|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอสซีฯ เชื่อมือ “กรี เดชชัย” สวนกระแสเศรษฐกิจฟุบ การเมืองวุ่นวาย เล็งลงทุนโครงการใหม่หรูหราราคาแพงชนคิวเฮ้าส์ เจ้าตลาดบ้านแพง ยึดทำเลทองย่านปิ่นเกล้า ผุดคฤหาสน์ 100 ล้านบาทปีหน้า
แม้ว่าตลาดบ้านจัดสรรโดยรวมจะยังมีอัตราเติบโต แต่หากแยกแต่ละเซกเมนท์แล้วจะพบว่า ตลาดหรูหราราคาแพงและตลาดระดับล่างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากที่สุด โดยตลาดบนเริ่มชะลอตัวตั้งแต่ปี 2549-2550 ส่วนตลาดล่างเริ่มชะลอตัวในปีนี้ และเริ่มเห็นภาพชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังที่ยอดขายลดลง ซึ่งเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ ยอดขายลดลงถึง 15% ขณะที่ยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 30% มากกว่าในอดีตที่มียอดถูกปฏิเสธไม่ถึง 20%
แต่บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ที่มีกรี เดชชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาทรัพย์สินแนวราบ ผู้เชี่ยวชาญการทำตลาดบ้านหรูหราราคาแพง ระดับราคา 80-100 ล้านบาท กลับไม่มองเช่นนั้น โดยกรีมั่นใจว่าตลาดบนไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งฟันธงจากประสบการณ์ที่คลุกคลีกับการทำตลาดบ้านหรูให้กับคลวอลิตี้ เฮ้าส์ หรือคิวเฮ้าส์ ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มานานว่า “ตลาดบ้านแพงยังไงก็ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าว แต่ในระยะสั้นยอมรับว่า ได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาเท่านั้น ส่วนในระยะยาวจะกลับมาซื้อบ้านเช่นเดิม”
ดังนั้นกรีผู้ดูแลการลงทุนโครงการแนวราบให้กับเอสซีฯ จึงมีแผนที่จะให้เอสซีลงทุนพัฒนาโครงการบ้านหรูหรา ราคา 50-100 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เอสซีฯ จะลงทุนโครงการบ้านราคาแพง เพราะที่ผ่านมาพอร์ตการลงทุนของเอสซีฯ ส่วนใหญ่อยู่ที่ราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอนาคตดีในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แต่ในปีหน้าตลาดนี้จะได้รับผลกระทบมากเช่นเดียวกับตลาดล่าง เห็นได้จากยอดถูกปฏิเสธสินเชื่อของเอสซีฯ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสูงขึ้นถึง 28% มากกว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ที่มียอดถูกปฏิเสธสินเชื่อเพียง 15-20% เท่านั้น
กรีบอกว่า การลงทุนโครงการใหม่ เอสซีฯ จะมองไปที่เซกเมนท์ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมืองน้อยที่สุด นั่นคือ ตลาดไฮเอนด์ อย่างไรก็ตามในตลาดระดับกลางเอสซีฯ ยังคงลงทุนเช่นเดิม โดยจะลงทุนโครงการหลัก 3 แบรนด์ ได้แก่ ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด ระดับราคา ต่ำกว่า 5 ล้านบาท บางกอก บูเลอวาร์ด ราคา 5-10 ล้านบาท และแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราคา 15-30 ล้านบาท ส่วนโครงการใหม่ที่จะลงทุน อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะสร้างแบรนด์ใหม่ หรือใช้แบรนด์ "แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด"
โครงการหรูหราราคาแพงที่จะลงทุนนั้น ตั้งอยู่ที่ปิ่นเกล้า คาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีหน้า เพื่อให้สถานการณ์ทุกด้านนิ่ง ขณะนี้อยู่หว่างออกแบบ ส่วนปลายเดือน พ.ย.นี้ จะเปิดตัวโครงการวิสต้า แจ้งวัฒนะ เป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 3.99 ล้านบาท และล่าสุดได้เปิดตัวโครงการแกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด เกษตร-นวมินทร์ เป็นบ้านเดี่ยวสูง 3 ชั้น จำนวน 21 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 367-479 ตารางเมตร ขนาด 81-154 ตารางวา ราคา 17-30 ล้านบาท พื้นที่ 8 ไร่ ตั้งอยู่ถนนเกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 400 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในไตรมาสแรกปีหน้า
สำหรับแผนลงทุนปีหน้าจะเปิดตัวโครงการรวม 12 โครงการ เป็นโครงการใหม่ 5 โครงการ และขยายโครงการเก่า 7 โครงการ เป็นทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ บ้านเดี่ยว 6 โครงการ สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดขาย 4,500 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายปีหน้าไว้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยตั้งงบซื้อที่ดินปีหน้าไว้ที่ 1,500 ล้านบาท สำหรับลงทุนโครงการในปี 2553
|
|
|
|
|