เสียงเห่าหอนส่งผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์สลับกับเพลงสไตล์ต่างๆ...สำหรับคนที่ไม่ใคร่จะรักหมาอาจรู้สึกว่าน่ารำคาญมากกว่าน่าฟัง และดีเจก็โดนด่าว่า "บ้า" ไปตามระเบียบ แต่สำหรับหมาที่มีดนตรีในหัวใจและเจ้าของผู้รักหมา คงมีหลายคู่ที่ชื่นชอบและรอฟังสถานีวิทยุออนไลน์ที่มีชื่อว่า dogradiothailand.com แห่งนี้

"ถ้าจะเข้าเพลงเร็วก็จะเห่าเร็วให้มันมันส์ แต่ถ้าเป็นเพลงช้าก็เห่าช้าๆ ไม่ได้มีความหมายอะไร" อนุพันธ์ บุญชื่น เจ้าของไอเดียสถานีวิทยุออนไลน์เพื่อหมาเป็นแห่งแรกของโลก

ผ่านมา 2 ปีกว่า สถานีวิทยุออนไลน์เปลี่ยนมาเป็นสถานีวิทยุชุมชนและรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อ "Dog Holiday" ออกอากาศทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม แม้จะเปลี่ยน "ชาแนล" แต่อนุพันธ์ก็ยังเห่าหอนออกอากาศ เพื่อแสดง "อัตตา" ความเป็น "อนุพันธ์" ที่หลายคนรู้จัก เพียงแต่คราวนี้เห่าไปพูดไปเพื่อที่จะได้พูดคุยกับกลุ่มผู้ชมผู้ฟังที่เป็นคนได้รู้เรื่อง

ย้อนไปกว่า 10 ปีก่อน อนุพันธ์เริ่มต้นเข้าสู่แวดวงจากการทำธุรกิจฟาร์มหมาพันธุ์โกลเด้นฯ จากที่ทำเป็นเพียงอาชีพเสริม แต่ด้วยความรักและเห็นว่ารายได้ดี เขาจึงหันหลังให้กับอาชีพนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยมหิดล จากที่มีแม่พันธุ์เพียง 3-4 ตัว ปัจจุบันฟาร์มที่เชียงใหม่ของเขามีแม่พันธุ์รวม 50 ตัว

คลุกคลีอยู่กับหมามากๆ อนุพันธ์เริ่มอยากหาวิธีคลายเครียดให้หมา แต่การนวดธรรมดาๆ ก็มีคนทำกันมากแล้ว เขาจึงประยุกต์เอานวดแผนไทยโบราณและลูกประคบมาใช้กับการนวดหมา และเปิดเป็นร้านสปาที่ชื่อ "Bangkok Thai Dog Spa" แม้กิจการจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ด้วยความแปลกก็ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของสื่อทั้งในและต่างประเทศ

ดูเหมือนชื่อเสียงในครั้งนั้นยังเทียบไม่ได้กับการที่เขายอมลงทุน "เห่าหอน" ผ่านสถานีวิทยุออนไลน์ ไม่เพียงสื่อของไทย สื่อจากทั่วโลกพากันจับตา แม้แต่ CNN ยังบินมาเพื่อคุยกับเขา ...นับจากวันนั้นก็เรียกได้ว่า เขาเพียรสรรหาสิ่งแปลกใหม่ที่เกี่ยว ข้องกับหมามาทำ เพื่อให้ได้ชื่อว่า "คนแรก"

เขาเคลมว่าเขาเป็นคนแรกที่คิดเรื่องนวดไทยให้หมา วิทยุเพื่อหมา โทรทัศน์หมา โลงศพหมา และไพ่ยิปซีหมา หรือแม้แต่ประกวดเทพีสงกรานต์หมา และโต๊ะจีนหมา เขาก็เป็นเจ้าภาพจัดมาแล้ว

"ที่ทำทั้งหมด ผมแค่คิดว่าอะไรที่คนมีหรือทำ เราก็อยากให้หมามีหรือทำบ้าง จริงๆ คนอื่นก็พยายามทำแต่ไม่ได้ออกสื่อ แต่ผมพอทำอะไรเกี่ยวกับหมาแล้วคนสนใจ อาจเป็นเพราะผมคิดไม่เหมือนใคร พอเป็นเรื่องหมาๆ มันก็สกรีนคนแล้ว คนที่จะอยู่ตรงนี้ได้มันต้องบ้าๆ หน่อย ต้องคิดนอกกรอบ"

อนุพันธ์อาจนิยามความแปลกใหม่ที่มีอารมณ์ขันว่า "บ้า" แต่ผู้ประกอบการธุรกิจหมาหลายรายเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "ครีเอทีฟ"ทุกคนเชื่อว่าครีเอทีฟที่มี "ความฮา" เป็นกิมมิค สามารถซื้อใจและให้ความสุขกับเจ้าของหมาได้

อย่างไรก็ดี อนุพันธ์ยอมรับว่าความ "บ้า "ของเขา มีส่วนอย่างมากที่ทำให้สื่อสนใจในชื่อเขา ทำให้เขาแตกต่าง ขณะเดียวกัน เขาเองก็รู้จักวิธีเล่นกับสื่อ จนสามารถใช้สื่อสร้าง "ตัวตน" ของเขาในแวดวงธุรกิจหมามานานถึง 8 ปี

ปัจจุบันอนุพันธ์เป็นเจ้าของสถาบันสอนตัดแต่งขนและสปาสำหรับหมา ที่มีชื่อว่า "Dog2home" ยังเป็นคอลัมนิสต์เขียน "เรื่องแฉ" ของหมาที่เข้ากล้อง นอกจากนี้เขายังมีพ็อกเก็ตบุ๊กออกมาอีก 3-4 เล่ม รับจ้างดูไพ่ยิปซีให้หมาในอีเวนต์เกี่ยวกับหมาทั้งหลาย รวมทั้งตระเวนไปเป็นวิทยากรเกี่ยวกับเรื่องหมาและธุรกิจหมา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ

"จุดสูงสุดในวงการเกี่ยวกับหมา ถ้าพูดขำๆก็คือผมอยากให้คนเห็นหน้าผมเป็นหน้าหมา พอพูดถึงเรื่องหมา สังคมต้องนึกถึงผมและฟังผม เหมือนที่พอพูดถึงเรื่องชันสูตรศพทุกคนนึกถึงคุณหญิงหมอพรทิพย์ เมื่อถึงตรงนั้นถ้าผมเรียกร้องอะไรเพื่อน้องหมาก็น่าจะเป็นเสียงดัง ผมว่า ผมก็คงมีสิทธิที่จะขับเคลื่อนองคาพยพของสังคมในเรื่องนี้ได้"

แม้ว่าเขาอาจยังไม่ใช่ "Icon" ของแวดวง เกี่ยวกับหมาอย่างสมบูรณ์ในสายตาของสังคม แต่อย่างน้อยในสายตาของทีมงาน Warner's Brother และ 20th Century Fox เขาคือที่ปรึกษาชั้นดีในการทำการตลาดและโปรโมตหนังที่เกี่ยวกับหมาและสัตว์เลี้ยงที่เข้าฉายในเมืองไทย

แน่นอน!! ถ้าอนุพันธ์สามารถทำจนตัวเองเป็น Icon ได้จริง วันนั้นอีเวนต์ "Bangkok Dog Fashion Week" ที่เขาฝันอยากทำให้ทุกอย่างไม่ต่างจากงานแฟชั่นวีคของคน ก็คงเป็นจริงได้ไม่ยาก...แต่ตราบที่วันนั้นยังมาไม่ถึง เสียงสะท้อนว่าเขาบ้าก็อาจเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้!