|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทัพธุรกิจขายตรง ระบุปี 52 ต้องฝ่าปัจจัยลบวิกฤตเศรษฐกิจโลก กระทบอารมณ์ผู้บริโภค แต่มีปัจจัยบวกหนุนคนแห่หารายได้เสริม ตบเท้าเข้าอาชีพขายตรง เอวอน ชี้เป็นปีทองธุรกิจขายตรงสินค้าระดับกลางขาขึ้น ปักธงการลงทุนเพื่อกระจายผลประโยชน์ ส่วนมิสทิน มั่นใจตลาดยังเติบโต 5-10%
แพทย์หญิงนลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงในปีหน้านี้ คาดเดาได้ยากว่าทิศทางจะเป็นอย่างใด เนื่องจากมีปัจจัยลบด้วยกันหลายประการ โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่ยังไม่ชัดเจน ส่งผลกระทบผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตามคาดว่าสินค้าที่เป็นเรือธงในปีหน้า มีด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
“ปีหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขายตรง ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับแผนรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอด พิจารณาการทำตลาดเป็นเดือนต่อเดือน ส่วนผู้ประกอบการอิสระต้องปรับการนำเสนอสินค้าและวิธีการทำงานใหม่ๆ มาปรับใช้”
สำหรับแผนการตลาดในปีหน้าเพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยบริษัทจะโฟกัสนักธุรกิจ ผู้ประกอบการอิสระให้มากขึ้น พิจารณาสภาพแวดล้อมทั้งปัจจัยลบและบวก เพื่อปรับเปลี่ยนการทำตลาดได้อย่างรวดเร็วรองรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอด เช่น กรณีผู้บริโภคมีความระมัดระวังการใช้สอย มุ่งเน้นการเปิดตัวสินค้าที่สอดคล้องกับกำลังซื้อ ลดสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง
เอวอนชี้ปีทองสินค้าแมส-กลาง
นางเพ็ญโฉม บุญทวีกิจ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เอวอน ประเทศไทย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงเอวอน เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจขายตรงในปีหน้านี้ ยังคงเป็นตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความงาม อย่างไรก็ตามท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นบริษัทจึงมองว่าเป็นโอกาสในการทำตลาดสำหรับเอวอน ซึ่งเป็นสินค้าเจาะกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง เป็นหลัก เนื่องจากลูกค้าจะหันมาซื้อสินค้าที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินมากขึ้น
สำหรับแนวการตลาดในปีหน้านี้ บริษัทไม่เน้นดำเนินการตลาดเชิงรุก แต่ระบบของธุรกิจจะมีความชัดเจนมากขึ้น จากปัจจุบันระบบขายตรงของเอวอนมีด้วยกัน 2 ระบบ ได้แก่ ระบบขายตรงชั้นเดียวกับสองชั้น นอกจากนี้ยังมุ่งสร้างรายได้ให้สมาชิกเอวอนควบคู่กับการรักษาฐานสมาชิก ตลอดจนการปรับผู้บริหารกลุ่มให้เอวอนมีอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อกระจายผลประโยชน์
มิสทินชี้ปี52ธุรกิจขายตรงยังโต
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรง มิสทิน เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจขายตรงในปีหน้านี้ คาดว่ามีอัตราการเติบโต 5-10% ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยปัจจัยลบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดขายตรง ขณะเดียวกันมองว่าเป็นโอกาสในการทำตลาดของมิสทิน เนื่องจากมีสินค้าคุ้มค่าคุ้มราคา สอดคล้องกับกำลังการซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเมื่อเทียบกับธุรกิจขายตรงระดับพรีเมียม คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากกว่า
“ปีหน้านี้แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่มิสทินมองว่าเป็นโอกาส เพราะมีคนจำนวนมากที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิกเพื่อหารายได้เสริม ส่วนผู้บริโภคเองก็มีความข้อมูลในการซื้อสินค้ามากขึ้น และเริ่มรู้ว่าคุณภาพสินค้าไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก”
สำหรับนโยบายการทำตลาด มุ่งขยายฐานลูกค้าระดับบีถึงเอในเชิงรุกมากขึ้น โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจาก 25% เป็น 50% และคาดว่าปีหน้านี้จะมีสาวมิสทินเพิ่มจาก 7 แสนราย เป็น 7.5 แสนราย ขณะที่ปี 2553 วางเป้าหมายรายได้ 1 หมื่นล้านบาท ผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้า 8,200 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 7,600 ล้านบาท
|
|
|
|
|