เพอร์เฟคได้ฤกษ์ขายคอนโด 3 โครงการ-บ้านหรูส่งท้ายปี เร่งรีเซลคอนโดสาทรรับมือยอดรีเจคคอนโดพุ่ง ปรับแผนลงทุนโครงการใหม่ปีหน้า เทน้ำหนักแนวราบต่ำกว่า 4 ล้านบาท ยืดงวดผ่อนดาวน์-ลดไซส์คอนโด รับมือกำลังซื้อหดตัว ตั้งเป้าปีหน้ายอดขายทรงตัวเท่าปีนี้ เน้นถือเงินสด ชะลอแผนระดมทุนลดความเสี่ยง
สถานการณ์ภายนอกที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง หากพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคไม่ปรับตัว ยอดพรีเซล 9,000 ล้านบาทที่ตั้งไว้ปีนี้ก็อาจไปได้ไม่ถึงเป้า โดยในโค้งสุดท้ายของปีนี้เพอร์เฟคฝ่ากระแสตลาดคอนโดมิเนียมที่เริ่มเข้ายุคชะลอ ด้วยเปิดขายคอนโดมิเนียมเฟส 3 ของโครงการเมโทร พาร์ค สาทร 112 ยูนิต ราคา 47,000-64,500 บาทต่อ ตร.ม. และ 2 โครงการใหม่ในแนวรถไฟฟ้า หลังจากที่ถูกเลื่อนเปิดโครงการมาตั้งแต่ต้นปี เพราะต้องรอให้ผ่าน EIA รวมถึงเตรียมจะเปิดขายโครงการบ้านแพง ที่ซัปพลายกำลังขาดตลาด ซึ่งธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) (PF) เห็นว่า หากไม่มียอดขายคอนโดมิเนียมมาช่วย ก็อาจจะทำให้ยอดขายทั้งปีต่ำกว่าเป้า รวมถึงตัวเลขของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ระบุว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวกว่า 60,000 ยูนิตต่อปี ขายได้ 45,000 ยูนิต เหลือขายเพียง 20,000 ยูนิต ทำให้มั่นใจว่า ตลาดคอนโดมิเนียมยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกในอนาคต
2 โครงการใหม่ ได้แก่ เมโทร สกาย สุขุมวิท สูง 18 ชั้น 3 อาคาร รวม 588 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ ริม ถ.สุขุมวิท 103/4 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข ราคา 52,000-82,500 บาทต่อ ตร.ม. เริ่มต้น 1.6 ล้านบาท มูลค่ 1,400 ล้านบาท พื้นที่ด้านหน้าจะพัฒนาเป็นรีเทล และสร้าง Sky Walk เชื่อมกับรถไฟฟ้า และเมโทร สกาย รัชดา เฟส 1 สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวม 386 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่ ถ.รัชดาภิเษก ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า 500 เมตร ระหว่างสถานีสุทธิสารและห้วยขวาง ราคา 66,500-86,000 บาทต่อ ตร.ม. เริ่มต้น 1.7 ล้านบาท มูลค่า 1,100 ล้านบาท ใช้แนวคิด Lagoon ในการออกแบบโครงการ โดยในเฟส 2 ของโครงการที่รัชดาฯ มีแผนจะขึ้นเป็นตึกสูง ทั้งนี้ราคาเหล็กที่ลดลงจากช่วงกลางปีกว่า 50% ทำให้ราคาขายคอนโดมิเนียมล็อตใหม่นี้ตั้งราคาขายได้ต่ำลง 5%
นอกจากนี้ในปลายเดือนมีแผนจะเปิดขายโครงการบ้านระดับไฮเอนด์ ราคา 12-36 ล้านบาท มูลค่า 820 ล้านบาท รวม 55 ยูนิต เป็นเฟสต่อเนื่องในโครงการเก่าที่เอกมัย-รามอินทรา, รามคำแหง,พัฒนาการ หลังจากซัปพลายบ้านหรูลดลง ในขณะที่ดีมานด์ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ส่วนในปลายปีจะจัดโปรโมชั่น 1 ปีมี 3 วัน คัดบ้านแปลงพิเศษมาลดราคา เพื่อกระตุ้นยอดขาย ตั้งเป้ายอดขาย 800 ล้านบาทเท่าปีที่แล้ว
ในปีหน้าธีระชนคาดว่า กำลังซื้อจะหดตัวลง บริษัทจึงคงเป้ายอดขาย 9,000 ล้านบาท ทรงตัวเท่ากับปีนี้ โดยจะเน้นพัฒนาบ้านระดับราคาไม่เกิน 4 ล้านบาทเป็นหลัก เพี่อให้เข้ากับกำลังซื้อ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ซึ่งปีหน้าจะเริ่มนำระบบก่อสร้างสำเร็จรูปมาใช้ 100% ช่วยย่นระยะเวลาก่อสร้างจาก 6 เดือนเหลือ 4 เดือน ทำให้ภาระดอกเบี้ยของบริษัทลดลงมาก
ส่วนคอนโดมิเนียมจะพัฒนาเฉพาะขนาดสตูดิโอ และ 1 ห้องนอนเท่านั้น เพื่อคุมราคาขายไม่ให้สูงเกิน 3 ล้านบาท การผ่อนดาวน์คอนโดมิเนียมจะยืดระยะเวลาเป็น 2 ปี เพื่อให้งวดต่อเดือนลดลง ลดภาระของลูกค้า ในขณะที่โครงการเมโทร พาร์ค สาทรที่กำลังเร่งโอน และมียอดปฏิเสธสินเชื่อกว่าครึ่งหนึ่ง คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านบาท จากแบ็กล็อกที่รอโอน 2,300 ล้านบาท บริษัทจะเร่งเอามารีเซล เพื่อสร้างยอดรับรู้รายได้ให้เร็วที่สุด
วิกฤตซับไพรม์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อแผนการระดมทุนและการขอสินเชื่อโครงการของบริษัทฯ เช่นกัน โดยแผนการออกหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ การซื้อหุ้นคืน การจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกรรมที่ต้องพึ่งเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันถูกชะลอออกไปหมด ในขณะที่การพิจารณาสินเชื่อโครงการของสถาบันการเงิน ธีระชนกล่าวว่า ธนาคารได้ปรับเกณฑ์การพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้เข้มงวดมากขึ้น โดยโครงการที่จะพิจารณาปล่อยกู้จะต้องมียอดพรีเซล 60% ขึ้นไป จากเดิม 50% เมื่อต้นปี ส่วนธนาคารที่มีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติ และได้รับผลกระทบจากซับไพรม์ก็ชะลอการปล่อยสินเชื่อ เพราะกังวลเรื่องฐานะทางการเงินของตนเอง ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าไปเจรจากับธนาคารสัญชาติไทยแทน เช่น ออมสิน ธนาคารกลางอิสลามแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ปีหน้าจะไม่เน้นการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อบริหารสภาพคล่องของบริษัท
|