เมื่อกล่าวถึงเครือสหพัฒนฯ ผู้คนทั่วไปมักจะนึกถึงนายห้างเทียมและ "ตระกูลโชควัฒนา" แต่ในความเป็นจริงแล้วที่นั่นมีมีพี่น้องของเทียมที่เป็นผู้ชายซึ่งร่วมกันในเครือ และก็ยังมีลูกหลานสืบต่อกันมาอีกมากมาย เทียมเองก็เคยพูดว่า "ที่นี่เรามีโหงวฮก" หรือแปลเป็นไทยว่า "โชคทั้งห้า"

ฮกเปรี้ยวบิดาของเทียมมีภรรยา 2 คน คนหนึ่งคือภรรยาเมืองจีนชื่อซูเฮียง แซ่โค้วมีบุตรด้วยกัน 4 คน อีกคนเป็นภรรยาที่แต่งงานเมืองไทยชื่ออาเปรียว แซ่เฮี๊ย มีบุตรด้วยกัน 4 คน เช่นกัน

บุตรชายคนโตของตระกูลลี้ที่เกิดจากมารดาเมืองจีนเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย บุตรสาวคนโตไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจส่วนบุตรสาวคนเล็กตาบอดจึงอยู่ที่บ้านเฉย ๆ ดังนั้นจึงเหลือพี่น้อง 5 คนที่ช่วยกันทำธุรกิจ

สำหรับตระกูลนี้ออกจะมีหลายนามสกุล เพราะต่างคนต่างไปของนามสกุลของตน ปัจจุบันก็เลยมี 4 นามสกุลกับอีกหนึ่งแซ่คือบุตรชายคนเล็กที่ชื่อ ฮั่งตง ยังคงใช้ "แซ่ลี้"

เฮงหมง ใช้นามสกุล "เกรียงปรารถนา" มีลูกชาย 2 คน คนโตชื่อปรีดา เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ที่บางกอกไนล่อน แล้วก็ลาออกไปหาประสบการณ์ที่อเมริกาสักพักใหญ่ ๆ ปัจจุบันดูแลบริษัท "พูนสิน" หรือก็คือ "เฮียบฮะ" เก่าซึ่งเป็นร้านดั้งเดิมก่อนจะเป็น "สหพัฒน์" เป็นที่ซึ่ง "เฮงหมง" พ่อของปรีดาเคยดูแลอยู่

สำเริงผู้น้อยนั้น เป็นนักเรียนทุนญี่ปุ่นจบปริญญาตรีด้านวิศวะเคมี ช่วงนั้นโรงงานไลอ้อนเพิ่งตั้งได้ไม่นาน เทียมจึงให้สำเริงอยู่ฝึกงานกับไลอ้อนที่ญี่ปุ่น กลับมาทำงานกับไลอ้อนตั้งแต่นั้นจนกระทั่งวันนี้เป็นผู้จัดการใหญ่ของไลอ้อน (ประเทศไทย)

เทียม โชควัฒนา มีลูก 8 คน เป็นลูกสาว 2 คน ลูก ๆ ทุกคนมีบทบาททั้งสร้างและสานต่อกิจการที่เทียมวางรากฐานไว้ แต่ละคนมีบทบาทโดดเด่นแตกต่างกันออกไป และมีบทบาทนำในแทบทุกส่วนของ "สหกรุ๊ป" ยกเว้นศิริยล ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตและเป็นคนเดียวที่ไม่สนใจธุรกิจหลังจากเรียนจบด้านทำดอกไม้ประดิษฐ์ที่ญี่ปุ่น กลับมาทำดอกไม้ประดิษฐ์สักพักแล้วก็เลิก เธอรักสันโดษจึงแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพังคนเดียว โดยที่รับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรมจำนวนหนึ่ง และที่ต่างไปจากพี่น้องคือเธอนับถือศาสนาคริสต์ มีชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของพระเจ้า

ธนา ใช้นามสกุล "ธนสารศิลป์" มีลูกชาย 3 คน ลูกสาว 3 คน จากอังกฤษ รุ่นไล่ ๆ กับสิรินาลูกสาวคนเล็กของเทียม เขาถนัดงานที่ละเอียดอ่อน เคยเป็นเลขาฯให้กับเทียมลุงของเขา "ความชำนาญเขาอยู่ที่งานบัญชีและตัวเลข เขาเป็นกำลังภายในสำคัญของบริษัทเป็นคนที่รู้เรื่องตัวเลขดีมาก เวลาใครไปถามอะไรนายห้างเกี่ยวกับตัวเลข ก็จะให้ไปหาอาสมศักดิ์ เขาเป็นเหมือนดิกชินนารี เป็นคนที่นายห้างสอนด้านข้อมูล และความลึกของธุรกิจ ไม่ใช่ความไกล" ศิรินาลูกสาวนายห้างเทียมเล่ากับ "ผู้จัดการ"

สมศักดิ์ปัจจุบันเป็นกรรมการรองผู้จัดการสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง และกรรมการอีกหลายแห่ง

ศิริกุล ธนสารศิลป์เป็นกรรมการรองผู้จัดการไทยวาโก้เป็นกรรมการที่ภัทยาอุตสาหกิจและกำลังเรียน EX-MBA อยู่ที่ธรรมศาสตร์

ศิริลักษณ์ ธนสารศิลป์เป็นกรรมการรองผู้จัดการบางกอกรับเบอร์

ทั้งสามคนนี้มีลักษณะคล้าย ๆ กันตรงที่เป็นคนละเอียดจึงทำงานในด้านการจัดการภายใน

มังกร ลูกคนที่สี่ของธนานั้นเกิดปีมังกร (หมายถึงปีมะโรง) เลยชื่อมังกร "เขาเป็นเจ้าของหน้าตายิ้มแย้มแจ่งใส หน้าเขายิ้มเขี้ยวเขาออก พ่อแม่ดีใจมากที่ได้ลูกชาย เป็นคนที่มีความสุขมาก" ช่วยงานสำเริง เกรียงปรารถนา ที่บริษัทไลอ้อนในตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ภรรยาของมังกรคือเพ็ญนภา ธนสารศิลป์ซึ่งจัดเป็นผู้หญิงเก่งคนหนึ่งหลายคนบอกคู่นี้เหมาะสมกันมาก เพราะเพ็ญนภาก็เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ปัจจุบันเธอเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 2 ของสหพัฒนพิบูล และเป็นกรรมการของสหพัฒนฯคนแรกที่เป็นผู้หญิง

ศิริวรรณ เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 3 ของสหพัฒนพิบูลสามีคือสันติ วิลาสศักดานนท์ ปัจจุบันเป็นกรรมการสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง, กรรมการแพนเอเชียฟุตแวร์ และกรรมการบางกอกแอธเลติก

สมชัยลูกชายคนสุดท้อง เป็นกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดของสหพัฒนพิบูล

มนู ใช้นามสกุล "ก้องวัฒนา" เป็นน้องชายต่างมารดาของเทียม มีลูกชาย 2 คน ลูกสาว 3 คน สุภาภรณ์ลูกสาวคนโต แต่งงานกับสุพจน์ ศรีโรจนันท์ สุพจน์เป็นกรรมการผู้จัดการของสหไทยพัฒนภัณฑ์และเป็นกรรมการของสหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง ส่วนสุภาภรณ์เป็นรองผู้จัดการ

สุรจิตร ก้องวัฒนาเป็นประธานบริษัทห่านฟ้า ภรรยาคือสุพินเป็นกรรมการบริษัทเกียรติไทยนิตติ้ง

สุรพงศ์เป็นกรรมการบริษัทสากลการหอ

สุภาวรรณลูกสาวคนเล็กของมนูเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสากลการขาย สามีชื่อสุทธิพงศ์ เดโชคมพันธ์ เป็นกรรมการบริษัทห่านฟ้า

สุรชัยลูกชายคนเล็กยังโสดเหมือนพี่ชายเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทห่านฟ้า

ส่วนฮั่งตง แซ่ลี้ ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลนี้ เทียมส่งไปฮ่องกงให้เป็นผู้สั่งซื้อสินค้าเข้ามาจากฮ่องกงไป ๆ มา ๆ ระหว่างฮ่องกงกับไทยอยู่นาน จึงประสบช่องทางทำมาหากินที่ฮ่องกงเลยปักหลักปักฐานอยู่ที่นั่น เปิดบริษัทขายกระเป๋าหนัง และพวกของเด็กเล่น ในอดีตเคยให้บริษัทท็อปทอยในเครือสหกรุ๊ปผลิตของเด็กเล่นส่งไปขายที่ฮ่องกง ตอนหลังย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศจีน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่เทียมอันเหมินแล้วฮั่งตงคิดที่จะกลับมาใช้ฐานการลผติในเมืองไทยอีกครั้งหนึ่ง

ฮั่งตงมีลูกสาวล้วนถึง 7 คน ซึ่งระยะเวลาส่วนใหญ่เติบโตในฮ่องกง จนถือเป็นพลเมืองฮ่องกง แต่ความที่ลูกสาวไปแต่งงานกับฝรั่งหลายชาติ ฮั่งตงจึงได้รับฉายาว่า "พ่อตาอินเตอร์เนชั่นแนล"

โหวงฮก หรือโชคทั้งห้า อันหมายถึงพี่น้องทั้งห้าคนของนายห้างเทียม ซึ่งถือตามหลักคิดของคนจีนที่ต้องดูแลก่อนคือลูกหลาน, ญาติและลูกน้อง แต่นับวันธุรกิจครอบครัวจะเป็นธุรกิจของมหาชนมากขึ้น ดังความคิดเรื่องเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ของเครือ

โหงวฮกนี้ ก็คงจะต้องเปลี่ยนเป็น ฮก ฮก ฮก ฯลฯ หรือ โชคอเนกอนันต์เสียกระมัง