Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 พฤศจิกายน 2551
นักลงทุนแห่จองหุ้นกู้ “BECL”เกลี้ยง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัททางด่วนกรุงเทพ (BECL)

   
search resources

ทางด่วนกรุงเทพ, บมจ.
Transportation




“บีอีซีแอล” ปลื้ม นักลงทุนแห่จองหุ้นกู้มูลค่า 4 พันล้านบาทหมดเกลี้ยง หลังเปิดให้จองซื้อเป็นวันแรก ผู้บริหารอ้างได้รับผลดีจากภาวะตลาดหุ้นซบและคาดการณ์ยากจากปัจจัยลบต่างประเทศ บวกกับอัตราผลตอบแทนสูงที่ 5.20% ระบุวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินชำระหนี้ ขณะที่ยอดใช้บริการทางด่วนปีนี้หดจากราคาน้ำมันแพง แต่รับรู้รายได้ขายหุ้น-ปันผลน้ำประปาพยุงรายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน พร้อมคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวฉุดยอดใช้บริการทางด่วนปีหน้าไม่โต

นางปาหนัน โตสุวรรณถาวร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงิน บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BECL เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัทมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 3-6 พฤศจิกายน 51 ว่า นักลงทุนได้แสดงความสนใจจองซื้อหุ้นกู้เข้ามาเป็นจำนวนมากจนเต็มจำนวนทั้ง 4,000 ล้านบาท หลังจากเปิดให้จองเป็นวันแรก

สำหรับสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนสนใจจองซื้อเข้ามาจำนวนมาก สืบเนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่เอื่ออำนวยต่อการลงทุนและคาดการได้ยาก จากได้รับผลกระทบจากปัญหาจากต่างประเทศ และดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารต่ำ ทำให้นักลงทุนหันเข้ามาลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทจากที่บริษัทมีความมั่นคงและให้ดอกเบี้ย 5.20%

ทั้งนี้ การที่บริษัทมีการเสนอขายหุ้นกู้ในขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมจากสภาพคล่องทางการเงินในระบบมีพอสมควร เป็นการบริหารความเสี่ยงและเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท เพราะบริษัทขนาดใหญ่ไม่ว่าเป็น ปตท. ปูนซีเมนต์ ฯลฯ มีการอออกหุ้นกู้ และทิศทางดอกเบี้ยในระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ทั้งหมดบริษัทจะนำไปชำระคืนหนี้

“การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จำนวน 4 พันล้านบาท จากที่ขอไว้ว่าจะเสนอขายไม่เกิน 7.5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งที่2 จากก่อนหน้านี้เสนอขายไปแล้ว 7.5 พันล้านบาท และบริษัทยังมีวงเงินเหลือที่จะสามารถออกหุ้นกู้ได้อีก 3.5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะออกได้ปีหน้าซึ่งก็จะครบวงเงินที่ขอบอร์ดอนุมัติไว้ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท” นางปาหนัน กล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทยังไม่มีแผนที่จะมีการซื้อหุ้นคืนจากการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง เนื่องจากบริษัทยังมีหนี้ที่สูง และมีภาระที่จะต้องชำระคืนหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนดจึงไม่เหมาะสมที่จะทำเพราะ บริษัทที่จะทำต้องมีหนี้ต่ำ และมีเงินสดเพียงพอในการดำเนินงานในอีก 6 เดือนข้างหน้า และการที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงนั้นเชื่อว่าเป็นแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีการลงทุนระยะสั้น แต่นักลงทุนต่างชาติที่มีการลงทุนยาวนั้นยังไม่ได้มีการขายหุ้นของบริษัทออกมา

นางปาหนัน กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทคาดว่าจะใกล้เคียงกับปี2550 ที่มีรายได้รวม 7,289 ล้านบาท ถึงแม้ยอดการใช้ทางด่วนของประชาชนจะลดลงเหลือประมาณกว่า 8 แสนคันต่อวัน จากปีก่อนที่ประมาณกว่า 9 แสนคันต่อวัน เพราะ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงและแรงในช่วง 9 เดือนแรก และยังไม่สามารถรับรู้รายได้ค่าทางด่วนวงแหวนใต้ได้ทำให้ปริมาณรถหายไป 40,000 คันต่อวัน

ทั้งนี้บริษัทจะได้รับรู้รายอื่นเข้ามาจากการเสนอขายหุ้นบริษัทน้ำประปา จำกัด (มหาชน)หรือ TTW และได้รับเงินปันผลจากน้ำประปาเข้ามาในงบการเงินไตรมาส4 ประมาณ 50 ล้านบาท จากที่ถือหุ้นกว่า 300 ล้านหุ้น และการที่บริษัทมีการปรับค่าด่วนทางขึ้นในเดือนกันยายนก็ทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น จึงทำให้สามารถช่วยทำให้รายได้รวมปีนี้ของบริษัทสามารถใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาได้

สำหรับแผนการดำเนินงานปีหน้าจากที่ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตลดลงนั้น บริษัทจะมีการควบคุมในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เข้มงวดมากขึ้นและเตรียมแผนที่จะเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยโตได้ 2-3% โดยเชื่อว่าการใช้ทางด่วนของประชาชนจะไม่เติบโต แต่บริษัทจะมีรายได้รวมปี2552เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี2551 เพราะ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการปรับขึ้นค่าทางด่วนเต็มปีและรับรู้รายได้จากการเก็บค่าทางด่วนวงแหวนใต้ที่จะเริ่มเก็บในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า

“จากปัญหาวิกฤตทางการเงินสหรัฐนั้นบริษัทก็จะพยายามที่จะไม่มีการดำเนินทางไปโรดโชว์ในต่างชาติจากที่ได้รับผลกระทบ แต่จะหันมาโรดโชว์ให้กับนักลงทุนสถาบันในประเทศและรายย่อยแทน เพื่อที่จะให้ข้อมูลและเข้ามาซื้อขายชดเชยกับนักลงทุนต่างชาติที่มีการขายออกไป ” นางปาหนัน กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us