ล็อกซเล่ย์ จีเทคฯ ในเครือ บมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) เตรียมยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลภายใน 30 วันขั้นต่ำ 2 พันล้าน เหตุล่าช้าโครงการจำหน่ายสลากออนไลน์ พร้อมฟ้องผู้บริหารสำนักงานสลากฯ รมว.คลังและ รมช.คลัง ในฐานะดูแลและกำหนดนโยบาย

นายตรีจักร ตัณฑ์ศุภศิริ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (LGT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และฟ้องผู้บริหารที่ไม่ทำตามสัญญา รวมถึง รมว.คลังและ รมช.คลัง ในฐานะบริหาร ดูแลและเป็นผู้กำหนดนโยบาย

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางแอลจีทีได้ส่งหนังสือถึงสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นฉบับที่ 2 เพื่อชี้แจงถึงความเสียหายของแอลจีทีตั้งแต่มีการทำสัญญาร่วมกันมากับสำนักงานสลากฯ เพื่อดำเนินโครงการหวยออนไลน์จำนวน 2 พันล้านบาท และเรียกร้องให้ดำเนินการตามสัญญา ซึ่งให้เวลาภายใน 30 วัน หากภายในวันที่ 7 ธ.ค.51 สำนักงานสลากฯยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทางทนายความของแอลจีทีซึ่งได้รวบรวมข้อมูลสำหรับฟ้องร้องไว้แล้วทั้งหมดจะเดินหน้าฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายทันที โดยมั่นใจว่าจะชนะได้

"อย่างต่ำจะเรียกร้องค่าเสียหาย 2 พันล้าน ส่วนอย่างมากจะเป็นเท่าไหร่ก็อาจคำนวนค่าเสียโอกาสตลอด 3 ปีที่มีสัญญาร่วมกันคือตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.48 ซึ่งยังมีค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจสลากออนไลน์นับตั้งแต่เซ็นสัญญากับสำนักงานสลาก และยังไม่สามารถดำเนินการได้ ทำให้บริษัทสูญเสียโอกาสในการแสวงหารายได้ และทีมทนายยังอยู่ระหว่างประเมินมูลค่าการเสียโอกาสทางธุรกิจของบริษัท เนื่องจากมีภาระการจ่ายเงินเดือนพนักงาน และจ่ายดอกเบี้ยให้เจ้าหนี้ หลังจากโครงการดังกล่าวยืดเยื้อมากกว่า 3 ปีแล้ว" นายตรีจักรกล่าว

นายตรีจักรกล่าวว่า การทำหนังสือถึงสำนักงานสลากฯครั้งนี้ มาจากการพิจารณาแล้วว่าสำนักงานสลากฯมีอำนาจโดยชอบที่จะสามารถออกสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบ 2 ตัว 3 ตัวได้ โดยไม่ต้องใช้พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2550 ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีตกไปก่อนหน้า ซึ่งสามารถออกภายใต้พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพ.ศ.2517 ตามมาตรา 22 ที่จะแบ่งรายได้เป็น 60% เป็นเงินรางวัล 28% นำส่งคลังและ 12% เป็นค่าใช้จ่ายสำนักงานสลากฯ ซึ่งหากสำนักงานสลากฯสั่งเดินหน้า แอลจีทีก็พร้อมดำเนินการได้ทันทีเพราะที่ผ่านมาได้แก้ไขซอฟแวร์ที่สำนักงานสลากฯสั่งให้ดำเนินการเพื่อรองรับเพดานการจ่ายเงินรางวัล 60%ของยอดรายได้ต่องวดแล้ว

โดยขอยืนยันว่าที่ผ่านมาในการจ่ายค่ามัดจำจากตัวแทนจำหน่ายหวยออนไลน์รายละ 2 แสนบาท เป็นการจ่ายให้สำนักงานสลากฯโดยตรง ไม่เกี่ยวกับแอลจีที และแอลจีทีไม่เคยได้รับเงินใดๆจากสำนักงานสลากฯเลยตลอดตั้งแต่มีโครงการมา

"เรื่องนี้เป็นความเสียหายของนักลงทุนที่ทำกับรัฐบาลไทย หากรัฐบาลไม่ทำตามสัญญาจากนี้จะมีใครกล้าลงทุนด้วย เพราะไม่เพียงแต่แอลจีทีเสียหาย ผู้ซื้อหุ้นในตลาดหุ้น ตัวแทนจำหน่ายที่จ่ายค่ามัดจำให้กองสลากรายละ 2 แสนบาท ยังมีค่าเช่าที่หน้าร้านและตกแต่งร้านรวมแล้วรายละ 1 แสนบาท ซึ่งกลุ่มนี้หากจะฟ้องก็ควรฟ้องต่อกองสลาก นอกจากนี้ยังมีการลงทะเบียนรับคนเดินโพย หากเร่งเดินหน้าก็จะเพิ่มแรงงานในระบบเข้าไปช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งและเป็นการนำเงินจากใต้ดินเข้าสู่คลังด้วย" นายตรีจักรกล่าวและว่า หากคิดในหวยบนดินเดิมก่อนจะยกเลิกพบว่าต่องวดจะขายได้ 3 พันล้านบาท ทั้งปีอยู่ที่ 7.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากหัก 28% เข้ารัฐจะมีรายได้ถึงปีละ 20,160 ล้านบาท

นายตรีจักรยังกล่าวถึงเหตุผลที่ รมว.คลังอ้างว่าหวยออนไลน์จะเป็นการมอมเมาประชาชนและเป็นอบายมุขว่า หากจะกล่าวเรื่องนี้ควรจะกล่าวก่อนจะมีโครงการหวยบนดิน ไม่ควรให้เกิดมาตั้งแต่ต้น มาถึงตอนนี้ควรเดินหน้าไปตามที่กฎหมายให้สามารถทำได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เรียกร้องให้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ก่อนรับตำแหน่ง และตนก็เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจากพรรคพลังประชาชนจะทำตามสัญญา

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า หากแอลจีทีจะฟ้องตน ก็ฟ้องได้ทันที ถือเป็นสิทธิจะกระทำได้ แต่ตนก็ยืนยันสำนักงานสลากฯจะต้องทำตามขั้นตอนตามที่ให้นโยบายไว้ คือต้องพิจารณาข้อกฎหมายให้รอบคอบทุกด้านเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ ได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเข้าใจว่ามีผู้เดือดร้อนจากการที่ไม่สามารถขายหวยออนไลน์ได้ ทั้งผู้เดินโพย ผู้ติดตั้งเครื่อง ซึ่งมีการทำสัญญาและมีการเสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว แต่ในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ และเป็นผู้รับผิดชอบ ต้องขอเวลาพิจารณาและจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ และยืนยันว่าการพิจารณาขายหวยออนไลน์ที่ล่าช้านั้น ไม่ได้มาจากการโยนไปโยนมา แต่เป็นการทำขั้นตอนอย่างถูกต้อง