Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤศจิกายน 2551
หวั่นวิกฤตฉุดคนซื้อบ้านเป็นNPL ธอส.ขึ้นดอกฝากเสริมสภาพคล่อง             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขรรค์ ประจวบเหมาะ
Banking and Finance




บิ๊กธอส.หวั่นปี 52 ปัญหาวิกฤตการเงินกระทบลูกค้าผ่อนค่างวดไม่ไหว จนลุกลามกลายเป็นNPL ยอมรับเข้มปล่อยกู้โดยเฉพาะรายได้เพื่อป้องกันหนี้เสีย พร้อมประกาศเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25-1% หวังเสริมสภาพคล่องรองรับแผนปล่อยกู้ปี 52

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤตสถาบันการเงินโลกที่มองว่า จะได้รับผลกระทบหนักในปีหน้า และอาจทำให้ลูกค้าที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านมีปัญหาจนกลายเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ได้ในภายหลัง นอกจากนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งยังมุ่งเน้นบริหารดูแลสภาพคล่องและป้องกันปัญหาหนี้เอ็นพีแอล ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องดูแล

โดยขณะนี้ ธอส.มีสภาพคล่อง 39,781 ล้านบาท คิดเป็น 7.8% จากการประมาณการสภาพคล่องล่วงหน้า 30 วัน ธนาคารจะมีสภาพคล่องเฉลี่ยประมาณ 6.7-7.7% และในเดือนธ.ค.51 ธนาคารอาจมีสภาพคล่องต่ำกว่า 6% เนื่องจากตลาดการเงินได้มีการแข่งขันระดมเงินฝากเพื่อเสริมสภาพคล่อง และเตรียมระดมทุนให้เพียงพอกับการปล่อยสินเชื่อในปีหน้า

ดังนั้น ธอส.จึงมีความจำเป็นต้องประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์พิเศษ จากอัตราเดิม 2.25% เป็น 3.25% ต่อปี สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทประจำ 3-6 เดือน ปรับเป็น 3.00% ต่อปี สำหรับวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท, อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี สำหรับวงเงิน 1 ล้านบาทขึ้นไปแต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท และอัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนตั๋วสัญญาใช้เงิน(P/N) 1 เดือน ปรับเพิ่มจาก 2.25% เป็น 2.75% , เงินฝากตั๋วสัญญาใช้เงิน 2 เดือน จาก 2.25% เป็น 3.00% มีผลตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ย.51

" การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว มีผลกระทบต่อดอกเบี้ยจ่ายเงินฝากเพิ่มขึ้นในปี51ประมาณ 85 ล้านบาท คิดเป็น 0.65% ของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ และเพิ่มเป็นการยืดหยุ่นของอัตราดอกเบี้ย จึงมีมติอนุมัติให้พนักงานตั้งแต่ผู้จัดการสาขาขึ้นไปสามารถพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าได้เป็นรายบุคคลที่มีเงินฝากตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป"นายขรรค์กล่าวและยอมรับว่า

ขณะนี้การปล่อยสินเชื่อต้องเน้นคุณภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้เสียภายหลัง โดยยอดปล่อยสินเชื่อปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายของกระทรวงการคลังที่ตั้งไว้ 90,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารจะให้ผู้กู้ผ่อนชำระค่างวดไม่เกิน 35% ของรายได้สุทธิต่องวดหรือประมาณ 1 ใน 3 ของเงินรายได้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2551 (ณ วันที่ 30 ก.ย.51) ธอส.มีผลกำไร (ก่อนกันสำรองหนี้สงสัยจะสูญ) จำนวน 7,520 ล้านบาท โดยในปีนี้ธนาคารได้กันสำรองฯ ไปแล้วจำนวนกว่า 5,843 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีก่อน 3,056 ล้านบาท คิดเป็น 109.67 % เพื่อนำเข้าสู่เกณฑ์สำรองตามมาตรฐานIAS 39ในปี 2555 ส่งผลให้ไตรมาส 3 ธนาคารมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 1,677 ล้านบาท ลดลง 334.51 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16.63 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,011.51ล้านบาท

ในช่วง 9 เดือนแรก ธนาคารปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 57,026.77 ล้านบาท จำนวนลูกหนี้ 82,460 ราย มีหนี้เอ็นพีแอล 67,499.41 ล้านบาท คิดเป็น 11.48 % ของยอดสินเชื่อรวม ขณะที่ทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) คงเหลือสุทธิตามงบการเงิน จำนวน 9,670.75 ล้านบาท ลดลง 9.57 %   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us