เป็นครั้งแรกที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (บีโอไอ) ร่วมมือกับออกซ์ฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป จัดทำรายงาน The Report: Thailand 2009

ออกซ์ฟอร์ด บิสสิเนส กรุ๊ป (Oxford Business Group: OBG) บริษัททำรายงานการวิจัย จัดพิมพ์รายงานประจำปีเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่างๆ ที่เป็นข้อมูลเชิงลึกของภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออกและแอฟริกา ซึ่งออกซ์ฟอร์ดมีประสบการณ์จัดทำรายงานให้กับ 33 ประเทศทั่วโลก

ออกซ์ฟอร์ดติดต่อบีไอไอ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อจัดทำรายงานประเทศไทยของปี 2552 ซึ่งในรายงานดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มหภาค ระบบโครงสร้าง ตลอดจนแผนงานทางการเมืองและธุรกิจต่างๆ ภายในประเทศไทย

รายงานฉบับนี้จะนำเสนอข้อมูลอีกหลายภาคส่วนโดยเน้นธุรกิจที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมพลังงาน เทเลคอมไอที ธนาคาร ประกันภัย การท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงตลาดหลักทรัพย์

บีโอไอคาดหวังว่ารายงานนี้จะกลายเป็นคู่มือเพื่อแนะนำนักลงทุนและนักธุรกิจทั่วโลกให้ได้รับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจและโอกาสการลงทุนในประเทศไทย

ซึ่งสอดคล้องกับประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 13 จากรายงาน Doing business 2009 ของธนาคารโลก นับเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจของไทยในฐานะประเทศที่เป็นเป้าหมายในการลงทุนเพราะไทยเป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ (emerging market) ที่อยู่ในช่วงการเจริญเติบโต

บีไอไอร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงการให้ความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับออกซ์ฟอร์ดไปเมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้มีการจัดทำ The Report: Thailand 2009

ออกซ์ฟอร์ดและบีโอไอจะทำงานร่วมกันโดยมีระยะเวลาทำงาน 6 เดือน คาดว่ารายงานจะแล้วเสร็จในต้นปี 2552

ส่วนวิธีการทำงานออกซ์ฟอร์ดจะเตรียมสัมภาษณ์องค์กร 200 แห่งที่อยู่ในภาคเศรษฐกิจและการเมือง โดยมีบีโอไอให้ความช่วยเหลือด้านของข้อมูลและการเข้าถึงบุคคลที่จะสัมภาษณ์

สำหรับการจัดรายงานครั้งนี้บีโอไอไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งออกซ์ฟอร์ดจะเป็นออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมดพร้อมกับจัดส่งรายงานให้กับบีโอไอบางส่วนเพื่อใช้ในการเผยแพร่ข้อมูล

ส่วนผลประโยชน์ที่ออกซ์ฟอร์ดได้จากการทำรายงานในครั้งนี้ ข้อมูลจะนำไปเสนอขายให้กับสมาชิก ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วโลก 60,000 ราย

ด้านบีโอไอหลังจากที่เซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับออกซ์ฟอร์ด ก็คาดหวังว่าทีมงานที่ร่วมทำงานในครั้งนี้จะมีประสบการณ์ในการเรียนรู้และนำข้อมูลมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรต่อไป