Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2532
วันนี้ของเสรี ทรัพย์เจริญ             
 


   
search resources

เสรี ทรัพย์เจรัญ
Stock Exchange




ในสหรัฐอเมริกา สิบกว่าปีก่อน ชื่อ จิม โจนด์ ดูจะเป็นที่เกลียดชังของชนชาวอเมริกันอยู่ไม่น้อย ภาพของสาวก จิม โจนด์ นับร้อยคนนอนตายเกลื่อนด้วยอิทธิพลความเชื่อในพระเจ้าที่บิดเบี้ยวตามคำสอนของจิม โจนด์ จนภาพสาวกที่นอนตายเกลื่อนสร้างความเศร้าสลดกับชนผู้นับถือศาสนาคริสต์ไปทั่วโลก

ในระยะเวลาไล่เลี่ยกันประมาณสิบปีที่ผ่านมา เรียกว่ากลิ่นอายความเกลียดชัง จิมโจนด์ยังไม่หายไปจากความรู้สึกนึกคิดและความทรงจำเท่าไรนัก นักการเงินและค้าหุ้นเสรี ทรัพย์เจริญ ก็ถูกนไปเปรียเบทียบกับจิม โจนด์ เช่นเดียวกัน เมื่อธุรกิจค้าหุ้นและเงินอย่างราชาเงินทุน ได้สร้างการตื่นตระหนกและตายทั้งเป็นให้กับผู้ลงทุนในตลาดหุ้นกรุงเทพ เป็นครั้งแรก ดังที่ทราบกันว่า หุ้นราชาชาเงินทุนแปรปรวนลงอย่างไม่มีเหตุผล จนเสรี ทรัพย์เจริญถูกหมายหัวเอาจากตลาดหุ้นและหน่วยงานควบคุมของราชการ ว่าเป็นฝีมือปั่นหุ้นของเขา

เสรี ถูกฟ้องคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จากวันนั้นถึงวันนี้ 10 ปีเต็ม ที่เสรีต้องถูกตราหน้าเป็น จิม โจนด์ตราบาปของเขาในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จากกรณีค้าหุ้นในตลาดถูกนำเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาให้กับนักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หรือแม้แต่ในที่ประชุม วงสัมมนา

วันนี้ ศาลอาญาชั้นต้นได้ตัดสินออกมาแล้วว่า เสรีไม่ได้ฉ้อโกงประชาชน เขาเล่าให้ "ผู้จัดการ" ฟังว่า แทบไม่น่าเชื่อ 10 ปี เขาต่อสู้กับคดีอาญานี้เพียงลำพังรว่มกับทนายคู่ใจ ธานี พชราสุคนณ์ ผ่านพ้นสันดอน "โรคประสาท" มาได้อย่างไร

ทุกวันนี้ เขามีไลฟ์สไตล์ที่ออกจะแปลก ๆ เช้าถึงเที่ยงจะนั่งเล่นหุ้นอยู่ที่บ้าน ด้วยความหลงกลิ่นอายมันแล้ว เพราะอย่างน้อยธุรกิจค้าหุ้นก็ทำให้เขาตัวและดับมาแล้ว ดังนั้นค้าหุ้นจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเสรีไปเสียแล้ว อีกประการหนึ่งค้าหุ้นอย่างถูกจังหวะ (TIMING) ทำกำไรให้เสรีมาก ๆ จนเลี้ยงตัวได้ทุกวันนี้

ตกบ่าย ๆ ถึงเย็น เขาจะหมกตัวอยู่กับ กองบรรณาธิการเดลิไทม์ ที่โรงพิมพ์เดลิไทม์ซึ่งบริษัทปณิธาน ที่ลูกชายของเขากับ เสริมศรี เอกชัยร่วมกันถือหุ้นใหญ่

ก็หนีไม่พ้นแวดวงธุรกิจเกี่ยวกับหุ้นอีกนั่นแหละ เพราะหนังสือพิมพ์เดลิไทม์ขายข่าวเกี่ยวกับการค้าหุ้นโดยเฉพาะเสรีก็เป็นคอลัมนิสต์ประจำกองบรรณาธิการด้วยผู้หนึ่งร่วมกับนักข่าวอีก 30 ชีวิต

สรุปแล้ว ไลฟ์สไตล์ของเสรีวันนี้ เขาหมดไปกับเรื่องธุรกิจค้าหุ้นตั้งแต่เช้าจนเย็นแม้คดีอาญายังไม่จบ เพราะโจทก์อุทธรณ์สู้คดีต่อ

ก็คงอีกหลายปีกว่าคดีนี้จะจบ และเสรีต้องซื้อเวลาต่อไปเพื่อแลกกับความจริงของประวัติศาสตร์ ที่เขาเป็นตัวละครเอก

นอกจากนี้แล้วคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5,857 ล้านบาทจากแบงก์กรุงเทพ ที่เขาเป็นโจทย์กล่าวหาแบงก์กรุงเทพโยกย้ายบัญชีเขาจากสาขาผ่านฟ้าไปประดิพัทธ์ โดยไม่แจ้งให้เขาทราบจนเป็นเหตุให้เช็คที่เขาตีออกไปให้ลูกค้าจำนวน 900 บาท ต้องเด้ง และเป็นชนวนลามปามกระหน่ำให้ราชาเงินทุนมีอันต้องขาดสภาพคล่องจนล้มละลายไป เมื่อ 10 ปีก่อน แม้เขาจะแพ้ในศาลชั้นต้นแต่เขาก็สู้คดีต่อในขั้นอทุธรณ์ก็เป็นอีกฉากเหตุการณ์หนึ่งที่เขาต้องซื้อเวลา เพื่อแลกกับความชอบธรรมในสิทธิทางทรัพย์สินที่ได้รับการปกป้องคุ้มครองตามกฎหมาย

คดีแพ่งที่แบงก์กรุงไทยยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ที่สั่งให้แบงก์กรุงไทยคืนทรัพย์สินในรูปหุ้นที่ตีมูลค่าออกมาเป็นเงินต้น 1,600 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีกร่วม 300 ล้านบาท รวมเป็น 1,900 ล้านบาทแก่ทางการเพื่อนำไปหักหนี้ราชาเงินทุนออกจากเจ้าหนี้ประมาณ 700 ล้านบาท ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เสรีกำลังคอยรับผลพวงจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ หลังจากศาลชั้นต้นตัดสินให้จำหน่ายชื่อแบงก์กรุงไทยออกจากบัญชีลูกหนี้ราชาเงินทุน

ซึ่งถ้าหากว่าศาลเห็นชอบกับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ราชาเงินทุนก็มีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกได้เพราะทรัพย์สินสุทธิเหลือจากหักจากหนี้ 700 ล้านบาท จำนวน 1,200 ล้านบาท มันมากพอที่จะทำให้ราชาเงินทุนใช้เป็น CAPITAL BASE ทำธุรกิจการเงินและค้าหลักทรัพย์ได้อีกสบาย ๆ

วันนี้ของเสรีกล่าวได้ว่าถึงที่สุดแล้วเขากำลังซื้อเวลาในคดีอาญา ซึ่งเขาถือว่ามีความหมายต่อศักดิ์ศรีชีวิตเขามากที่สุด ดังคำพูดที่เคยกล่าวกับ "ผู้จัดการ" เมื่อ 6 ปีก่อนว่า "คนอย่างผม เสียเงินเรื่องเล็กแต่เสียชื่อซิเป็นเรื่องใหญ่"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us