SMEs หวังแจ้งเกิดในตลาดเกาหลีใต้ สสว.ดัน 4 กลุ่มอุตฯนำร่องในตลาดกิมจิ ชี้ “สิ่งทอ-ท่องเที่ยว-อัญมณี-ดิจิตอลคอนเทนต์” มีโอกาสไปได้สวย ย้ำต้องใช้สิทธิประโยชน์ AKFTA ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ขณะที่การค้าระหว่างกัน 9 เดือนแรกไทยขาดดุลไปแล้ว 8 หมื่นล้าน
หากพูดถึงการค้าระหว่างประเทศไทยกับเกาหลีใต้ดูเหมือนว่าจะทรงตัวมาตลอด 5-10 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในช่วง 2-3 ปีมานี้เป็นช่วงที่กลุ่มประเทศอาเซียน ได้ทำความตกลงค้าเสรี ระหว่างอาเซียนและเกาหลี ASEAN - Korea Free Trade Agreement : AKFTA โดยมีประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศได้ลงนามไปแล้วเหลือเพียงไทยเท่านั้นที่ยังไม่ลงนามร่วมข้อตกลงดังกล่าว
อย่างไรก็ดีการที่ไทยยังไม่ลงนาม อาจจะทำให้ไทยเสียผลประโยชน์จากการลงนามล่าช้ากว่าประเทศอื่นและปัจจัยหลักที่ไทยยังไม่ลงนามร่วมกับเพื่อนสมาชิกคือ หวั่นว่าผู้ประกอบการรายเล็กหรือ SMEs ในบ้านเราจะสู้ SMEs จากเกาหลีใต้ไม่ไหว ทั้งเกรงว่าการเปิดตลาดเสรีดังกล่าว SMEs ในบ้านเราจะถูกแย่งตลาดไปครอง รวมทั้งการส่งออกก็ยังสู้ไม่ได้อีก นี่คือความห่วงใยของภาคเอกชน
4 กลุ่ม SMEs หวังแจ้งเกิด
ขณะที่ในรายงานวิจัยของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) และ สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พบว่ามี 4 อุตสาหกรรมที่น่าจะมีโอกาสในตลาดเกาหลีใต้ ประกอบด้วย
1.อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยเป็นแหล่งนำเข้าของเกาหลีใต้ในลำดับที่ 17 คิดเป็นมูลค่า 21.97 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยสินค้าที่มีการนำเข้าจากไทยมากที่สุด คือ พลอยสี
นอกจากนี้ไทยยังเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องประดับเทียมในอันดับต้นๆ ของเกาหลีด้วย ขณะที่เครื่องประดับแท้ ก็เป็นสินค้าที่มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ เพราะมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ โดยช่องทางการจำหน่ายที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การซื้อผ่านทาง TV Home Shopping และ Online Shopping Mall
ส่วนการเข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ของ SMEs ไทย ภายใต้ความตกลงเสรีการค้า อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี พบว่า วิธีการส่งออกโดยผ่านตัวแทนจำหน่าย จะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ตลาด ส่วนวิธีการส่งออกทางตรง จะเป็นโอกาสที่ดีต่อผู้ประกอบการ SMEs เนื่องจากมีต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศเกาหลี
2.อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ในแต่ละปีสูงกว่าการส่งออกไปทั่วโลก สินค้ากลุ่มสิ่งทอ ที่เกาหลีใต้มีการนำเข้าสูงที่สุด คือ ฝ้าย เส้นใยประดิษฐ์ ใยยาวประดิษฐ์ และวัตถุสิ่งทอประดิษฐ์ สำหรับสินค้าสิ่งทอที่สร้างมูลค่าให้ไทยในการส่งออกคือ ฝ้าย และเส้นใยประดิษฐ์ หรือกล่าวได้ว่า สินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยที่เข้าไปในตลาดเกาหลี แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ สินค้าวัตถุดิบในรูปของสิ่งทอ และสินค้าเครื่องนุ่งห่มในรูปแบบเสื้อผ้าสำเร็จรูป
ส่วนการเข้าสู่ตลาดของสินค้ากลุ่มนี้ ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs จะใช้วิธีการส่งออกทางอ้อม และภายใต้ข้อตกลงการค้า จะสามารถลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศเกาหลีได้ ขณะที่การส่งออกทางตรงก็จะช่วยให้ SMEs ไทยมีความได้เปรียบด้านราคาที่ถูกลง
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญของอุตสาหกรรมอัญมณี เครื่องประดับ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม คือกลุ่มวัยรุ่น เพราะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลต่อสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ และการแต่งกายของเกาหลีเป็นอย่างมาก
3.อุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตสูงและมีความสำคัญต่อตลาด จากการที่รัฐบาลเกาหลีมีนโยบายสร้างประเทศให้เป็น Information Society ทำให้ประชากรมีการใช้ไอซีทีเป็นจำนวนมาก มีการวางรากฐานที่เข้มแข็ง ทั้งในเรื่ององค์ความรู้และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตลาดงานรับจ้างผลิตจากต่างประเทศมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจการผลิตของไทย มีการขยายรูปแบบการผลิตทั้งแบบรับจ้างผลิต ร่วมผลิต และร่วมทุนกับบริษัทต่างประเทศ
ปัจจุบันผู้ประกอบการ SMEs ไทยในอุตสาหกรรมนี้ เข้าสู่ตลาดเกาหลีใต้ ด้วยการติดต่อกับผู้ว่าจ้างโดยตรง ผ่านช่องทางการแสดงสินค้า E–Commerce และหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Alliances) เป็นกลยุทธ์หลักในการขยายตลาดต่างประเทศ
4.อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นดาวรุ่งสุดท้าย ที่สร้างรายได้ให้ประเทศเกาหลีใต้อย่างมาก ทำให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีก็นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย รองจาก จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับ SMEs ในหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการท่องเที่ยว โดยช่องทางที่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น จะมีการติดต่อบริษัทนำเที่ยวของไทยโดยตรงซึ่งผ่านระบบอินเตอร์เนต และการที่บริษัทเกาหลีมีการตั้งสำนักงานตัวแทนหรือสาขาในประเทศไทย เพื่อให้สามารถติดต่อกับบริษัททัวร์ในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยการส่งกรุ๊ปทัวร์ให้กันและกัน
ต้องใช้สิทธิ FTA ให้เป็นประโยชน์
สำหรับนักท่องเที่ยวเกาหลีที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะมาเพื่อการพักผ่อน ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญ คือกลุ่มนักศึกษา คู่แต่งงานใหม่ หญิงโสด กลุ่มกอล์ฟ เป็นต้น
“ SMEs ไทยควรให้ความสนใจและใช้ข้อตกลงFTAอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ให้เป็นประโยชน์ เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้าไทยในประเทศเกาหลีใต้ ” ภักด์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
ไทยขาดดุล ‘เกาหลีใต้’ ต่อเนื่อง.!
ในด้านการลงทุนของนักลงทุนจากเกาหลีใต้ในประเทศไทย พบว่าสาขาที่เข้ามาลงทุนมากได้แก่สาขาอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า สาขาผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง สาขาเคมีภัณฑ์ กระดาษ และสาขาบริการ เป็นต้นโดยในปี พ.ศ.2550 ได้ขอรับการส่งเสริมจากBOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน)มากถึง 52 โครงการด้วยมูลค่ากว่า 11,568 ล้านบาท
ซึ่งหากเปรียบเทียบระหว่างม.ค.-ก.ย.ของปี 2550 และ2551 พบว่าปี 2550 มียอดขอรับการส่งเสริม 35 โครงการด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 5,025 ล้านบาทขณะที่ปี 2551 ตั้งแต่ม.ค.-ก.ค.มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งสิ้น 42 โครงการด้วยมูลค่าโครงการกว่า 4 ,717 ล้านบาท
ด้านการค้าระหว่างกันเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าลำดับที่ 10 ของไทยในปี 2550 ด้วยมูลค่าค้าขายระกว่างกัน 286,445 ล้านบาทแบ่งเป็นนำเข้า184,223 ล้านบาทและส่งออก102,221 ล้านบาทซึ่งไทยขาดดุลกว่า 82,002 ล้านบาท
ขณะที่ในปี 2551 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่าค้าขายระหว่างกัน262,166 ล้านบาทแบ่งเป็นนำเข้า171,950 ล้านบาทและส่งออกเพียง90,216 ล้านบาทและปีนี้ 9 เดือนแรกไทยขาดดุลเกาหลีไปแล้ว 81,735 ล้านบาท
หาก SMEs ของไทยมีโอกาสและสามารถเจาะตลาดแดนกิมจิได้เชื่อว่าอย่างน้อยๆธุรกิจ SMEs ในบ้านเราน่าจะมีที่ระบายของและสร้างมูลค่าให้กับประเทศได้ไม่มากก็น้อยหรืออย่างน้อยๆน่าจะลดการขาดดุลการค้าระหว่างไทยและเกาหลีใต้ลงได้บ้าง
|