Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2532
ถึงคราวแบงก์กรุงไทย ต้องขายของเก่ากิน             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
ประยูร ภู่พัฒน์
Banking and Finance




ประมาณการกำไรขาดทุนประจำปี 2532 ที่ธนาคารกรุงไทยเสนอต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการนำหุ้นเข้าไปขายให้แก่ประชาชนทั่วไปซื้อในราคาหุ้นละ 120 บาทนั้นคาดกันว่าสิ้นงวดบัญชีนี้จะมีกำไรประมาณ 308 ล้านบาท แต่วันนี้ดูเหมือนราคาหุ้นกรุงไทยที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ สูงสุดเพียง 116-117 ล้านบาท ผู้ที่ซื้อไว้ก่อนหน้าเข้าตลาดก็ขาดทุนไปทันที 3-4 บาทต่อหุ้น

ความเชื่อมั่นตามประมาณการที่ธนาคารเสนอนั้นดูจะไม่มีเอาเสียเลย แม้ตัวเลขสินเชื่อจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น แต่ตัวเลขการเร่งรัดหนี้ที่คั่งค้างมานาน ซึ่งคาดว่าจะตามมาให้ได้ถึง 3,000 ล้านบาท ดูจะน้อยลงไปทุกทีเมื่อเวลาสิ้นงวดบัญชีคืบคลานเข้ามาทุกขณะ

โดยเฉพาะเจ้าหนี้รายใหญ่อย่าง สุระ จันทร์ศรีชวาลา สว่าง เลาหทัย และพันเอกพล เริงประเสริฐวิทย์ แม้ข่าวของธนาคารเองจะระบุว่า เร่งรัดมาได้แล้ว 500 กว่าล้านบาทนั้นก็ยังนับไม่ถึงครึ่งของที่ตั้งเป้าไว้

รายการเชือดเนื้อเถือหนังจึงเริ่มต้นขึ้น

คณะกรรมการธนาคารมีมติให้ธนาคารขายคลังสินค้าของธนาคารออกไป 3 แห่งจากที่มีอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง คือ คลังสินค้าสำเหร่ คลังสินค้าวัดพระยาไกร และคลังสินค้าบางปะกง ด้วยวิธีประกวดราคา

เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีการเผยแพร่ข่าวออกมาให้กว้างขวาง เพื่อให้คนที่สนใจเข้าแข่งขันกันประมูลจำนวนมาก ๆ อย่างที่คนอื่นเขาทำกัน

แอบทำกันอย่างเงียบ ๆ โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่า เมื่อขายคลังสินค้าทั้ง 3 แห่งแล้ว ธนาคารจะมีรายได้เป็นเงินสด ๆ เข้ามาไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพราะคลังสินค้าแต่ละแห่งล้วนแต่ตั้งในทำเลทองกันทั้งนั้น

คลังสินค้าสำเหร่ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มีเนื้อที่กว่า 14 ไร่ ธนาคารกรุงไทยกำหนดราคาขั้นต่ำไว้ 440 ล้านบาท คลังสินค้าวัดพระยาไกรอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นกัน เนื้อที่รวมกัน 3 ไร่ครึ่ง กำหนดราคาขั้นต่ำไว้ 90 ล้านบาท และคลังสินค้าบางปะกงที่บางปะกงเนื้อที่รวมกัน 10 ไร่เศษ ตั้งราคาขั้นต่ำไว้ 18 ล้านบาท โดยกำหนดยื่นซองและเปิดซองประมูลกันในวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา

คลังสินค้าริมฝั่งเจ้าพระยาทั้งสองแห่งนั้น เดิมทีเป็นโรงแป้งมันของ สุริยน ไรวา เจ้าของธนาคารเกษตรก่อนที่จะถูกยึดและมารวมเป็นธนาคากรุงไทยในปัจจุบัน

คลังสินค้าที่เคยเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของสุริยนได้ถูกยึดมาด้วย เมื่อธนาคารเกษตรถูกสั่งให้รวมกับธนาคารมณฑล เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงไทยก็เลยได้รับมรดกตกทอดของเก่าสองชิ้นนี้มาด้วยเป็นช่วง ๆ

คลังสินค้าเหล่านี้ถูกปล่อยไว้นานจนทรุดโทรม ไม่ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เท่าใดนัก

"คลังสินค้าของธนาคารก็เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของงานสินเชื่อธนาคาร โดยเฉพาะการปล่อยกู้โดยการรับจำนำสินค้า นอกจากจะให้ความสะดวกทั้งฝ่ายลูกหนี้และเจ้าหนี้แล้ว ธนาคารเองก็ยังมีรายได้โดยตรงจากธุรกิจคลังสินค้าอีกต่างหาก ซึ่งปัจจุบันมีการส่งออกมาก ความต้องการด้านคลังสินค้าก็มีสูงตามไปด้วย เช่น ลูกค้ารายย่อย ๆ ที่ไม่มีกำลังพอที่จะสร้างคลังสินค้าของตัวเองขึ้นมา" คนในวงการค้าให้ความเห็นกับ "ผู้จัดการ"

อุปมาคลังสินค้าก็เหมือนแขนเหมือนขาของธนาคารนั่นเอง !

ในขณะที่ประยูร ภู่พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งรับนโยบายนี้มาจากคณะกรรมการธนาคารบอกว่า ปัจจุบันธนาคารไม่มีความจำเป็นต้องมีคลังสินค้าของตนเองมากเหมือนเมื่อก่อน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่มักจะมีคลังสินค้าของตนเอง สำหรับลูกค้ารายย่อยก็มีคลังสินค้าที่รับบริการอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และการรับจำนำสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องเอาสินค้ามาไว้ที่คลังสินค้าของธนาคาร

"หรือถ้าจำเป็นต้องใช้คลังสินค้าของแบงก์จริง ๆ ของเราเองก็ยังเหลือคลังสินค้าอีกตั้งสองแห่งเพียงพอที่จะใช้อยู่แล้ว" ประยูรกล่าว

มนัส รัตนรุกข์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการจัดประมูล บอกว่า เหตุที่ขายคลังสินค้าครั้งนี้ เพราะขณะนี้ใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ และบางแห่งก็ทรุดโทรมมาก รายได้ที่ได้ไม่คุ้มกับค่าภาษี และค่าบำรุงรักษา ซึ่งเงินที่ได้จากการขายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางอื่นได้มากกว่าและถ้าลูกค้าต้องการเช่าคลังสินค้า เพื่อนำสินค้ามาจำนำเพื่อกู้เงินหรือทำแพ็คกิ้งเครดิต ธนาคารก็ยังมีคลังสินค้าที่ราษฎร์บูรณะให้เช่าอยู่

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป้าหมายหลักในการขายของเก่าของธนาคารกรุงไทยในครั้งนี้ก็คือ รายได้ 550 ล้านบาทนั้น

แต่น่าเสียดายที่แม้แต่การขายของเก่ากินก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะข่าวการประมูลไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปในวงกว้างเท่าที่ควรจะเป็น ในวันเปิดซองแม้ "ผู้จัดการ" จะไม่ได้รับการยืนยันว่า มีใครบ้างที่เข้ายื่นซองแข่งด้วย แต่แหล่งข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์บอกว่า มีกันไม่ถึง 10 ราย

ต่างกับการประมูลขายที่ดินของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์แบงก์ และของกลุ่มศรีวิกรม์เมื่อกลางปีชนิดที่เรียกว่า หน้ามือกับหลังมือ

รายงานล่าสุดทราบเพียงแต่ว่าคลังสินค้าวัดพระยาไกรนั้น คนที่ได้ไปคือ บริษัทผาแดง อินดัสตรี้ เป็นผู้ประมูลชนะไปในราคาที่เสนอสูงสุด 112 ล้านบาท จากที่ธนาคารกรุงไทยตั้งราคาขั้นต่ำไว้เพียง 90 ล้านบาท

ส่วนคลังสินค้าบางปะกง แหล่งข่าวในธนาคารกรุงไทยบอกว่า คนที่เสนอราคาสูงสุด คือ บริษัทเพลา แต่ยังไม่เปิดเผยว่า ราคาที่เสนอนั้นเท่าใด ซึ่งอาจจะมีการประมูลใหม่อีกครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับคลังสินค้าสำเหร่ ซึ่งไม่มีใครเสนอราคามาแข่งขัน อาจจะเป็นเพราะว่า ราคาที่ตั้งไว้สูงเกินกว่าคนเพียงไม่กี่รายจะมาประมูลแข่งกันได้

ความหวังที่จะได้เงินสด ๆ เข้ามาปิดบัญชีอีก 500 ล้านบาท ก็คงต้องยืดออกไปอีกระยะ "ถ้าอยากได้ราคาดี ๆ ก็น่าจะเปิดประมูลในวงกว้างให้มากกว่านี้" แหล่งข่าวที่เป็นคนในกรุงไทยเองให้ความเห็นก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า การแอบทำกันเงียบ ๆ แม้จะเจตนาบริสุทธิ์ และระแวดระวังมากเกินไปก็ไม่วายคลายความสงสัยของคนที่แอบรู้มาไม่ได้

และที่สำคัญราคาหุ้นวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะขึ้นถึง 120 บาทเท่าทุนที่ถูกยัดเยียดให้ซื้อมาจากโบรกเกอร์ที่อันเดอร์ไรท์เลย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us