Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 พฤศจิกายน 2551
ลุ้นดัชนีหุ้นไทยหลุด400จุดวันนี้             
 


   
search resources

Stock Exchange




ตลาดหุ้นไทยยังถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบจากต่างประเทศ ดัชนีรูดต่ออีก 11.46 จุด มูลค่าซื้อขายแค่ 8.5 พันล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายเฉียด 1.2 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ ชี้งาน SET In The City ไม่สามารถกระตุ้นบรรยากาศลงทุนหุ้นไทยได้ เหตุนักลงทุนต่างชาติขายต่อ–รายย่อยไทยไม่กล้าลงทุน นักลงทุนหันชอร์ตหุ้นใหญ่จากปัจจัยลบรุมเร้า พร้อมลุ้นดัชนีมีสิทธิหลุด 400 จุดวันนี้

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (19 พ.ย.) ยังถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบเดิมๆ คือ วิกฤตเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จนส่งผลให้สถาบันการเงินและบริษัทเอกชนรายใหญ่ๆ ประกาศปลดพนักงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงปัจจัยการเมืองในประเทศที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินหน้าต่อสู้ทางการเมืองอย่างเต็มที่

โดยภาคเช้าดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบใกล้เคียงกับราคาปิดครั้งก่อน ปรับตัวแตะระดับสูงสุดที่ 421.35 จุด ก่อนจะมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมาในช่วงบ่ายกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างรวดเร็ว จนปิดการซื้อขายที่ระดับต่ำสุด 408.51 จุด ลดลงจากวันก่อน 11.46 จุด คิดเป็น 2.73% มูลค่าการซื้อขายรวม 8,500.88 ล้านบาท

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,191.04 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 290.32 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 1,481.36 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย บมจ. ปตท. (.PTT) ราคาปิดที่ 150 บาท ลดลงจากวันก่อน 9 บาท หรือคิดเป็น 5.66% มูลค่าการซื้อขาย 985.19 ล้านบาท บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิดที่ 87 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 4.92% มูลค่าการซื้อขาย 825.32 ล้านบาท และ บมจ. บ้านปู (BANPU) ปิดที่ 175 บาท ลดลง 11 บาท หรือ 5.91% มูลค่าการซื้อขาย 817.29 ล้านบาท

นางสาวจิติมา อังสุวรังษี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟาร์อีสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่อ เนื่องจาก นักลงทุนต่างประเทศยังคงมีการขายหุ้นออกมาต่อเนื่องในหุ้นขนาดใหญ่ เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)หรือ PTT บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน)หรือ BANPU บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEPฯลฯ

ทั้งนี้จากที่มีนักวิเคราะห์ต่างประเทศมีการมองว่าราคาน้ำมันดิบจะมีการปรับตัวลดลงเหลือระดับ 25-30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และจากการที่นักลงทุนมีการยืมหุ้นมาขายชอร์ตนั้นก็ยิ่งทำให้ภาวะตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลง และจากการที่นักวิเคราะห์ได้มีการเข้าไปรับฟังข้อมูลของบริษัทในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีนั้นผู้บริหารมองว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส4/51จะไม่ดีทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการรายได้กำไร และราคาหุ้นลดลง

ประกอบกับภาพเศรษฐกิจโลกที่มีความถดถอยจากที่มีข่ายออกมารองรับมากขึ้น เช่น เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ดี ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน และนักลงทุนรายย่อยของไทยก็ไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุน จึงทำให้มูลค่าการซื้อขายปรับตวลดลงไม่ถึงระดับ 10,000 ล้านบาทต่อวัน

สำหรับแรงขายของนักลงทุนต่างชาตินั้นคาดว่าจะมีออกมาต่อเนื่องจากที่จะใกล้วันหยุดยาวในช่วงปลายปีจึงทำให้มีแรงขายออกมาต่อเนื่องทุกวัน แต่แรงขายออกมาแต่ละวันไม่มาก ประกอบกับการที่แนวโน้มปัจจัยทางการเมืองจะยืดเยื้อ และจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นางสาวจิติมา กล่าวว่า จากการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการจัดงาน SET In The City เชื่อว่าจะไม่ได้กระตุ้นทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากนัก ซึ่งคงจะมีบ้างที่นักลงทุนจะเข้ามาซื้อกองทุนหุ้นระยาว (LTF) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (RMF) บ้างเพื่อได้รับประโยชน์ทางภาษีแต่เชื่อว่าไม่มาก ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้ามารองรับกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติได้

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่องปัจจัยลบเดิมๆ เศรษฐกิจโลกถดถอย ต่างชาติขายหุ้นต่อเนื่องจากจะปรับพอร์ตการลงทุนก่อนวันหยุดยาว ปัญหาการเมือง โดยประเมินแนวรับที่ระดับ395-404 จุด แนวต้านที่ระดับ 410 -414 จุด ซึ่งบริษัทแนะนำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน จากที่ยังไม่มีปัจจัยบวกมีแต่ปัจจัยลบซึ่งตลาดหุ้นก็จะเป็นลักษณะค่อยๆปรับตัวลดลง

นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ดัชนีปรับตัวลดลงต่อจากปัญหาภาวะเศราฐกิจโลกถดถอยที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยต่อเนื่องจากที่มีการลดปลดพนักงานซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดประมาณการจีดีพีของไทยลงอีก และจากปัญหาทางการเมืองในเรื่องการที่รัฐบาลแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะทำให้มีแรงต่อต้านของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจากการที่นักวิเคราะห์ได้มีการไปรับฟังข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนนั้น ผู้บริหารบริษัทต่างๆ มีการคาดว่าผลการดำเนินงานจะมีการปรับตัวลดลงนั้นส่งผลให้นักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการราคาหุ้น และผลการดำเนินงานลดลง

ดังนั้นจึงทำให้มีนักลงทุนยืมหุ้นขนาดใหญ่ออกมาขายชอร์ตซึ่งยิ่งทำให้ตลาดหุ้นมีทิศทางที่ปรับตัวลดลง โดยบริษัทคาดว่าจากนี้ถึงสิ้นปีเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะมีการขายหุ้นออกมาอีกจากเป็นช่วงที่ใกล้วันหยุดยาว ประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2550 ที่มีแรงขายออกมา 15,700 ล้านบาท และจากสถิติการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าขณะนี้ยังมีเงินซื้อสุทธิอีกประมาณ 6.68 หมื่นล้านบาท

สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อ ซึ่งหากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลดลงรุนแรงซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจจะยิ่งไม่ดีจากเดิมโดยจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมันในการลงทุนในตลาดหุ้นทำให้มีแรงขายออกมา โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 400-408 จุด แนวต้านที่ระดับ 414-421 จุด

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับฐานในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค-ยุโรป โดยได้รับปัจจัยลบหลักๆ จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว บวกกับแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศในหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้งยังมีปัจจัยลบจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. 51 ลดลงมาอยู่ที่ 75.5 จากเดือนก.ย.ที่อยู่ 81.1

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางการเมืองของไทยยังเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทย ดังนั้นนักลงทุนต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่งผลให้แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (20 พ.ย.) มีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก และมีสิทธิที่จะปรับตัวต่ำกว่า 400 จุด จากวิกฤตการเงินที่ลุกลามสู่ภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช่นกัน ทั้งนี้ได้ประเมินแนวรับไว้ที่ 400 จุด และแนวต้าน 415 จุด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us