"เจริญโภคภัณฑ์อาหาร"พลิกฟื้นทำกำไรไตรมาส 2 ประมาณ 900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว
209% ด้วยยอดขายถึง 20,460 ล้านบาท เนื่องจากราคาไก่พุ่ง และอียูเลิกตรวจเข้มไก่ส่งออกจากไทย
100% ล่าสุดไต้หวันหันมาสั่งซื้อไก่จากไทยครั้งแรกรอบ 5 ปี คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตแบบก้าวกระโดด
บอร์ดบริษัทฯ ประกาศจ่ายปันผลทันที 5 กันยา หุ้นละ 5 สตางค์
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
จำกัด (มหาชน) (CPF) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2546 ว่า บริษัทมียอดขาย
20,460 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 900.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน
ที่มีกำไรสุทธิ 892.61 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นถึง 209% เมื่อเทียบจากไตรมาส 1 ปีนี้ที่มีผลขาดทุน
826.21 ล้านบาท
เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเติบโตของยอดขาย โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ และการส่งออกเนื้อไก่และกุ้ง
ประกอบกับการบริหารต้นทุนการผลิต ในธุรกิจสายสัตว์บกและสายสัตว์น้ำก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อัตราทำกำไรขั้นต้นจึงสูงขึ้นเป็น 13% จาก 6% ในไตรมาสแรก
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัทฯ อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากกำไรสะสมของบริษัท
ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าวทั้งจำนวนจากกำไรของกิจการที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่
22 สิงหาคม 2546 เวลา 12.00 น. และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2546
นายอดิเรก กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2
มีอยู่ด้วยกันหลาย ประการไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนของราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะไก่เนื้อมีชีวิต
ณ หน้าฟาร์มที่เริ่มฟื้นตัวจากระดับราคา ในไตรมาส 1 โดยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากราคากิโลกรัมละ
19-20 บาท มาเป็นราคาประมาณ 31-32 บาทในไตรมาส 2
รวมถึงปริมาณการส่งออกไก่ที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ราว 9% หรือเพิ่ม ขึ้นประมาณ
18% จากระยะเดียวกันของ ปีที่ผ่านมาโดยมีสหภาพยุโรปเป็นตลาดหลัก ประการต่อมาคือการส่งออกกุ้งที่เพิ่มจากไตรมาส
1 ถึง 27% ในทุกตลาด โดยมีสหรัฐฯเป็นตลาดหลัก นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกด้านต้นทุนการเงิน
ที่ ลดลงจาก 5.5% เมื่อปลายปี 45 มาเป็น 4.2% ซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการอย่าง
มีประสิทธิภาพของบริษัท
"ความเชื่อมั่นในคุณภาพเนื้อไก่-กุ้งส่งออกจากประเทศไทยมีมากขึ้น จะเห็นได้จากการที่อียูประกาศยกเลิกการตรวจเข้ม
100% ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์จากโรคซาร์สและไข้หวัดนก ด้านตลาดญี่ปุ่นก็มีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น
และล่าสุดไต้หวันก็มีคำสั่งซื้อเนื้อไก่ไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ทำ ให้ราคาเนื้อไก่ส่งออกปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
มาตลอด และน่าจะได้ราคาดีเช่นนี้ไปจนถึงสิ้นปี ด้านอุตสาหกรรมกุ้งก็มีแนวโน้ม
ที่จะฟื้นตัวขึ้นอีก 10% นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตก็น่าจะต่ำลง เนื่องจากราคาข้าว
โพดและถั่วเหลืองในตลาดโลกอ่อนตัว ทั้งหมดจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของซีพีเอฟในครึ่งปีหลัง"
นายอดิเรกกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ รับทราบการเข้าทำสัญญาเช่าทรัพย์สินโรงงานทำอาหารสัตว์ของ
Hainan Chia Tai Animal Husbandry Co., Ltd. โดย C.P. Aquaculture (Hainan) Co.,
Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
CPH จะเข้าทำสัญญาเช่าโรงงาน อาหารสัตว์ พร้อมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่
ณ เมือง Cheng Mai มณฑล Hainan ประเทศจีน บนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ จาก HCT มี กำหนดเวลา
5 ปี โดย CPH จะต้องจ่ายค่าตอบแทนในการเช่าทรัพย์สินให้แก่ HCT ประมาณ 129 ล้านบาท
โดย อัตราค่าเช่านี้อ้างอิงจากการประเมินราคาของผู้ประเมินราคาอิสระ
นอกจากนี้ บอร์ดบริษัทฯ ได้อนุมัติการเข้าทำข้อตกลงกับบริษัท อินโฟเทควิชั่น
จำกัด (IFT) เพื่อการใช้ระบบงานบริหารทรัพยากรบุคคล สำหรับพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อยจำนวน
8 พันคน ภายในกำหนดระยะเวลา 3ปี โดยบริษัทจะจ่ายค่าตอบ แทนที่เรียกเก็บครั้งเดียวเมื่อเข้าใช้ระบบเป็นครั้งแรกเป็นเงิน
39 ล้านบาท และค่าตอบแทนรายปีอัตรา 240 บาท/คน คิดเป็นวงเงินปีละ 19 ล้านบาท
ทั้งนี้ IFT มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เกี่ยวโยงกันกับ CPF จากการ ที่ต่างฝ่ายต่างมีบริษัท
เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่