|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บลจ.เอ็มเอฟซี ปรับพอร์ตกองทุนเอฟไอเอฟหนีวิกฤต ลดสัดส่วนลงทุนหุ้นเหลือ 30-35% จากเดิม 65-80% จากวิกฤตสถานบันการเงินที่คาดส่งผลยาวจนถึงสิ้นปี โดยโยกไปฝากธนาคารแทน เหตุตลาดบอนด์ผันผวนเช่นกัน
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า วิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นจนส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอยู่ในขณะนี้ ทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) ด้วยการดึงเงินลงทุนออกจากการลงทุนในหุ้นไปลงทุนในเงินฝากแทน โดยยกเว้นกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล อิควิตี้ ฟันด์ (MGE) เท่านั้น โดยกองทุนที่ดึงเงินลงทุนกลับมานั้น เป็นกองทุนเอฟไอเอฟที่เอ็มเอฟซีบริหารเอง และกองทุนที่เราจ้างผู้จัดการกองทุนบริหารให้ ส่วนกองทุนประเภท Feeder Fund หรือกองทุนที่มีกองทุนหลักในต่างประเทศกองเดียว ไม่สามารถดึงกลับมาได้
ทั้งนี้ จากการปรับพอร์ตดังกล่าว ทำให้พอร์ตการลงทุนในปัจจุบัน ให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นเฉลี่ยอยู่ประมาณ 30-35% จากสัดส่วนการลงทุนเดิม 65-80% ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนดังกล่าว ไม่มีหลักเกณฑ์กำหนดว่าจะต้องคงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็นเท่าไหร่ แต่เรามองว่าในระดับ 30-35% ถือว่าเป็นเพดานที่เหมาะสม เพราะตัวหุ้นที่กองทุนลงทุนอยู่ โดยพื้นฐานแล้วยังสามารถลงทุนได้ และยังมีกำไรต่อเนื่อง ซึ่งราคาหุ้นที่ปรับลดลง ก็เป็นผลมาจากการปรับลดลงของตลาดมากกว่า ดังนั้น เราจึงคงสัดส่วนการลงทุนระยะยาวเอาไว้
อย่างไรก็ตาม ตามกฏการลงทุนของกองทุนต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดไว้ว่าจะต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ดังนั้น การดึงเงินลงทุนออกจากหุ้นดังกล่าว ส่วนหนึ่งจะนำไปฝากในสกุลเงินบาท และอีกส่วนหนึ่ง กองทุนจะเปิดบัญชีเงินฝากในต่างประเทศในสกุลเงินต่างๆ รวมถึงอาจจะเปิดบัญชีเงินฝากสกุลต่างประเทศในธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่มีสาขาในประเทศไทย
โดยในส่วนของเงินฝากต่างประเทศนั้น น่าจะกำหนดอายุการฝากเงินเฉลี่ยประมาณ 3 เดือน ซึ่งหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็จะสามารถนำเงินไปลงทุนต่อได้ทันที ทั้งนี้ สาเหตุที่ไม่เลือกลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั่วโลก ตราสารหนี้เองก็เช่นกัน เพราะที่ผ่านมาผลตอบแทนเองก็ปรับลดลง ขณะเดียวกันยังคงมีความผันผวนสูงเช่นกัน
นายพิชิตกล่าวว่า ในส่วนของผู้ลงทุนนั้น ที่ผ่านมาเราให้ข้อมูลโดยละเอียดว่า กองทุนที่ลงทุนอยู่เป็นอย่างไรบ้าง บริษัทที่ลงทุนนั้นได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งนักลงทุนเองก็เข้าใจและส่วนใหญ่ไม่ขายออกมาแต่อย่างใด โดยเราจะแนะนำให้ลูกค้ารอดูสถานการณ์ไปอีก 6 เดือนเป็นอย่างน้อย ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า บรรดาบริษัทในต่างประเทศเองจะทยอยจ่ายเงินปันผลซึ่งน่าจะทำให้กองทุนปรับตัวขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้น จึงยังไม่แนะนำให้ขายออก เช่นเดียวกัน สำหรับนักลงทุนที่สนใจจะซื้อกองทุนต่างประเทศในช่วงนี้ เราก็จะแนะนำให้รอไปอีก 6 เดือนเพื่อรอดูสถานการณ์อีกครั้งเช่นกัน
"ในช่วงนี้ เอ็นเอวีของกองทุนต่างประเทศ น่าจะเริ่มนิ่งและอยู่ตัวแล้ว อาจจะมีการปรับลดลงบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งบางส่วนอาจจะมีการเข้าไปซื้อเพื่อทำกำไรและออกมา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในช่วงนี้ เราเองมีการติดตามการลงทุนทั่วโลกทุกวันอยู่แล้ว"นายพิชิตกล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเอฟไอเอฟจะสามารถเอาเงินกลับเข้าไปลงทุนได้อีกเมื่อไหร่นั้น มองว่าหลังจากนี้ ไปจนถึงสิ้นปีตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังผันผวนอยู่ เพราะยังมีปัจจัยลบทางด้านการเงินและการเมืองอยู่สำหรับประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อย่างอเมริกา แต่หลังจากผ่านการเลือกตั้งประธานธิบดีและได้ผู้นำคนใหม่แล้ว รวมถึงมีการประกาศนโยบายทางเศรษฐกิจออกมาชัดเจน ก็น่าจะเห็นผลจากนโยบายดังกล่าวว่าเศรษฐกิจอเมริกาถอถอยมากแค่ไหนในช่วงประมาณไตรมาสแรกของปีหน้า และน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี ซึ่งช่วงนั้นอาจจะมีการพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับกองทุนต่างประเทศของเอ็มเอฟซี ที่มูลค่าหน่วยลงทุนปรับลดลงค่อนข้างรุนแรง เช่น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ โกลบอล อะกริบิซซิเนส ฟันด์ (I-AGRI) ล่าสุดมูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ 5.0006 บาท กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี อินเวสท์ เอเชี่ยน อิควิตี้ (I-ASIA) 3.6469 บาท กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ชิค ฟันด์ (I-CHIC) 4.9156 บาท กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล แนชเชอรัล รีซอร์ส ฟันด์ (I-NATURAL) 5.1974 บาท กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเวสท์ เอเชีย อินฟราสทรัคเจอร์ ฟันด์ (IAINF) 4.6126 บาท
|
|
|
|
|