Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 พฤศจิกายน 2551
'แสนสิริ-เอพี'รับผลบวกรับรู้คอนโดฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

   
search resources

แสนสิริ, บมจ.
เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
Real Estate




อสังหาฯในตลาดหุ้น ยังโชว์ศักยภาพบริษัทขนาดใหญ่ในการทำยอดขายหนุนรายได้ในไตรมาส 3 "แสนสิริ"รับผลบวก!!รับรู้โครงการคอนโดฯเพิ่มขึ้น ดันรายได้จากการขายโครงการสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4,021 ล้านบาท กำไรสุทธิ 511 ล้านบาท แต่ส่วนงวด 9เดือน รายได้รวมเกินหมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 439 ล้านบาท ค่ายก๊วนแลนด์ฯ "AP" ชี้กำไรขั้นต้นโครงการคอนโดฯสูงขึ้นมาอยู่ระดับ 50% ขณะที่งวด 9 เดือน รวมรายได้ 6,656.81 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิสูงถึง 1,100 ล้านบาท ส่วนฐานธุรกิจตระกูลชินวัตร "SC" กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ 192 ล้านบาท โบรกฯคาดแนวโน้มอุปทานใหม่ลดลงต่อเนื่อง

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปี 51 ปรากฎว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานของบริษัทในระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน มีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 20% ซึ่งผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกือบประมาณ 4 เท่า โดยมีผลกำไรที่ 511 ล้านบาท( หลังจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนกำไร 129.7 ล้านบาท สาเหตุสำคัญเป็นผลของรายได้จากการขายโครงการที่เติบโตขึ้นในมูลค่าที่สูงขึ้นประมาณ 1,122 ล้านบาท เป็น 4,021 ล้านบาท สืบเนื่องจากการรับรู้โครงการคอนโดฯเพิ่มมากขึ้น ประกอบอัตราค่าใช้จ่ายรวมต่อรายได้ลดลง 14% เทียบกับ 22% หรือลดลงถึง 37%

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบในงบการเงินที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ในงวด 9 เดือน ปรากฎว่า รายได้จากการขายโครงการเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9,572 ล้านบาท จาก 8,119 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 50 และเมื่อรวมรายได้แล้ว ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 10,167.8 ล้านบาท เทียบกับ 8,702.6 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายในงวด 9 เดือนอยู่ที่ 9,274.4 เทียบกับ 8,219.9 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 439 ล้านบาท เทียบกับ 205.2 ล้านบาท

นายพิเชษฐ วิภวศุภกร กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ ระบุว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 244.2 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 50 เป็น 452.5 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี51 หรือเพิ่มขึ้น 85.3% (ส่วนไตรมาส 2 ปี 51 กำไรสุทธิอยู่ที่ 496 ล้านบาท) สาเหตุหลักเกิดจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,708.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.7% เทียบกับ 2,109.05 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 50

อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 33.4% เป็น 34.3%ในไตรมาส 3 ปี 51 เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงในสัดส่วน 50% ของรายได้รวม ขณะที่ในไตรมาสเดียวกันปี 50 การรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดฯ 43% เท่านั้น

ขณะที่งวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้จากการขาย 6,554 ล้านบาท (เทียบ4,906 ล้านบาท) รวมรายได้ 6,656.81 ล้านบาท (4,960.99 ล้านบาท) รวมค่าใช้จ่าย 5,019.64 ล้านบาท (4,137.56 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท (500.8 ล้านบาท)

SCกำไรเพิ่ม

นายอรรถพล สฤษฏิพันธาวาทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานสนับสนุนบริษัทเอสซี แอสเสทฯ กล่าวว่า ไตรมาส 3 ปี 51 บริษัทมีกำไรสุทธิ 192.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 121.21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี50 ขณะที่ในงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ 472 ล้านบาท (เทียบ 450.9 ล้านบาท)

ด้านนายทัศพร คุปตารักษ์ กรรมการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ฯ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง การผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุน ภาวะการแข่งขันที่สูง ราคาน้ำมันและราคาวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ทำให้ในไตรมาส 3 ปี 51 มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 23 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 60 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 9 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 939 ล้านบาท

คาดยอดการขายได้ลดต่อเนื่อง

ขณะที่บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุภาพรวมโครงการอสังหาฯในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า ยอดอุปทาน(สินค้า)ใหม่ของโครงการอสังหาฯลดลง 47% จากช่วงเดียวกันของปี 50 แต่เพิ่มขึ้น 26% จากเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนมูลค่าโครงการรวมลดลง 49% จากต.ค.50 และ 26% จากเดือนก.ย. ทั้งนี้ ราคาเฉลี่ยปรับลงเหลือ 2.3 ล้านบาท/หน่วย เทียบกับ 2.4 ล้านบาทในปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม พบว่า ราคาขายเฉลี่ย 10 เดือนแรกของปีนี้ ยังเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 ล้านบาท เทียบกับ 2.4 ล้านบาทในช่วง 10 เดือนแรกของปี 50 โครงการใหม่ที่เปิดส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์ (37%) และคอนโดฯ (34%) ขณะที่ราคานั้นพบว่า 56% ของยอดขายอยู่ในช่วงราคา 1-2 ล้านบาท

สำหรับด้านอุปสงค์(ความต้องการ)นั้น ยอดการขายได้(Take-up) ลดลงจาก 22% ในเดือนต.ค.50 และ 14% ในเดือนก.ย.เหลือเพียง 9% ส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงในกลุ่มคอนโดฯ

สินเชื่อที่อยู่อาศัยชะลอตัวถึงปี52

ด้านบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด นำเสนอบทวิเคราะห์ "สถาบันการเงิน..เร่งกระตุ้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยโค้งสุดท้ายปีหนู"ว่า ในช่วงไตรมาส 3 ปี51ที่ผ่านมา ยอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบมีอัตราการเติบโตจากไตรมาสสอง สาเหตุน่าจะมาจากจำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จบางประเภทเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เช่น ประเภทคอนโดฯที่มีการเปิดโครงการไปเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แม้ว่าสถาบันการเงินต่างยังคงเดินหน้าทำตลาดที่เข้มข้นในการกระตุ้นธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็ตาม แต่ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางชะลอตัว ดังนั้น ศูนย์วิจัยฯคาดว่า การชะลอตัวของธุรกิจสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงปี 51 อาจจะมีผลต่อเนื่องไปสู่ปี 52 โดยปัญหาวิกฤตทางการเงินโลกมีแนวโน้มส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว ยิ่งภาคการส่งออกและธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอาจจะประสบปัญหา และมีผลมาสู่การจ้างงานในภาคธุรกิจต่างๆเหล่านั้น ซึ่งอาจจะมีผลต่อรายได้ และกระทบถึงอำนาจการซื้อที่อยู่อาศัย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us