|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“โสภณ”ดันสุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 7 หมื่นล้านบาท ชง ครม.ในพ.ย.หรืออย่างช้าต้นธ.ค.นี้ พร้อมเร่งทอท.สรุปแผนการใช้ประโยชน์ดอนเมืองเพื่อประกาศเป็นนโยบาย สั่งเคลียร์ข้อพิพาท คิงเพาเวอร์ เน้นประนีประนอม ไม่ค้าความกับเอกชน แก้ปัญหาแท็กซี่ผี มั่นใจสุวรรณภูมิติดอันดับโลก
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วานนี้ (11 พ.ย.) ว่า จะเร่งรัดแผนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ซึ่งขณะนี้ทอท.ได้เสนอมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว โดยตนจะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในปลายเดือนพ.ย.หรือต้นเดือนธ.ค. 2551 ทั้งนี้ การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของสุวรรณภูมิและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดโครงการเมกะโปรเจ็กต์
นอกจากนี้ยังให้ทอท.เร่งสรุปแผนการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อให้มีความชัดเจนว่าจะพัฒนาดอนเมืองไปในทิศทางใด โดยเน้นว่าจะต้องทำให้ทรัพย์สินที่มีใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด ซึ่งทอท.รายงานว่าขณะนี้มีแผนการใช้ประโยชน์ดอนเมืองอยู่แล้ว ซึ่งตนจะขอดูรายละเอียดก่อนที่จะเร่งประกาศออกมาเป็นนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าการลงทุนใหม่โดยเฉพาะการขยายเฟส 2 เป็นเรื่องจำเป็นในขณะเดียวกันจากภาวะเศรษฐกิจของโลก ก็ต้องใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่มีให้คุ้มค่าที่สุดด้วย
“รัฐบาลจะต้องมีนโยบายการใช้สนามบินดอนเมืองที่ชัดเจน เพราะหากปล่อยไปแบบนี้คงไม่คุ้มค่าโดยเฉพาะให้มีการดำเนินการเชิงธุรกิจมากขึ้น เช่น ตั้งเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบิน รวมทั้งการเปิดให้สายการบินต้นทุนต่ำ (โลวคอสต์ แอร์ไลน์) สามารถที่จะใช้บริการได้โดยเฉพาะในช่วงที่มีการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ทั้งนี้ ดอนเมืองควรเป็นสนามบินสำรอง แต่จะต้องไม่ใช่คู่แข่งของสนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นสนามบินหลัก ”นายโสภณกล่าว
สำหรับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น นายโสภณกล่าวว่า ทอท.จะต้องเร่งแก้ปัญหา ที่มีตั้งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคต เช่น ข้อพิพาทกับ บริษัท คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ จำกัด (KPS) และบริษัท คิงเพาเวอร์ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) โดยใช้หลักประนีประนอมตามคำสั่งศาล และตนไม่มีนโยบายเรื่องการค้าความกับเอกชน เร่งรัดการจ่ายเงินในงานนอกสั่ง (VO) โดยจะต้องตรวจสอบก่อนว่าสามารถดำเนินการได้โดยทอท.ไม่เสียหาย และแก้ปัญหา แท็กซี่เถื่อน ไกด์ผี อาคารจอดรถ ที่กระทบต่อภาพลักษณ์การให้บริการ
“ผมให้วิธีคิดว่าทอท.ต้องทำงานแบบนักธุรกิจไม่ใช่ราชการ คืออย่าประหยัดเงินร้อยแล้วต้องเสียเงินหมื่น เพราะไม่คุ้มเลย โดยให้ผู้บริหารรายงานผลการดำเนินงานทุกเดือน เพื่อจะทราบถึงปัญหาข้อติดขัดต่างๆ เพื่อจะเร่งแก้ไขได้ และผมพร้อมจะรับผิดชอบในฐานะผู้กำกับดูแล”นายโสภณกล่าว
นายโสภณระบุว่า ไม่ได้เร่งรัดการสรรหา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. คนใหม่ หลังจากที่พลอากาศโทชนะ อยู่สถานพร ลาออก เพราะมีกระบวนการสรรหา ที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งตนเห็นว่า ขณะนี้การดำเนินงานของทอท.ในส่วนของตัวบุคคลไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ เพราะประเด็นหลัก คือ คนทำงานและนโยบายต้องทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่า สนามบินสุวรรณภูมิมีบริการที่ดีพอที่จะประกวดในปี 2552
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ได้ศึกษาแผนการใช้ประโยชน์ สนามบินดอนเมืองไว้แล้ว 2 แนวทาง คือ รองรับสายการบินต้นทุนต่ำเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มเติมในช่วงที่มีการก่อสร้างขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 นอกเหนือจากการรองรับเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินเช่าเหมาลำในปัจจุบันและ ใช้เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยาน ในภูมิภาค ซึ่งจะสรุปและนำเสนอกระทรวงคมนาคมหลังแผนขยายสุวรรณภูมิเฟส 2 ได้รับอนุมัติ
|
|
|
|
|