|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2551
|
|
ความสัมพันธ์การทูตระหว่างไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เริ่มก่อตัวเมื่อ 33 ปีก่อน จนทำให้ไทยเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ เมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยในตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2541 และปี 2551 (มกราคม-สิงหาคม) ไทยส่งออก 1,787 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 7,750 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประเทศไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากยูเออีเป็นอันดับหนึ่งจากกลุ่มประเทศตะวันออกลาง ล่าสุดนำเข้าน้ำมันดิบ 7,366 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าไทยที่ส่งออกไปยังยูเออี เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ ผ้าผืน อัญมณี และเครื่องประดับ เหล็ก เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2550 สภาเทศบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีมติรับรองตราฮาลาลของสำนักคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในการรับรองโรงฆ่าไก่ที่ถูกต้องตามหลัก ศาสนาและโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ประเทศไทยทำให้สามารถส่งออก ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ด้านการท่องเที่ยวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จำนวนมากนิยม เดินทางมารักษาสุขภาพในประเทศไทย เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า ยุโรป และโรงพยาบาลที่นิยมมาใช้บริการมี 2 แห่ง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งคนอาหรับมองว่าเป็นโรงพยาบาลระดับเวิลด์คลาสถึงกับตั้งชื่อโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็น American Hospital และเรียกโรงพยาบาลกรุงเทพ เป็น Royal Hospital
จากการยกระดับให้โรงพยาบาลไทยเป็นเวิลด์คลาส ทำให้กรมสุขภาพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับโรงพยาบาลกรุงเทพในเดือนสิงหาคม 2547 เป็นส่วนหนึ่งในแผน การพัฒนาบริการทางการแพทย์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยกรมสุขภาพฯ จะส่งผู้ป่วยไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ รวมถึงให้มีการแลกเปลี่ยนความร่วมมือและผู้เชี่ยวชาญระหว่างกัน
ความสัมพันธ์ในระดับรัฐบาลมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิ การ ให้บริการเดินอากาศระหว่างทั้งสองประเทศ ปัจจุบันสายการบินเอมิเรตส์ให้บริการ กรุงเทพ-ดูไบ จำนวน 19 เที่ยวต่อสัปดาห์ ส่วนการบินไทยเปิดให้บริการ 11 เที่ยวกับและช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมเปิดเพิ่มอีก 2 เที่ยวบิน
ทว่าการให้บริการเที่ยวบินในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความ ต้องการใช้บริการ เพราะกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนิยมใช้บริการชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ นอกเหนือจากความร่วมมือด้านการให้บริการยังมีการบันทึกความเข้าใจแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2550
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐของไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ยังไปได้ดี อย่างน้อยการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ก็สามารถช่วยเป็นใบเบิกทางให้กับนักธุรกิจไทยที่จะไปแสวงหาโอกาสได้ไม่น้อย
|
|
|
|
|