Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2532
เลิกพูดว่าเธอเก่งแต่ร้องเพลงเสียทีได้ไหม             
 


   
search resources

กมลา สุโกศล
Hotels & Lodgings
โรงแรมสยามซิตี้




ผู้หญิงนี้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ชีวิตเธอจึงได้รับการฟูมฟักมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งคงมีผู้หญิงไม่มากคนนักในสมัยเมื่อ 40 กว่าปีก่อนจะโชคดีอย่างเธอ คนหลายคนรู้จักเธอแต่เพียงว่าเป็นผู้หญิงที่ร้องเพลงเก่ง แต่น้อยคนจะรู้จักเธอว่าเป็นผู้หญิงที่ทำงานหนักคนหนึ่งไม่น้อยกว่าผู้ชายคนใดเลย

อายุเพียง 3 ขวบเธอก็ถูกส่งเข้าเรียนในโรงเรียนชั้นดีของกรุงเทพฯ ST. JOSEPH'S CONVENT และอายุเพียง 9 ขวบก็เดินทางไปเรียนชั้นมัธยมที่อังกฤษ FARRINGTON'S SCHOOL CHISBHURST, KENT ENGLAND ก่อนที่ 4 ปีต่อมาเธอถูกส่งไปเรียนมหาวิทยาลัย BOSTON, USA. ก่อนที่จะย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย MIAMI, USA ในอีก 2 ปีต่อมา และไปต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย COLUMBIA, USA เธอจบมาทางด้านอักษรศาสตร์ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท

เมื่อเรียนจบแล้วเธอยังอยู่เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่ UNIVERSITY OF MARYLAND และ YALE UNIVERSITY อีกแห่งละ 2 ปีตามลำดับ

เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวของสมาชิก "กลุ่มใต้ถุน" ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ชายล้วน ๆอย่างอาสา สารสิน บัณฑิต ปุณยปานะ ศิวะวงค์ จังคศิริ ทวีศักดิ์ เสตะเวช ไพโรจน์ สุวรรณกร วาปี ภิรมย์ภักดี ชาติเชื้อ กรรณสูตร หรืออย่าง เฉลิมพันธ์ศรีวิกรณ์

และอีกหลายคนที่อาศัยใต้ถุนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาเป็นที่พักพิงหลับนอนเมื่อสมัย พจน์ สารสิน เป็นเอกอัครราชทูตประจำอยู่ที่นั่น

ปัจจุบันนี้สมาชิกของกลุ่มใต้ถุนยังคงมีการพบปะสังสรรค์กันอยู่เป็นประจำทุกเดือน

จึงไม่น่าจะเป็นความผิดของเธอ ถ้าหากเธอจะพูดภาษาไทย 10 คำแล้วพูดภาษาฝรั่งเสีย 20 คำ จริง ๆ แล้วเธอพูดได้หลายภาษา นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ก็ยังมีภาษาฝรั่งเศส เยอรมันหรือแม้แต่ภาษารัสเซียที่เธอเองบอกว่าไม่ค่อยชอบนัก แต่ก็พอพูดได้บ้าง เพราะเธอเรียนมาทางนี้โดยตรง

และก็คงไม่ใช่ความผิดของเธออีกเช่นกันที่ความคิดและบุคลิกภาพของเธอจะออกไปทางฝรั่ง เธอเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา มีเหตุมีผลและมีหลักอยู่ในตัวของมันเองเสร็จสรรพเพราะใช้ชีวิตอยู่กับฝรั่งเสียนานถึง 23 ปี เมื่อเทียบกับอายุของเธอขณะนี้ 47 ปี ก็เรียกว่าครึ่งชีวิตพอดี

นอกจากจะกระเดียดไปทางฝรั่งแล้วเธอยังออกจะเป็นผู้ชายเสียด้วยซ้ำ เพราะเธอเป็นลูกสาวคนโตของนายห้างกมลสุโกศล ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจกมล สุโกศล มีเครือข่ายกิจการค้าครบวงจรทั้งอุตสาหกรรมการค้าการเงิน และบริการ แต่เป็นกลุ่มธุรกิจที่รวยมาอย่างเงียบ ๆ ที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถมาสด้า

แต่รับรองได้ว่าเธอไม่ได้เป็น "ทอม" เพราะขณะนี้เธอมีลูกสาวลูกชายที่โตเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้วถึง 4 คน เกิดกับสามีซึ่งอยู่ด้วยกันมานานพอสมควร แต่ตอนนี้เธอเลิกลากันไปเสียแล้วหลายปี

ก่อนหน้านี้เธอเคยหมั้นหมาย (เตรียมการจะแต่งงานกันจริง ๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย) กันคนระดับปลัดกระทรวงในเมืองไทยปัจจุบัน แต่นั่นมันเป็นเหตุการณ์ที่สถานทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน โดย พจน์ สารสิน เป็นประธานให้อย่างสมเกียรติ

บนหน้าหนังสือสตรีและหรือคอลัมน์สังคมไฮโซไซตี้ เธอถูกถ่ายทอดสู่ผู้อ่านว่าเป็นศิลปินเพลงแจ๊สระดับแนวหน้าที่เล่นเปียโนและร้องเพลงเก่งเรียกว่าโชว์ตามโรงแรมหรู ๆ ทั่วโลกได้สบาย ๆ

ก็จริง เธอคือเจ้าของเสียงเพลง PATAYA ที่ดังไปทั่วโลกในขณะนี้ และอีกหลายเพลงที่คนฟังได้ฟังแล้วประทับใจและรู้จักตัวเธอ รู้จักเมืองไทยมากขึ้นเพลงเหล่านั้นถูกส่งไปเปิดในสถานที่ต่าง ๆ เช่นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน บริษัททัวร์หรือสำนักงานการท่องเที่ยวในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

"ดิฉันเล่นเปียโนเป็นตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน มันชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ อาจเป็นเพราะคุณพ่อคือนายห้างกมลท่านชอบฟังเพลง-เสียงดนตรี ที่บ้านมีเปียโนดิฉันก็หัดเร็ว แต่เป็นเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ คนอื่นเห็นก็งง คิดว่าเป็นเพราะพรสวรรค์มากกว่าแต่ก็ยังสู้เด็กฝรั่งไม่ได้ เขาเก่งกว่าเราแยะเลย" กมลากล่าวกับ "ผู้จัดการ"

เธอไม่ได้ร้องเพลงหรือเล่นดนตรีเป็นอาชีพ แต่สาธารณชนส่วนใหญ่รู้จักเธอในฐานะของนักร้อง และก็บังเอิญเหลือเกินที่ชื่อเธอก็ไปพ้องเอากับชื่ออมรา อัศวนนท์ ดารา นักร้อง นักแสดงมีชื่อของฟ้าเมืองไทยเมื่อร่วม 30 ปีก่อนและปัจจุบันก็มีชื่อติดอยู่บ้าง ยิ่งทำให้คนที่ไม่รู้จักคนทั้งสองดีจำสับสนกันไปหมด

แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นนักธุรกิจที่ทำงานหนักมาก เธอให้คำนิยามแก่ตัวเธอเองว่า "บ้างานหรือสนุกกับงาน" มากกว่าที่จะบอกว่าทำงานหนัก

"เพราะดิฉันเป็นคนที่ทำงานแล้วสนุก แม้จะงานมากมายแต่ก็ไม่เห็นว่ามันหนัก" เธอพูด

กมลากลับมาจากเมืองนอกเมื่ออายุได้ 25 ปีพอดีก็เข้าทำงานกับกลุ่มธุรกิจของครอบครัวในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปบริษัทกมลสุโกศล จนอีก 10 ปีต่อมาเธอจึงเข้าจับธุรกิจโรงแรมโดยการบังคับของผู้เป็นพ่อ

จนปัจจุบันเวลาได้ล่วงเลยมาร่วม 10 ปี นับได้ว่าเธอเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมของกลุ่มจริง ๆ และก็ดูแลรับผิดชอบเป็นงานหลักในปัจจุบัน ส่วนน้องสาวคนเดียวของเธอ กมลี สุโกศล ปัจฉิมสวัสดิ์ ดูแลกิจการด้านรถยนต์มาสด้าเป็นหลัก

กงสีใหญ่ (โฮลดิ้งคัมปานี) มีผู้เป็นแม่และน้าสาวของเธอเป็นผู้รับผิดชอบแทนผู้เป็นพ่อ ซึ่งล่วงลับไปนานแล้ว เลยกลายเป็นว่ากลุ่มธุรกิจกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้หญิงล้วน ๆ เพราะนายห้างกมลไม่มีทายาทเป็นผู้ชายเลย

"เราเริ่มต้นโรงแรมของเราที่พัทยา จากเมื่อ 15 ปีก่อน คุณพ่อซื้อที่ดินจากหลวงชำนาญมาทิ้งไว้เฉย ๆ เกือบ 5 ปี ก่อนที่จะมาบอกให้ดิฉันทำโรงแรมท่านบอกว่าถ้าดิฉันไม่ทำ ท่านจะให้คนอื่นทำ ดิฉันก็ต้องทำทั้งที่ใจจริง ๆ ไม่ชอบเลยคุณ" เธอย้อนอดีตให้ "ผู้จัดการ" ฟังเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

กมลาทำ SIAM BAYSHORE RESORT HOTEL ได้อยู่พักหนึ่งก็เห็นว่ากิจการพอขยับขยายได้เพราะได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากลูกค้าย่านยุโรป อเมริกาและก็เหลือที่ว่างเปล่าอยู่มากมาย จนในที่สุดก็เปิด SIAM BAYVIEW HOTEL ขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง และในปลายปีหน้านี้ก็จะเปิด SIAM RIVER KWAI ที่กาญจนบุรี กับ SIAM CITY HOTEL กรุงเทพฯ ซึ่งกำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จแล้วในขณะนี้

"จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้ดีเลิศหรอก แต่ต้องเข้าใจว่าธุรกิจโรงแรมมันมีขึ้น - ลงอยู่ตลอดเวลา แต่ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีส่วนหนึ่งก็คืนทุนแบงก์ไป แต่ส่วนหนึ่งเราก็เอามาขยายใหม่ออกไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวนี้เราเป็นกลุ่มชนโรงแรมของคนไทยที่เด่นข้นมาอีกกลุ่มนึ่ง ซึ่งเราใช้ชื่อกลุ่มว่า "SIAM BAY & CITY HOTELS" เธอกล่าว

การก้าวย่างสู่ธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาวชื่อ SIAM CITY HOTEL บนถนนศรีอยุธยากลางเมืองบางกอก ซึ่งต้องใช้ทุนกว่า 1,000 ล้านบาท และไม่มีผู้เป็นพ่อคอยบังคับแล้วนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับเธออย่างมากเพราะกรุงเทพฯเวลานี้เต็มไปด้วยคู่แข่งขันที่น่ากลัว อย่างน้อย ๆ ก็มีโรงแรมระดับเดียวกันไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง และกำลังจะเปิดเพิ่มขึ้นมาอีกไม่รู้กี่มากน้อย แต่เธอก็บอก "ผู้จัดการ" ด้วยความมั่นใจว่าไม่หนักใจอะไรเลย

"คุณก็คิดดูว่าเราทำโรงแรมมานานนับ 10 ปีแล้ว มีลูกค้าที่ให้การสนับสนุนเราอยู่ทั่วโลกเรามีคนของเราซึ่งสะสมประสบการณ์มาพร้อมกันนับตั้งแต่ก่อตั้งอย่างพร้อมเพรียง ไม่เคยหนีไปไหน เพราะเขารักองค์กรของเรา สิ่งที่เราคิดก็คือว่าเราจะทำให้โรงแรมของเราแปลกใหม่และดีกว่าที่มีอยู่อย่างไร" เธอกล่าวด้วยความมั่นใจอีกเช่นเคย

"SIAM CITY HOTEL" เป็นโรงแรมเดอลุกซ์ขนาด 540 ห้องพัก มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ให้ผสมกลมกลืนกันระหว่างรูปแบบศิลปไทยสมัยรัชกาลที่ 5-6 กับรูปแบบของ "เดดโก้" ที่ยอมรับว่าเป็นศิลปะที่เก๋สง่าของยุโรป

เดิมทีเดียวที่ตั้งของ SIAM CITY HOTEL ปัจจุบันเคยเป็นที่ตั้งของโรงแรมเจ้าพระยาของนงนุช อัมพุช ซึ่งขณะนั้นถือว่าเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งของกรุงเทพฯทีเดียว (ประมาณปี 2512) คเก่าแก่เล่าให้ฟังว่าที่นั่นคราคร่ำไปด้วยทหารอเมริกันที่เข้าพักผ่อนหลังจากเหนื่อยจากการรบพุ่งกับเวียดนาม

กิจการของโรงแรมเจ้าพระยาจึงนับว่าไปได้ดีพอสมควร จนเข้าสู่ปี 2518-2519 เมื่อทหารอเมริกันถอนทัพกลับ ทำให้ดูซบเซาลงไปมากและกิจการเริ่มขาดทุน

นายห้างกมล สุโกศล นักธุรกิจที่กำลังมือขึ้นและมีเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวเป็นชาวญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จึงได้ชวนกันเข้ามาเช่าดำเนินกิจการต่อกิจการแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโรงแรมนิวอัมรินทร์ โดยมีนายโยซิฮิชะมาซือดะ เป็นหัวเรือใหญ่บริหารดูเหมือนกิจการจะไปได้ดี มีการต่อสัญญาเช่ากันถึง 3 ครั้ง นักท่องเที่ยวที่เคยเป็นทหารจีไอก็เปลี่ยนมาเป็นชาวซามูไรจากแดนอาทิตย์อุทัยแทน

มาจนถึงปลายปี 2526 กิจการก็เริ่มซบเซาลงไปอีก ประกอบกับค่าเช่าก็ขึ้นกันเรื่อย ๆ จนถึงปี 2526 นั้นค่าเช่าขึ้นสูงถึง 30 ล้านบาท แล้วในที่สุดญี่ปุ่นก็ถอนตัวกลับหลังจากนายห้าองกมลเสียชิวตไปได้ไม่นาน แล้วโรงแรมนิวอัมรินทร์ก็ปิดตัวเองลง เพราะทนสภาพการขาดทุนไม่ไหว

ส่วนที่ดินจำนวน 8 ไร่นั้นกมลา สุโกศล เธอบอกว่าเป็นที่ดินเก่าแก่ของคุณพ่อของเธอที่ซื้อไว้นานแล้ว เมื่อถึงวันนี้ก็สมควรจะได้ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ให้สมกับราคาที่ดินที่พุ่งขึ้นทุกวัน จึงออกมาเป็น SIAM CITY HOTEL ที่พร้อมจะเปิดบริการในปลายปีหน้านี้แล้ว

ประสบการณ์ร่วม 10 ปีของเธอพอจะบอกได้ว่าเธอไม่ใช่เก่ง แต่ร้องเพลงอย่างเดียวซะแล้ว และประวัติศาสตร์คงจะไม่ซ้ำรอยเดิมอีก

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us