทุนต่างประเทศของกบข. เพราะกองทุนในต่างประเทศก็ติดลบเช่นเดียวกัน
"การลงทุนต่างประเทศของกบข.ไม่ได้ผิดพลาดแต่อย่างใด ในทางกลับกันการลงทุนในต่างประเทศเองให้ผลตอบแทนกว่าการลงทุนในประเทศด้วยซ้ำ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหุ้นต่างประเทศลดลงประมาณ 30-35% ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงไปถึง 50% ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของไทยเองก็อ่อนค่าลงไป ทำให้การลงทุนในต่างประเทศได้ประโยชน์ เนื่องจากเราลงทุนไปตั้งแต่ค่าเงินอยู่ที่ 31 บาทกว่าๆ ก่อนจะอ่อนตัวมาอยู่ที่ 35 บาทกว่าๆ ในปัจจุบัน"นายวิสิฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า เชื่อว่าอัตราผลตอบแทนของกบข.จะพลิกเป็นบวกได้ประมาณ 5-7%จากราคาหุ้นที่ดีดตัวก่อนภาวะเศรษฐกิจโลกจะฟื้น เพราะเชื่อว่าในปีหน้าเศรษฐกิจน่าจะถึงจุดต่ำสุด ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา ตลาดหุ้นก็มักจะตอบรับข่าวล่วงหน้าประมาณ 6-9 เดือนก่อน ขณะเดียวกันมองว่าเศรษฐกิจไทยไม่ได้ย่ำแย่เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2540 และคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-3.5%
ทั้งนี้ กบข.จะทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอีกในช่วงเวลา 6 เดือนข้างหน้า เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนในหุ้นตรงกับกลยุทธ์การลงทุนที่วางไว้ โดยปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนหุ้นของกบข. มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ 7% และ ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ 7% เช่นกัน ซึ่งสัดส่วนการลงทุนในประเทศเอง เรามีเพดานการลงทุนไว้ที่ 11.5% ตามแผนการลงทุนในและในต่างประเทศ 12.5%
"ไม่ใช่ว่าหุ้นตกไป 50% แล้วเราจะไม่ลงทุนหุ้น เพราะหาก กบข.ไม่มีการลงทุนในหุ้น เชื่อได้ว่าอัตราผลตอบแทนในปีหน้าจะต่ำเพียง 1-2% ตามผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล จึงเห็นว่า กบข.ยังคงลงทุนในหุ้น และเตรียมที่จะเข้าลงทุนต่อไป ซึ่งขณะนี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างมากแล้ว โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ และสื่อสาร"นายวิสิฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า กบข.มีแผนจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนการลงทุนประมาณ 4% เนื่องจากที่ผ่านมา การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับกองทุนได้สูงถึง 8-10% โดยอสังหารมิทรัพย์ที่น่าสนใจ จะเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า อพาร์ตเม้นท์ให้เช่า ซึ่งสามารถปรับค่าเช่าในอนาคตได้ โดยในขณะนี้ กบข.มีเพดานการลงทุนในการลงทุนทางเลือกส่วนนี้ประมาณ 6.5-7% ซึ่งหลังจากนี้ จะทยอยลงทุนให้ได้ตามเพดานดังกล่าว
"เป็นเรื่องยากในการวางแผนการลงทุนในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพราะยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เรารู้ว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่จะไม่ดีแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ยังไงก็ตามเชื่อว่าในปีหน้า คงไม่ร้ายแรงเท่ากับปีที่เราประสบในปี 2540 แต่ขณะนี้เรายังไม่ลงทุนเพิ่ม เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจจะชะลอลงไปอีก ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนของเราจะลงทุนอย่างระมัดระวังและอยู่ในกรอบที่เหมาะสมที่สุด "นายวิสิฐกล่าว
ทั้งนี้ สมาชิกเองควรดูผลตอบแทนเป็นแบบพิจารณาย้อนหลัง 3 ปี 5 ปี ซึ่งไม่ควรดูเป็นปี เพราะต้องยอมรับว่าในปีนี้เป็นปีที่ไม่ปกติ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาสมาชิก กบข.ได้รับผลตอบแทนสะสม โดยหากสมาชิก กบข.ที่เริ่มเข้าร่วมตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนช่วงปี 40-50 อัตราผลตอบแทนอยุ่ที่ 8.24%ขณะที่ผลตอบแทนสุทธิย้อนหลัง 3 ปี (ปี 48-50)อยู่ที่ 6.47% และ ย้อนหลัง 5 ปี (ปี 46-50) อยู่ที่ 6.61%
โดยปัจจุบัน กบข.มีสินทรัพย์สุทธิทั้งสิ้น 3.6-3.7 แสนล้านบาท จากช่วงก.ย.51 ที่มี 3.9 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นคืนเงินให้สมาชิกที่เกษียณ 2 หมื่นราย โดยปีนี้มีสมาชิกที่เกษียณก่อนกำหนด 1.2-1.3 หมื่นราย ส่วน ณ สิ้นปี 50 กบข.มีสินทรัพย์ 3.6 แสนล้านบาท
|
|
|
|
|