Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์24 พฤศจิกายน 2551
รับสร้างบ้านปีหน้าโตสวนกระแสขยับแชร์กินรวบผู้รับเหมารายย่อย             
 


   
search resources

Construction




ตลาดบ้านสร้างเองปีหน้าหดตัวต่อเนื่อง สมาคมรับสร้างบ้านฯ อาศัยวิกฤตเป็นโอกาส ใช้ชื่อเสียง-มาตรฐานเดินหน้ากินรวบแชร์รับเหมารายย่อย คาดเซกเมนต์ต่ำกว่า 2 ล้าน และ 5-10 ล้านหดตัว หลังกำลังซื้อลดลง จี้ภาครัฐผลักดันธุรกิจก่อสร้างเป็นฟันเฟืองกระตุ้นเศรษฐกิจ

สิ่งที่ธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเผชิญในปีหน้าดูเหมือนไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ มากนัก นั่นคือ ปัจจัยลบของตลาดรวม ที่กำลังซื้ออยู่ในภาวะหดตัวอย่างรุนแรง หลังจากที่ส่งสัญญาณให้เห็นมาตั้งแต่ปีนี้ แต่สิ่งที่ท้าทายยิ่งกว่าของตลาดรับสร้างบ้าน คือ เป้าการขยับมาร์เก็ตแชร์เพิ่มเป็น 20% หรือ 10,500 ล้านบาท จากเดิม 18% หรือ 9,800 ล้านบาท ในขณะที่ภาวะตลาดบ้านสร้างเองในกรุงเทพฯ และปริมณฑลในปีหน้า สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคาดว่า จากกำลังซื้อที่ลดลง ความไม่เชื่อมั่นของผู้บริโภค และชะลอการตัดสินใจสร้างบ้าน จะทำให้มูลค่าตลาดจะหดตัวลงอีก 5% เหลือ 52,415 ล้านบาท จากเดิม 54,590 ล้านบาทในปีนี้

อย่างไรก็ตามโอกาสของธุรกิจรับสร้างบ้านที่จะเติบโตท่ามกลางวิกฤตถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะในช่วงวิกฤต ชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัทถือเป็นคีย์สำคัญในการตัดสินใจสร้างบ้านของผู้บริโภค ผู้รับเหมารายย่อยที่ไม่ปรับตัวจะเสียเปรียบกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีการพัฒนามาตรฐาน มีผลงานในอดีตการันตี และมีฐานะทางการเงินมั่นคง ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะไม่มีการทิ้งงาน

เป้าหมายของธุรกิจรับสร้างบ้านที่ต้องการเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ สวนทางกับภาวะตลาดที่อยู่ในช่วงที่หดตัว ย่อมหมายความว่า จะต้องเข้าไปแย่งมาร์เก็ตแชร์จากผู้รับเหมารายย่อยมากขึ้น ทำให้แผนต่อจากนี้ของสมาคมฯ จะเน้นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ ส่วนหนึ่งจะมีการออกบูธตามงานอีเวนท์มากขึ้น ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.การจัดงาน Home Builder Focus เฉพาะสมาชิกสามัญของสมาคมฯ ช่วงเดือน ก.พ. 52 ที่เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 2.การเปิดบูธในงานสถาปนิก’52 พื้นที่ 1,000 ตร.ม. ช่วงเดือน พ.ค. 52 ซึ่งงานนี้จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่าเดิม 3.การจัดงานรับสร้างบ้าน 2009 ในเดือน ส.ค. 2552 ซึ่งการจัดงานของสมาคมฯ ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี มียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี โดยงานรับสร้างบ้าน 2008 ล่าสุด เมื่อเดือน ส.ค. มียอดขายภายในงาน 1,500 ล้านบาท

พันธุ์เทพ ทานชิติกุล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า นโยบายในปีหน้าของสมาคมจะมุ่งเน้นการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านเพิ่ม โดยจะมีโครงการพัฒนาแรงงานช่างฝีมือด้านการก่อสร้างเพิ่ม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีแรงงานเข้าสู่ตลาด หลังจากแรงงานด้านนี้เริ่มขาดแคลน เนื่องจากคนรุ่นใหม่มองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง

ปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด กล่าวว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปีหน้าที่จะหดตัว คือ ระดับ 5-10 ล้านบาท เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการสร้างบ้านหลังที่ 2 หรือลูกค้าเป็นกลุ่มนักธุรกิจ ซึ่งภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว คนกลุ่มนี้จะชะลอการตัดสินใจออกไป ส่วนกลุ่มบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากใช้เงินสดเป็นหลัก และในช่วงนี้ที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับลดลง จะเป็นปัจจัยเสริมช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่กลุ่มบ้านต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มเรียลดีมานด์ ยอดขายจะหดตัวน้อยกว่ากลุ่มราคา 5-10 ล้านบาท เนื่องจากเป็นผู้ที่มีรายได้ประจำ

ในขณะที่ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพคโฮม จำกัด เห็นว่า เซกเมนต์ที่จะหดตัวในปีหน้า คือ กลุ่มบ้านราคา 1-2.5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ต้องพึ่งสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ในขณะที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดในปีนี้หดตัวลงไปมาก เห็นได้จากมียอดขายต่อเนื่องหลังปิดงานอีเวนท์ลดลง หรือติดตามได้ยากขึ้น เนื่องจากลูกค้ายังไม่กล้าตัดสินใจ ทำให้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทฯ ต้องอัดโปรโมชั่นมากขึ้น เพื่อให้ได้ยอดขายตามเป้า และในปีหน้าสถานการณ์ที่ยังไม่คลี่คลายจนเป็นบวกต่อตลาด บริษัทฯ จะคงเป้ารายได้ของทั้ง 2 บริษัทไว้ 1,100 ล้านบาทเท่ากับปีนี้ ส่วนคอมแพค โฮม จะมีการปรับแบบบ้านให้ลงตัว เพื่อคุมราคาของแบบต่ำสุดให้เริ่มต้นไม่เกิน 800,000 บาท

ส่วนโฟร์พัฒนาในปีหน้าจะคงเป้ารายได้ไว้ที่ 505 ล้านบาทเท่ากับปีนี้เช่นกัน โดยบริษัทจะปรับมาทำตลาดดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในของบริษัทเพิ่มขึ้น จากเดิมมีเพียง 40% เพื่อสร้างรายได้ทดแทนยอดขายที่หดตัวลง กระตุ้นให้ลูกค้าทำสัญญาจ้างสร้างบ้านพร้อมตกแต่งภายใน และจัดสวนพร้อมกันเป็นแพคเกจ ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาก่อสร้างลงได้ 3-4 เดือน เพราะมีการออกแบบไว้เบ็ดเสร็จตั้งแต่แรก จากเดิมบางรายมีการเซ็นสัญญาเพื่อสร้างบ้านเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้จะเปิดรับงานก่อสร้างบ้านตามแบบที่ลูกค้าออกแบบไว้แล้ว ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเสริมรายได้ของบริษัท

พันธุ์เทพกล่าวว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นการบริโภคภายในประเทศทั้งหมด ทั้งการจ้างงาน และการผลิตวัสดุก่อสร้าง หากรัฐบาลให้ความสำคัญก็จะสามารถเป็นฟันเฟืองในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการบริโภค มีเม็ดเงินหมุนเวียนภายในประเทศได้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us