Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 สิงหาคม 2546
R&Iยุ่นเพิมเครดิตไทย ชมฝีมือทักษิณ-ตราสารหนี้ระยะยาวดีขึ้น             
 


   
search resources

ฟิตช์ อิบคา
Standard & Poors (S&P)
Japan Rating & Investment Information Inc. - R&I
มูดี้ส์ อินเวส-เตอร์ เซอร์วิส
พรรณี สถาวโรดม




เครดิตเรตติ้ง R&I จากญี่ปุ่น ปรับเพิ่มเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวไทยเป็น BBB+ ระบุ การบริหารของรัฐบาลไทย ส่งผลเกิดการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศต่อเนื่อง ตลอดจนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งระดับหนี้สาธารณะลดลง แต่แนะไทยควรขยายฐานภาษี เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านสังคมเพิ่ม ติงการปล่อยสินเชื่อแบงก์เอกชน ให้ภาคธุรกิจยังไม่ฟื้น แนะไทยเร่งปรับการแข่งขันเพิ่ม ไม่งั้นนักลงทุนยุ่นมีสิทธิซบปักกิ่งเพิ่ม คลังเตรียมออก บาทบอนด์ขายในเอเซียนบอนด์ฟันด์

ขณะที่คลังคาด S&P จากแดนมะกัน จะใช้เวลาตัดสินใจปรับเรตติ้งไทยเพิ่มอีกประมาณ 2 เดือน ส่วนฟิตช์ อิบคา จากอังกฤษ เตรียมเดินทางเก็บข้อมูลในไทยสิ้นเดือนนี้ ขณะที่มูดี้ส์ อีกเจ้าแดนมะกัน คาดเข้ามาใหม่ภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า "สำนักบริหารหนี้สาธารณะ" มั่นใจ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผ่านมา น่าพอใจ หลังเศรษฐกิจประเทศขยายตัวต่อเนื่อง 3 ไตรมาส

นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง เปิดเผยวานนี้ (7 ส.ค.)ว่าภายในปลายเดือนนี้ตัว แทนสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิตช์ อิบคา จากอังกฤษ จะเดินทางเก็บข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศไทย ก่อนประเมินผลเพื่อปรับอัน ดับความน่าเชื่อถือไทย

ขณะที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P)จากแดนมะกัน คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 เดือน ก่อนจะประกาศเป็นทางการ ส่วนตัวแทนมูดี้ส์ เพื่อนร่วมชาติมะกัน เดินทางเข้ามาแล้วต้นปีนี้ ซึ่งอาจกลับมาใหม่อีกครั้งภายในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

"แนวโน้มที่สถาบันเหล่านี้ จะปรับเครดิตของเราหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละที่ โดยจะพิจารณาจากความต่อเนื่องของภาวะเศรษฐกิจในประเทศเราเป็นหลัก ซึ่งจากการชี้แจงข้อมูลในช่วงที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวต่อเนื่อง มาตลอดในช่วง 3 ไตรมาส" นางพรรณีกล่าว

อย่างไรก็ตาม สถาบันจัดอันดับเครดิตต่างประเทศเหล่านี้ ยังห่วงปัญหาการเงิน และสถาบันการเงินในประเทศ ซึ่งยังคงมีปัญหามาก โดยเฉพาะการอัดฉีดเงินเข้าสู่ภาคธุรกิจแท้จริงยังคงมีน้อย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว

อันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบัน 3 แห่ง คือ เอสแอนด์พี มูดี้ส์ และ ฟิตช์ อิบคา ยังคงจัดอันดับ ตราสารหนี้ระยะยาวของประเทศไทย BBB-

R&I เพิ่มเครดิตตราสารหนี้ระยะยาวไทย

นางพรรณี เปิดเผยวานนี้ว่า บริษัท Japan Rating & Investment Information, Inc. (R&I) ประกาศผลวิเคราะห์เครดิตประเทศไทย โดยคณะกรรมการจัดระดับเครดิต (Rating Committee) ปรับเพิ่มระดับเครดิตตราสารหนี้ ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ ( Foreign Currency Long Term Credit Rating ) จาก BBB เป็น BBB+ โดยมีแนวโน้มเครดิตระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ยืนยันระดับเครดิตตราสารหนี้ระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศ a-2

R&I ให้เหตุผลปรับเพิ่มระดับเครดิตดังกล่าว จากการดำเนินนโยบายกระตุ้นอุปสงค์ในไทย ภายใต้การบริหารของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งผลเกิดการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศอย่างรวดเร็ว เก็บรายได้ของภาครัฐสูงขึ้นมาก หนี้สาธารณะลดลงเห็นได้ชัด และระบบการเงินประเทศมีเสถียรภาพ

R&I เชื่อว่าการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น ปัจจัยภายนอกจะมีผลน้อยลง อีกทั้งเสถียรภาพการเมือง ทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ ประเทศไทย ยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง และพัฒนาตลาดตราสารหนี้ ซึ่งช่วยส่งเสริมการกู้เงินภายในประเทศ และทำให้การก่อหนี้ต่างประเทศลดลง

แนะขยายฐานภาษี-เพิ่มความสามารถแข่งขัน

R&I ให้ความเห็นว่า ไทยควรขยายฐานภาษี เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านสังคมที่เพิ่มขึ้น เช่น ระบบประกันสังคม ส่วนการขจัดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ระบบสถาบันการเงินไทย ถือว่าเกือบสมบูรณ์ แล้ว

แต่การปล่อยสินเชื่อธนาคารเอกชนให้ภาคธุรกิจ ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร R&I ให้ข้อสังเกตว่า รายได้เฉลี่ยต่อหัวของไทย ประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ยังค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับมาเลเซีย เพราะขาดอุตสาหกรรมก่อเกิดมูลค่าเพิ่มสูง ดังนั้นระยะยาว การลงทุนจากต่างประเทศ เช่น จากญี่ปุ่นจะกระจุกตัวที่จีน หากไม่เร่งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน

"กระทรวงการคลังเห็นว่า การปรับระดับเครดิตโดย R&I ครั้งนี้ จะทำให้นักลงทุนในตลาด เงินทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่น มีความเชื่อมั่นในเครดิตของประเทศไทยสูงขึ้น อย่างไรก็ดี จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงต้นทุนการกู้เงินในตลาดเงินทุนต่างประเทศ เพราะอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ของประเทศไทยจะอยู่ในระดับที่ดีกว่าระดับเครดิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน" นางพรรณีกล่าว

คลังเตรียมออกบาทบอนด์ขายในเอเซียนบอนด์ ฟันด์

นางพรรณีกล่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดจะออกตราสารหนี้สกุลเงินบาท เพื่อเสนอขายเอเซียน บอนด์ ฟันด์ ความเป็นไปได้ อาจกู้เพื่อชดเชยความ เสียหายกองทุนฟื้นฟูฯ ส่วนระยะเวลาแน่นอน ขึ้น กับการประชุมผู้นำกองทุนฯนี้ ว่าจะมีความคิดเห็น เช่นไร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us