ทรานสแพ็ค เวสต์บรู๊ค ถือกำเนิดเมื่อปี 1989 จากการร่วมกิจการกันระหว่างทรานสเทค
เวนเจอร์ แมเนจเมนต์ (Transtech Venture Management) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารดีบีเอส
แห่งสิงคโปร์ และเทคโน-เวนเจอร์ ฮ่องกง (Techno-Venture Hong Kong : TVHK)
จากฮ่องกง
ปัจจุบันทรานสแพ็ค ถือหุ้นโดยธนาคารดีบีเอส 50% กลุ่มบริษัท แน็ทสตีลกรุ๊ป
(NatSteel Group) 25% และ TVHK ที่นำโดย ดร.คริสโตเฟอร์ ลีอง (Dr.Cristofher
Leong) และดร.วิคเตอร์ ฟุง (Dr. Victor Fung) 25%
ทรานสแพ็คบริหารกองทุนมูลค่าประมาณ 850 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้ทุนมาจากสหรัฐฯ
ทั้งหมดโดยออกกองทุนไปแล้ว 15 กองทุน ลงทุนใน 188 บริษัทในเอเชีย ส่วนการลงทุนในสหรัฐฯ
จะเน้นกิจการไฮเทค "การลงทุนในสหรัฐฯ จะมีสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อยแต่ return
จะสูงกว่าเอเชีย บางบริษัท ได้สูงถึง 1,000%" อลัน แคม บอก
สำหรับทรานสแพ็คในไทยเข้ามาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ปัจจุบันมีพอร์ต การลงทุน
ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ บมจ.บางกอกโพลีเอทที ลีน บมจ.ยัวซ่าแบตเตอรี่ประเทศ
ไทย บริษัทไทยสเตนเลส และสยาม ทูยู "เราลงทุนในไทยไปแล้วประมาณ 20 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ"
สำหรับเม็ดเงินกองทุนที่อลัน แคมสามารถนำมาลงทุนได้มีสูงถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ซึ่งการพิจารณาการลงทุนจะไม่กำหนดตายตัวว่าจะลงในประเทศไหน "เราสามารถนำเงินไปลงทุน
ได้ทุกประเทศถ้ามีโครงการดีๆ เพราะ ไม่เหมือนกองทุนรวมหรือ hedge fund"
อลัน แคม จบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์และปริญญาโทด้านบริหาร ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเดนเวอร์
เคยทำงาน ฝ่ายบริหารเงินในสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงก์ และเมอร์ริล ลินช์เป็นเวลา
15 ปี ก่อนจะมาร่วมงานกับทรานสแพ็คดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ บงล.พูลพิพัฒน์
ด้านเวสต์บรู๊คก่อตั้งปี 1994 โดย มีพาร์ตเนอร์ 2 คน ที่แยกตัวมาจาก มอร์แกน
สแตนเลย์ คือ Paul D. Lizi- lionis อดีตกรรมการผู้จัดการและประธานมอร์แกน
สแตนเลย์ เรียลเอส เตท ฟันด์ และ William H. Walton อดีตกรรมการผู้จัดการของธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ของมอร์แกน
สแตนเลย์
เวสต์บรู๊คเป็นกองทุนอสังหา ริมทรัพย์ที่ระดมทุนจาก pension fund ในสหรัฐฯ
เริ่มลงทุนในสหรัฐฯ จากนั้นขยายการลงทุนไปยังยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชีย
ปัจจุบันเปิดกองทุนไปแล้ว 3 กองทุน โดยมีเงินกองทุนประมาณ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
"กองทุนจะเหมือนกันหมดในแง่เป้าหมายของการลงทุน เป็นกองทุน global ที่ลงทุนได้ทั่วโลก"
สุชาติกล่าว
กองทุนที่ 1 และ 2 เวสต์บรู๊ค จะใช้เวลาลงทุนส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ ฉะนั้นสัดส่วนของการถือครองสิน
ทรัพย์จึงสูงมาก (ปัจจุบันถือครองสิน ทรัพย์ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า
7 พันล้านเหรียญสหรัฐ)
สำหรับกองทุนที่ 3 เวสต์บรู๊ค จะถือครองสินทรัพย์นอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น โดยให้สัดส่วน
35% ของเงิน กองทุนที่ 3 ทั้งหมดที่มีทั้งสิ้น 1.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนนอกสหรัฐฯ
"เป็นเงินประมาณ 450 ล้านเหรียญสหรัฐ คือ นโยบายต่อปีจะใช้เงินจำนวนนี้ลงทุนในต่างประเทศ
โดยเน้นในเอเชีย"
สุชาติ เป็นนักเรียนทุนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จบปริญญาตรีที่ London
School of Economics และปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยลอนดอน หลังจากจบการศึกษากลับมาทำงานใช้ทุนที่
ธปท. เมื่อปี 1987 ในหน่วยงานดูแลเงินทุน สำรอง จากนั้นลาออกไปทำงานให้ กับรัฐบาลสิงคโปร์
แล้วย้ายไปที่เจพี มอร์แกน และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กลับมาเป็นที่ปรึกษาให้กับ
ธปท. และย้ายมาทำงานให้กับเวสต์บรู๊คเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา