Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 พฤศจิกายน 2551
RAIMONหวั่นการเมืองกระทบบ้านหรู             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไรมอน แลนด์, บมจ.
Real Estate




“ ไรมอนแลนด์ “หวั่นปัญหาการเมืองที่รุนแรงกระทบท่องเที่ยวภูเก็ตวูบ ฉุดตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวตาม ระบุเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวเข้าไทยน้อยลงแล้วในช่วงส.ค.-ก.ย. เผยผู้ประกอบการบางรายชะลอพัฒนาโครงการ พร้อมแนะหากมียอดขายช่วงพรีเซลไม่ถึง 35% ควรหยุดพัฒนา ขณะเดียวกันเชื่อว่าผลกระทบระยะสั้น เหตุท้องถิ่นเร่งพัฒนา-ลงทุนระบบสาธารณูปโภคหวังยกระดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลก

นายไนเจิล คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RAIMON เปิดเผยตัวเลขรายงานการวิจัยเชิงลึกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ภายใต้ชื่อ “ Why Invest …Phuket” ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตมีแนวโน้มอัตราเติบโตที่ดี เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีนักท่องเที่ยวในปี 2550 เข้ามาท่องเที่ยว 2.85 ล้านคนและคาดว่าภายในปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3 ล้านคน

นอกจากนี้ องค์การบริการส่วนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต ยังให้การสนับสนุนแผนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคอย่างเต็มที่ โดยมีแผนขยายท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากปีละ 6.5 ล้านคนเพิ่มเป็น 11.5 ล้านคนด้วยงบประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการในปีพ.ศ. 2553 อีกทั้งยังมีแผนขยายท่าจอดเรือจาก 455 ท่า เพิ่มเป็น 770 ท่าภายในปีพ.ศ. 2553 เช่นเดียวกัน รวมไปถึงโรงพยาบาลที่จะมีเพิ่มขึ้นอีก 76 เตียงในสิ้นปีนี้จากที่ปัจจุบันมีจำนวน 411 เตียง

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากปัญหาทางการด้านเมือง และวิกฤตการเงินโลก ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยน้อยลง หลังจากเห็นสัญญาณตั้งแต่เดือนกันยายนถึงสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะกระทบในช่วงสั้นเท่านั้น แต่หากปัญหาการเมืองของไทยมีความรุนแรงเกิดการปะทะกันจะส่งผลกระทบอย่างมากทั้งในด้านธุรกิจและการท่องเที่ยว

ส่วนตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้วัดได้ว่า ได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด เนื่องจากต้องรอให้ผ่านช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ไฮซีซั่น)ไปก่อน จึงจะสามารถสรุปผลกระทบได้ อย่างไรก็ตาม ได้มีบางโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จชะลอการพัมนาโครงการออกไปบ้างแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการจะสามารถประเมินได้จากการเปิดขายในช่วงพรีเซล หากโครงการใดมียอดขายได้ถึง 35% ก็อาจจะต้องชะลอหรือหยุดการพัฒนาโครงการ ในส่วนที่ลูกค้าซื้อไปแล้วต้องคืนเงิน

ในส่วนของแผนการลงทุนของบริษัท แม้ว่าภาวะตลาดจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลกและการเมืองในประเทศ แต่เชื่อว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงสั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงดำเนินงานตามแผนเดิม คือภายในปีนี้จะเปิดตัวโครงการอมาฟี่ พัฒนาเป็นวิลลาตากอากาศบริเวณหาดบางเทา จ.ภูเก็ตเนื้อที่ 40 ไร รวมมูลค่า 4,100 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะแยกสัญญาออกเป็น 2 ฉบับคือ ที่ดินและตัวบ้าน

นายคอร์นิค กล่าวต่อว่า บริษัทได้ทำการสำรวจและวิจัยตลาดคอนโดมิเนียมและวิลลาในจังหวัดภูเก็ตพบว่า อัตราการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในภูเก็ตเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2547 อยู่ที่ 316 ยูนิต ในปี 2548 อยู่ที่ 545 ยูนิตและปี 2549 ที่ 690 ยูนิต แม้จะมีการชะลอตัวในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อยู่บ้างในปี 2550 อยู่เพียง 101 ยูนิต แต่ความต้องการในตลาดก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมีห้องชุดถูกจำหน่ายไปถึง 214 ยูนิต และในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 มีห้องชุดในภูเก็ตเปิดตัวทั้งสิ้น 2,202 ยูนิตจาก 48 โครงการ และครึ่งหนึ่งถูกจำหน่ายออกไปเรียบร้อยแล้ว โดยห้องชุดจำนวน 168 ยูนิตที่ถูกจำหน่ายออกไปในช่วงครึ่งแรกของปี มีมูลค่า 2,700 ล้านบาท

สำหรับราคาขายของห้องชุดในภูเก็ตมีความหลากหลาย โดยในปี 2550 ราคาขายห้องชุดในภูเก็ตอยู่ระหว่าง 55,000 – 140,000 บาทต่อตารางเมตร และมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรที่ 101,203 บาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของห้องชุด คือ ทัศนียภาพ , การเข้าถึงชายหาด, คุณภาพของวัสดุและเฟอร์นิเจอร์, และสถานที่ตั้ง โดยพื้นที่ฝั่งตะวันตกของภูเก็ตจะมีราคาสูงที่สุด

ส่วนราคาขายเฉลี่ย อยู่ที่ 15.9 ล้านบาท (496,875 เหรียญสหรัฐ) ปัจจุบันภูเก็ตมีห้องชุดที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างทั้งสิ้น 1,450 ยูนิต ปัจจุบันภูเก็ตมีห้องชุดที่มีราคาสูงกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐและอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจำนวน 1,450 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันขายไปได้แล้ว 49% ทำให้มีห้องชุดที่ราคาสูงกว่า 150,000 เหรียญสหรัฐ เหลือขายอยู่ 745 ยูนิตจากจำนวน 26 โครงการ

ปัจจุบันภูเก็ตมีวิลลาที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐและอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจำนวน 363 หลัง โดยสามารถจำหน่ายไปได้แล้วกว่า 63 % โดยระดับราคาของวิลลาส่วนใหญ่อยู่ที่ 2 – 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ราคาขายของวิลลาระดับท็อปเอนด์อาจพุ่งสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

ด้านอัตราการเช่าสำหรับห้องชุดขนาด 180 – 250 ตารางเมตรในภูเก็ต ซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาล โดยช่วงฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นหรือช่วงเทศกาล (ที่มีอยู่ประมาณ 32 วันต่อปี) จะมียอดการซื้อห้องชุดถึง 90% ส่วนในช่วงฤดูท่องเที่ยว (161 วัน) จะมียอดการซื้อห้องชุดที่ 70% และช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว (172 วัน) ยอดการซื้อห้องชุดอยู่ที่ 40% สำหรับราคาให้เช่าขึ้นอยู่กับฤดูกาลเช่นกัน โดยในช่วงฤดูท่องเที่ยวหนาแน่นหรือช่วงเทศกาล ราคาให้เช่าจะอยู่ระหว่าง 250 – 495 เหรียญสหรัฐต่อคืน ช่วงฤดูท่องเที่ยวอยู่ที่ 175 – 385 เหรียญสหรัฐต่อคืน และช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวอยู่ที่ 135 – 200 เหรียญสหรัฐ โดยผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 6-10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us