Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน19 พฤศจิกายน 2551
เช่าซื้อรถปีหน้าแข่งระอุ คาร์ฟอร์แคชผนึกBAYสู้             
 


   
search resources

Leasing
อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส, บมจ.




คาร์ฟอร์แคชประเมินสินเชื่อเพื่อการมีรถปีหน้าแข่งดุ คาดทั้งระบบโตไม่เกิน 10% เผยกลยุทธเน้นด้านบริการมากกว่าแข่งหั่นดอกเบี้ย พร้อมเพิ่มพนักงานเดลิเวอรรี่เดินสายพบลูกค้าถึงบ้าน หวังช่วยดันอัตราการเติบโตให้ถึง 20% รับอยู่ระหว่างศึกษาช่องทางขยายธุรกิจผ่านแบงก์หลังแบงก์กรุงศรีฯเข้าถือหุ้น ส่วนยอดหนี้เน่าปัจจุบันอยู่ในระดับ 2.1% จากทั้งระบบที่อยู่ในระดับ 2.3-2.5% และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน)(AYCAL) ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อการมีรถ หรือคาร์ฟอร์แคช เปิดเผยว่า ภาพรวมในปีหน้าของสินเชื่อเพื่อการมีรถนั้นจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยกลยุทธ์ที่จะนำมาแข่งขันนั้นจะเป็นในด้านของการบริการมากกว่าที่จะเป็นเรื่องของการตัดราคาด้วยการเสนออัตราดอกเบี้ย 0% โดยภาพรวมตลาดสินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ของไทยทั้งระบบมีเม็ดเงินสะพัดอยู่ประมาณ 500,000 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจรถยนต์ประเภทใช้แล้ว มีมูลค่าตลาดประมาณ 100,000 ล้านบาท แยกเป็นธุรกิจรีไฟแนนซ์ มูลค่า 25,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวทางบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 40%หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจสินเชื่อรีไฟแนนซ์ในปีหน้ายังมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแต่ไม่น่าเกิน 10% ซึ่งบริษัทคาดว่าคาร์ฟอร์แคชจะมีการขยายตัวอยู่ประมาณ 20%จากในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 30% โดยกลยุทธ์หลักๆของบริษัทจะเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อเนื่องจากที่ในปีนี้บริษัทได้มีการจับมือกับพันธมิตรทางการค้าผ่านเต็นท์รถใช้แล้วกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ ตัวแทนกว่า 250 ราย พนักงานคอลเซ็นเตอร์ 200 ราย และพนักงานคาร์ฟอร์แคช ดิลิเวอรี่ 400 คน ซึ่งปีหน้าจะเพิ่มเป็น 600 คน ที่พร้อมให้บริการถึงบ้านครอบคลุมทุกพื้นที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจและตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นสำคัญ และในอนาคตอาจสร้างเครือข่าย เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า เช่น ตามร้านขายของชำ เป็นต้น พร้อมกันนั้นก็จะมองหาตัวแทนพันธมิตรเพิ่มเพื่อรองรับกับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย อาทิ ร้านคาร์แคร์ ร้านแต่งรถ เป็นต้น

"แม้ว่าตลาดสินเชื่อรีไฟแนนซ์น่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยในด้านต่างประเทศ แต่เชื่อว่ายังจะมีการเติบโตที่สูงกว่าสินเชื่อบุคคลทั่วไปแน่นอน ส่วนจุดเด่นของคาร์ฟอร์แคชที่บริษัทให้บริการอยู่นั้นคือการให้วงเงินเต็ม 100% จากราคาประเมินของบริษัท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 60 เดือน ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันในการสมัครขอสินเชื่อ โดยฐานเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 8,000 บาทขึ้นไป และรู้ผลอนุมัติเร็วรับได้เงินภายใน 1 วัน และสิ่งที่เราจะเน้นการปีหน้าคือเรื่องของการเพิ่มจำนวนพนักงานคาร์ฟอร์แคชเดลิเวอรี่ รวมถึงจะมีการพัฒนาและสนับสนุนดีลเลอร์ให้มากขึ้น สำหรับงบการตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท จากในปีนี้ใช้อยู่ที่ประมาณ 130-150 ล้านบาท"

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาขั้นตอนของการทำธุรกิจผ่านช่องทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ซึ่งเป็นบริษัทแม่ว่าจะสามารถทำได้อย่างไรบ้าง ซึ่งการศึกษานั้นจะดูถึงกฎระเบียบข้อบังคับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะสามารถใช้ช่องทางผ่านธนาคารได้อย่างไรบ้างในปีหน้า

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตสินเชื่อรวมทั้งหมด มูลค่า 48,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อรถใช้แล้ว 24,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50% ของพอร์ต สินเชื่อรีไฟแนนซ์ 20,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 42% และสินเชื่อรถมอเตอร์ไซต์ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8% ส่วนฐานลูกค้าปัจจุมีมีอยู่ประมาณ 100,000 ราย แบ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ 30% และต่างจังหวัด 70% โดยในปีหน้าคาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงคือ ลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯจะลดลงเหลือ 25% และต่างจังหวัดจะเพิ่มเป็น 75%

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อคาร์ฟอร์แคชในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.1% ขณะที่ในตลาดอยู่ที่ 2.3-2.5% ซึ่งระดับเอ็นพีแอลดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่ปกติ และยังไม่มีสัญญาณผิดนัดชำระที่มีนัยสำคัญแต่อย่างใด แต่ในปีหน้าซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจคงจะมีการชะลอตัวลงนั้นก็มีความเป็นห่วงว่าลูกหนี้จะมีศักยภาพในการชำระหนี้น้อยลง แต่อย่างใดก็ตามทางบริษัทได้มีโมเดลในการให้ความช่วยเหลือไว้แล้ว เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการยืดเวลาการชำระหนี้ เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us