Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน21 พฤศจิกายน 2551
สตาร์ฯปั้น3แบรนด์แย่งแชร์รองเท้า             
 


   
search resources

Clothings
สตาร์แฟชั่นกรุ๊ป




สตาร์แฟชั่นกรุ๊ปรุกตลาดรองเท้า ปั้น 3 แบรนด์ที่รับไลเซ่นส์จากต่างประเทศ ลงตลาด “สนุก-โคลัมเบีย-ฟิทฟ็อป” จับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย หวังผลักดันรายได้รวมปีหน้าทั้งกลุ่มเสื้อผ้า-รองเท้าเพิ่มเป็น 1,500 ล้านบาท

นางสาวหทัยกร เลิศฤทธิ์วิมานแมน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาด บริษัท สตาร์แฟชั่น (2551) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ HAZARD, GARBANG, JEEP,CGO STAR และเสื้อผ้าเด็ก FIDO DIDO และผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รองเท้า SANUK, COLUMBIA และ FITFOP เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดรวมรองเท้าแฟชั่นมีมูลค่าอยู่ที่ ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งตลาดสินค้าแฟชั่นมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์รองเท้า ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคให้ความสนใจในรายละเอียดของดีไซน์และคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ ทั้งนี้ในปี 2551 ทางบริษัทฯได้มีการนำเข้าแบรนด์รองเท้าจากต่างประเทศ จำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ SANUK(สนุก),COLUMBIA และ FITFOP เพื่อเป็นการรุกตลาดรองเท้าไทย

สำหรับ“SANUK (สนุก)” เป็นแบรนด์รองเท้าจากอเมริกาที่มีจุดเด่นที่มีลวดลายและสีสันสะดุดตา โดยบริษัทฯได้รับไลเซ่นส์จากทาง PRIMER GROUP มาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งได้วางจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 2007 ได้ผลการตอบรับที่ดี มียอดขายอยู่ในอันดับที่ 4 จาก 30 แบรนด์ของโซนผลิตภัณฑ์รองเท้าของเซ็นทรัล โดยสัดส่วนของผลิตภัณฑ์รองเท้าสนุกแบ่งเป็น รองเท้าหุ้ม (Side walk surfer) 65% และรองเท้าแตะ (Sandals) 35%

กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์สนุกจะเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งชายหญิงที่มีอายุ 18-35 ปี ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติระดับกลางถึงสูง โดยปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ชาวไทย 40% และชาวต่างชาติ 60%

ส่วนแบรนด์ COLUMBIA เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องหนาวทั้งถุงมือรวมทั้งรองเท้า ซึ่งกำลังจะเปิดร้านที่สยามพารากอนในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในการสนับสนุนผู้แข่งขันในการแกะสลักน้ำแข็ง

ขณะที่แบรนด์ FITFOP เป็นแบรนด์รองเท้าเพื่อสุขภาพที่เปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายในช่องทางสุขภาพ ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ 2 สาขา โรงพยาบาลสมิติเวช 3 สาขา โรงพยาบาลปิยเวท 12 สาขารวมทั้งร้านขายยาฟาสซิโน 8 จุด

ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้รวม 1, 000 ล้านบาทแบ่งเป็น เสื้อผ้า 75% และรองเท้า 25% คาดว่าในปี 2552 ทางบริษัทฯจะมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท เนื่องจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นและการทำกิจกรรมต่างๆที่เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมทั้งมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์รองเท้าของบริษัทฯจะสามารถสร้างความโดดเด่นและแตกต่างจะคู่แข่ง ส่วนงบการตลาดรวมในปี 2552 จะเป็น 75 ล้านบาทจากยอดขาย 1,500 ล้านบาท

นายนพดล คุณจิรนาถ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์แบรนด์ “สนุก” บริษัท สตาร์แฟชั่น (2551) จำกัด เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯมีแผนจะดำเนินตลาดเชิงรุกด้วยงบการตลาด 2 ล้านบาท (เฉพาะแบรนด์สนุก) โดยแบ่งเป็นการAbove the line 1 ล้านบาท ที่เน้นการสื่อสารผ่านสื่อนิตยสารและ below the line 1 ล้านบาทโดยเน้นการจำหน่ายผ่านจุดขายในห้างสรรพสินค้า

ปัจจุบันทางบริษัทฯมีสาขาทั่วประเทศทั้งสิ้น 25 สาขาในรูปแบบของชอปในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ เซ็นทรัล เซน เดอะมอลล์ และโรบินสันรวมทั้งมีแผนที่ขยายสาขาในส่วนของห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น เช่นเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ทั้งนี้ทางบริษัทฯคาดว่าจะมียอดขาย 30 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2551 และคาดว่าสิ้นปี 2552 จะมียอดขายอยู่ที่ 35 ล้านบาท (เฉพาะแบรนด์สนุก)

“ แนวโน้มตลาดของรองเท้าแฟชั่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยมองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งปัจจุบันโดยเฉลี่ยจะมีรองเท้าเฉลี่ยที่ 5 คู่ต่อหนึ่งคน และพนักงานออฟฟิศหนึ่งคนจะเฉลี่ยเปลี่ยนรองเท้าอย่างน้อยเดือนละ 1คู่ เนื่องจากปัจจุบันรองเท้าแฟชั่นมีราคาถูก จึงทำให้ตลาดรองเท้ายังเติบโตได้ดี” นายนพดลกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us