Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤศจิกายน 2551
“เมืองไทยประกันภัย”รุก ตอ.รับเป้าเติบโตปี 52 อีก 10-15%             
 


   
www resources

โฮมเพจ เมืองไทยประกันภัย

   
search resources

เมืองไทยประกันภัย, บมจ.
Insurance
นวลพรรณ ล่ำซำ




นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)แถลงการรุกตลาดภาคตะวันออกอย่างเป็นทางการ ที่โรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน เมื่อเร็วๆนี้

“เมืองไทยประกันภัย” รุกขยายฐานผู้เอาประกันในต่างจัง หวัดรับการแข่งขันปี 52โดยเลือกภูมิภาคตะวันออกเป็นแห่งแรก พร้อมตั้งเป้าขยายเบี้ยประกันเพิ่มอีก 10-15% จากยอดเบี้ยประกันในปี 51 ที่มีประมาณ 4,050 ล้านบาท เผยเร่งสร้างพันธมิตรทางการค้าและอู่คู่สัญญาในภาคตะวันออก พร้อมสรรหาตัวแทนในจังหวัดต่างๆให้ครบ ก่อนบุกภูมิภาคอื่น เหตุเลือกพื้นที่แห่งนี้เป็นจุดแรก เพราะมีประชากรและโรงงานอุตสาหกรรมมาก ขณะเดียวกันยังเตรียมเปิดตัวหนังโฆษณาใหม่เพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้คนต่างจังหวัดรู้จักมากขึ้น

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เผยถึงการจัดแถลงข่าวเพื่อเปิดกลยุทธ์ขยายตลาดในภูมิภาค ของ บมจ.เมืองไทยประกันภัย โดยเลือกพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นแห่งแรกและเป็นฐานหลักว่า ภายหลังจากที่บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัดได้มีการควบรวมกิจการกับบริษัท ภัทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ ภายในระยะเวลา 3 ปี

ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานะเงินกองทุนที่มั่นคง กล่าวคือ มีเงินกองทุนสำรองกว่า 2.8 พันล้านบาทถือเป็นจำนวนเงินที่สูงถึง 7 เท่าที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบการธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.ได้กำหนดไว้ และยังมีสิน ทรัพย์สำรองไม่น้อยกว่า 6 พันล้านบาท

ภายหลังการควบรวมกิจการ บริษัทฯ มีจึงนโยบายที่จะขยายตลาดในภูมิภาคเนื่องจากเห็นว่าธุรกิจประกันภัยในภูมิภาคยังสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก ที่สำคัญยังเลือกพื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่แรกในการสร้างพันธมิตรทางการค้าและอู่คู่สัญญา ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้วจำนวน 28 แห่ง นอกจากนั้นยังเดินหน้าคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนสาขาในจังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออก ซึ่งขณะนี้ขาดอยู่เพียงจังหวัดตราดเท่านั้น และคาดว่าจะสรรหาตัวแทนดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ และหลังจากขยายฐานตลาดในพื้นที่แห่งนี้แล้วเสร็จก็จะสรรหาตัวแทนในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป

“การเลือกภาคตะวันออก เป็นเป้าหมายหลักในการขยายตลาดภูมิภาค และเป็นพื้นที่แรกในการเพิ่มสำนักงานตัวแทนก็เพราะเห็นว่าภาคตะวันออกมีประชากรและโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากจึงเหมาะแก่การขยายฐานลูกค้า โดยในปี 2552 จะเพิ่มจุดขายและงาน บริการที่หลากหลายไม่ว่าการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า เช่นประกันภัยรถยนต์ 5+พลัส ประกันภัยบ้านเมืองไทยฯลฯ การกำหนดราคาและเงื่อนไขที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าและอื่นๆ โดยก่อนควบรวมกิจการเรามีเบี้ยประกันในพื้นที่ภาคตะวันออกประมาณ 4% ของเบี้ยประกันทั้งหมด 4,050 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้าเบี้ยประกันในภูมิภาคแห่งนี้จะเพิ่มเป็น 7% ”

นางนวลพรรณ ยังเผยอีกว่าในปี 2552 บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างตัวแทนที่มีคุณภาพให้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 100 ราย จากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 311 รายทั่วประเทศในปี 2551 ขณะเดียวกันก็จะขยายสำนักงานตัวแทนในทั่วประเทศอีกประมาณ 35 แห่ง และจะขยายศูนย์การให้บริการแก่ลูกค้าครอบคลุมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเ ฉียงเหนือและภาคใต้ โดยคาดว่าภายหลังการรุกตลาดภูมิภาคอย่างจริงจังจำนวนเบี้ยประกันจะเติบโตจากปี 2551 อีกประมาณ 10-15%

“วิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยค่อนข้างน้อยในแง่ของยอดรายได้ โดยในปีนี้บริษัทมียอดเติบโตทางธุรกิจถึง 40% เพราะประชาชนยังคงตระหนักถึงการทำประกันภัย อย่างไรก็ดี วิกฤตเศรษฐกิจก็ส่งผลต่อสินทรัพย์ที่เราลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน แต่เนื่องจากสินทรัพย์ที่เราลงทุนมีน้อย ก็เลยไม่กระทบกระเทือนเท่าไร ส่วนในปี 2552 ที่มองว่าจะมีการเลิกจ้างเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เราก็กังวลเรื่องการตั้งเป้าเบี้ยประกันเช่นกัน แต่ก็พยายามที่จะใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อตอกย่ำแบรนด์ให้ประชาชนในต่างจังหวัดรู้จักเรามากที่สุด และในเร็วๆ นี้ก็จะออกหนังโฆษณาใหม่เพื่อให้ผู้เอาประกันรู้จักเรามากยิ่งขึ้น ” นางนวลพรรณ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us