ธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์เตรียมส่งผู้บริหารเข้าเป็นคณะกรรมการในไอเอ็นจี กรุ๊ป และแผนการสนับสนุนเงินทุน 1 หมื่นล้านยูโร จะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้

ภายใต้ข้อตกลงความช่วยเหลือของธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ที่มีต่อไอเอ็นจี ทำให้รัฐจะเสนอผู้แทนส่งคนเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริษัทเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคณะกรรมการบรรษัทภิบาล และคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนในการประชุมผู้ถือหุ้นปี 2552

ส่วนเงินจำนวน 1 หมื่นล้านยูโร ไอเอ็นจีจะออกหลักทรัพย์ที่ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงขั้นที่ 1 จำนวน 1 พันล้านหุ้นให้แก่ทางการเนเธอร์แลนด์ที่ราคา 10 ยูโรต่อหุ้น โดยธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ได้จัดหุ้นตัวนี้อยู่ในกลุ่มเงินกองทุนสำรองขั้นที่ 1 ซึ่งหลักทรัพย์เทียบได้กับหุ้นสามัญปกติและทางการเนเธอร์แลนด์จะจัดให้อยู่ในประเภทเดียวกันกับผู้ถือหุ้นสามัญทั่วไป

โครงสร้างของการเพิ่มเงินทุนกองทุนขั้นที่ 1 ออกแบบมาเพื่อให้หลีกเลี่ยงผลกระทบต่อจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่และสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้นเดิมและหลักทรัพย์นี้จะถูกโอนย้ายตามความยินยอมของไอเอ็นจีและธนาคารกลางของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น

ไอเอ็นจีมีสิทธิ์จะซื้อหุ้นคืนในบางส่วนหรือทั้งหมดได้ทุกเวลาที่ราคา 150% ของราคาขายหลักทรัพย์ ไอเอ็นจีมีสิทธิ์จะแปลงสภาพหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นสามัญในสัดส่วนหนึ่งต่อหนึ่งภายหลัง 3 ปี นับจากวันที่ออกหลักทรัพย์ซึ่งทางการเนเธอร์แลนด์จะจ่ายเงินคืนให้ที่ราคา 10 ยูโรต่อหุ้น

ส่วนการชำระดอกเบี้ยของหลักทรัพย์ขั้นที่ 1 จะจ่ายให้เมื่อมี การจ่ายเงินปันผลไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินปันผลในช่วงระยะเวลากลางปีหรือปลายปีก็ตาม ซึ่งจะจ่ายให้หุ้นส่วนสามัญตามงบการเงิน ปีก่อนหน้าวันที่จะชำระดอกเบี้ย ซึ่งดอกเบี้ยต่อปีจะมีจำนวน 0.85 ยูโร หรือเท่ากับ 110% ของเงินปันผลที่จ่ายให้กับหุ้นสามัญในปี 2551 120% ในปี 2552 และ 125% ในปี 2553 และปีต่อๆ ไป

ภายหลังจากการทำรายการนี้อัตราส่วนของ Core Tier-1 ของ ING Bank จะอยู่ที่ประมาณ 8% และอัตราส่วนของ Tier-1 จะมากกว่า 10%