Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์5 พฤศจิกายน 2551
"โค้ก"ผสาน 2 แบรนด์ สร้างกระแสความนิยมในตลาดน้ำอัดลมอีกครั้ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ โคคา-โคล่า

   
search resources

โคคา โคลา (ประเทศไทย), บจก.
Soft Drink




ผ่ากลยุทธ์การทำตลาดของ โค้ก ในเชิงรุก ผสาน 2 แบรนด์ เปิดเกมระลอกแรกในสมรภูมิตลาดน้ำดำปราศจากน้ำตาล ต่อเนื่องด้วยการเปิดแคมเปญใหม่ส่งท้ายปี โค้ก ออริจินัล ทุ่มงบ 100 ล้านบาท เป้าหมายตอกย้ำแบรนด์ ให้ครองใจคนทั่วโลก

หลังจากเปิดตัว"โค้ก ซีโร่"ออกสู่ตลาดพร้อมกัน 100 ประเทศ เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา แนวทางการทำตลาดของโค้ก ในเมืองไทยก็ได้ปรับรูปแบบมาดำเนินการตลาดในเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปีนี้ ถือว่าเป็นปีแห่งการบุกตลาดแบบครบวงจร ของการทำตลาดน้ำดำของโคคา-โคลา (ประเทศไทย)

จากจุดเริ่มต้นของการทำตลาดด้วยกลยุทธ์ Pull strategy ที่ใช้การสื่อสารการตลาดผ่านสื่อครบวงจร ด้วยงบ 50 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ และการทำตลาดสร้างประสบการณ์ (Experiential Marketing) ในการทดลองดื่มที่มีมิสเตอร์ซีโร่ทำหน้าที่แจกผลิตภัณฑ์ โค้ก ซีโร่ ได้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มในเมืองเป็นหลัก ภายใต้การสร้างกระแส Product Trend ที่มีจุดเด่นทางด้านผลิตภัณฑ์คือ "ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมแต่มีรสชาติที่ใกล้เคียงกับโค้กออริจินัลสูตรดั้งเดิม" และแพกเกจจิ้ง "ดำนำเทรนด์" เป็นแนวทางในการทำตลาด

ล่าสุดกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ได้มีการเคลื่อนไหวในตลาดน้ำดำแบบออริจินัลของ "โค้ก" ฉลองความเป็นผู้นำตลาด ในฐานะแบรนด์ยอดนิยมที่มีมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท สูงสุดอันดับ 1 ของโลก 8 ปีซ้อน จาก"อินเตอร์แบรนด์" บริษัทที่ปรึกษาด้านการผลิตตราสัญลักษณ์ โดยทุ่มงบ 100 ล้านบาท สำหรับการทำตลาดในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้เพื่อจัดแคมเปญยิ่งใหญ่แห่งปี "อย่างเนี้ย... ต้องโค้ก" จัดกิจกรรมการตลาดครบวงจร ตอกย้ำแบรนด์ในใจของผู้บริโภค พร้อมต่อยอดจากปัจจุบัน โค้กซีโร่ถือเป็นผู้นำตลาด ในกลุ่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล

การเคลื่อนไหวในตลาดน้ำดำแบบออริจินัลของ "โค้ก" มีตั้งแต่การทำตลาดเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ความซ่าสดชื่นไม่มีใครเหมือน ผ่านแคมเปญ "โค้ก เพอร์เฟ็คต์ เสิร์ฟ" ให้ผู้บริโภคไทยทั่วประเทศ 1 ล้านคน ได้ลิ้มลองรสชาติเช่นเดียวกับผู้คนทั่วโลก

ตามด้วยการจัดกิจกรรม"เทศกาลซ่า..ยกโลก โค้กเฟสติวัล" ที่ลานเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ ในวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ สปอตวิทยุ โดยนำเสนอโฆษณาสั้น 3 เรื่อง ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่เพื่อดึงดูดความสนใจกับผู้บริโภค นอกจากนั้นภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ บาร์ดีไซน์ปล่อยไอเย็น และคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง

ต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ทางด้านแพกเกจจิ้งแต่ละรูปแบบ ล่าสุดวางจำหน่ายโค้ก ซีโร่ ขนาดใหม่ 10 ออนซ์ แบบคืนขวด ในร้านอาหาร ราคา 8 บาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดในการสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคแต่ละช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องกดตามร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารจานด่วน จากปัจจุบันโค้ก ซีโร่มี 5 ขนาด 5 ราคา ได้แก่ ขวดกริ๊ป ขนาด 500 มิลลิลิตร, ขวดแก้ว 250 มิลลิลิตร, แบบกระป๋อง ขนาด 325, ขวดเพ็ต ขนาด 600 มิลลิลิตร, ขวดเพ็ต ขนาดใหญ่ 1.25 ลิตร และจำหน่ายในรูปแบบเครื่องกด ตามร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารจานด่วน

วสุ มโนมัยพิบูลย์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อสร้างโอกาสตลาด และขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคที่ยังไม่เคยลองดื่มโค้กซีโร่ น้ำตาล 0% ภายในสิ้นปีนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายที่จะแจกโค้ก ซีโร่ ให้ผู้บริโภคได้พิสูจน์รสชาติ 3 ล้านขวด ตามแหล่งยอดนิยมของวัยทีนและคนทำงานทั่วกรุงเทพฯ เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางจำหน่ายที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

เหตุผล 2 ประการทั้งรูปแบบการสื่อสารการตลาดที่เน้นสื่อสารด้านรสชาติ และแพกเกจจิ้งนั้น ทำให้โค้ก ซีโร่ สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลได้ถึง 61% จากตลาดรวมมูลค่า 2 พันล้านบาท

อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ โค้ก ซีโร่ มีข้อได้เปรียบกว่า"เป๊ปซี่ แมกซ์"ซึ่งเป็นคู่แข่งในตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล และทำให้ "โค้ก ซีโร่" ได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค อีกทั้งเป็นแนวทางสำหรับการทำตลาดของ โค้ก ซีโร่ ในปีนี้เช่นเดียวกัน โดยระลอกแรกเมื่อกลางปีนี้ ได้ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวแคมเปญ Generation Zero เพื่อสร้าง Lifestyle Trend

ขณะที่ทางด้านความเคลื่อนไหวของ เป๊ปซี่ แมกซ์ ที่ผ่านมานั้น พยายามรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดที่เป็นผู้เข้ามาเปิดตลาดก่อน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทำตลาดเชิงรุก โดยเทงบ 44 ล้านบาท เพื่อเปิดตัวแนวคิด "0 แคลอรี เต็มที่ทุกสัมผัส" ซึ่งเป็นการรีแบรนด์และปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่มีรูปลักษณ์ทันสมัยเปลี่ยนสีกระป๋องจากน้ำเงินเป็นดำ

รวมทั้งภาพยนตร์โฆษณาใหม่ 5 เรื่อง ที่มีพรีเซนเตอร์ 5 คน เป็นสัญลักษณ์ทำหน้าที่สื่อสารความรู้สึก "เต็มที่เมื่อดื่มเป๊ปซี่ แมกซ์" ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการขยายช่องทางจำหน่ายแบบคืนขวด หรือ returnable ทั้งขนาด 10 ออนซ์ และ 15 ออนซ์ ซึ่งเป็นตลาดที่มีสัดส่วนการขายใหญ่ที่สุดของตลาดน้ำอัดลม หรือประมาณ 80% ของตลาดรวมน้ำอัดลม มูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตามปัจจัยที่เป็นตัวแปรทำให้ "โค้ก" หันมาบุกตลาดน้ำอัดลมที่อยู่ในช่วงขาลง นั่นเพราะมี "โค้ก ซีโร่" เป็นแบรนด์หลักในการทำตลาด ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคคนเมืองที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ เป็นหัวรบอย่างดีที่อาจจะทำให้ "โค้ก" ช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจาก "เป๊ปซี่" แบรนด์คู่แข่งที่เป็นอันดับหนึ่งในตลาด พร้อมทั้งผงาดขึ้นมาในตลาดรวมน้ำดำหลังจากที่เป็นรองคู่แข่งมาเป็นเวลาหลายปี อีกทั้งบริษัทแม่ของโค้กยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดในไทยอยู่ เพราะไทยถือเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่เป็นตลาดสำคัญของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาทั่วโลก

ไม่เพียงเท่านั้น การทำตลาดในเชิงรุกด้วย "โค้ก ซีโร่"นอกจากจะเป็นการขยายฐานลูกค้าแล้ว ยังเป็นการวางหมากเพื่อที่จะทำให้โค้กสามารถปกป้องตลาดในอนาคตเอาไว้อีกด้วย เนื่องจากแนวโน้มการตอบรับกระแสน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น จากการที่โค้ก ซีโร่ และเป๊ปซี่ แมกซ์ พยายามผลักดันให้เป็นเครื่องดื่มสำหรับตลาดในหัวเมือง และค่อยๆ ขยายฐานออกในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ และเมื่อถึงช่วงเวลาที่ตลาดน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลประสบความสำเร็จนั้นก็อาจจะทำให้ยอดขายน้ำดำแบบออริจินัล สูตรดั้งเดิมมีการเติบโตที่ลดลง

ปรากฏการณ์ที่ผู้บริโภคกลุ่มหลักที่เคยดื่มน้ำดำแบบออริจินัล จะสวิตชิ่งมาดื่มน้ำดำปราศจากน้ำตาล และทำให้ส่วนแบ่งตลาดน้ำดำแบบออริจินัลลดลง และยอดขายแบบปราศจากน้ำตาลเพิ่มขึ้นนั้น ได้เคยเกิดขึ้นในตลาดต่างประเทศ และเพื่อรับมือกับเหตุการณ์นี้ทำให้โคคา-โคลาเปิดตัวโค้ก C2 หรือโคล่าที่มีแคลอรีเพียงครึ่งหนึ่งของโค้กสูตรดั้งเดิมออกมาทำตลาด

ทั้งนี้ความพยายามของทั้ง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ในวงการน้ำอัดลม ที่โค้ก ซีโร่ และเป๊ปซี่ แมกซ์ ลงมาเปิดเกมแข่งขันกันทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์และจุดเด่นผลิตภัณฑ์ เพื่อฐานลูกค้าในเมือง รวมถึงการเร่งขยายฐานกลุ่มคนดื่มด้วยการออกบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วแบบคืนขวด ที่แม้เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในร้านอาหาร และร้านโชวห่วย ตอบสนองกลุ่มผู้ดื่มที่อยากดื่มน้ำดำที่มีไลฟ์สไตล์รักสุขภาพ เพิ่มเติมจากเดิมที่มีสินค้าวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด

ทว่าการเติบโตที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในตลาดแมส และอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตลาดน้ำอัดลม ที่ทำให้น้ำอัดลมปราศจากน้ำตาล เป็นสมรภูมิที่ร้อนแรง เช่นเดียวกับ น้ำอัดลมสูตรดั้งเดิม ที่สถานการณ์ปัจจุบันถูกรุมเร้าจากค่ายน้ำอัดลมโลว์คอสต์หลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น เมกกะ โคล่า เครื่องดื่มน้ำดำสัญชาติฝรั่งเศส และอาเจ บิ๊ก โคล่า ของประเทศเปรู และการกลับมาของกระทิงแดงโคล่า

ดังนั้นในวินาทีนี้ หากใครสามารถยึดตลาดน้ำอัดลมปราศจากน้ำตาลได้ก่อน นั่นหมายถึงก้าวสำคัญในการครองตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำอัดลมที่มีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาทด้วยเช่นกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us