อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยเนื้อหอมสุดๆ ผู้ผลิตชิ้นส่วน ผู้ประกอบการ และนักลงทุนต่างชาติ
สนใจหาพันธมิตรในไทยคับคั่ง ขณะที่ผู้จัดงาน AA2003 เผยพร้อมแล้วที่จะเป็นเวทีกลางตกลงเจรจาร่วมทุน
และสั่งซื้อชิ้นส่วนจากไทย คาดเงินหมุนเวียนในงานไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ยังไม่รวมมูลค่าธุรกิจ
ต่อเนื่องที่จะตามมาอีก เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอนาคตสดใส เฉพาะมูลค่าตลาดชิ้นส่วนปีนี้
คาดโตถึง 1.8 แสนล้านบาท ส่งผลไทยกลายเป็นศูนย์กลาง อุตสาหกรรมยานยนต์ภูมิภาคนี้
นายไมเคิล ลิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮนโนเวอร์ แฟร์ เอเชีย พีทีอี จำกัด
ผู้จัดงาน "มหกรรมแสดงชิ้นส่วนยานยนต์และเทคโนโลยีการซ่อมบำรุง" (AA2003)
ซึ่งจะจัดระหว่าง 29 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี
ร่วมกับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2003 เปิดเผยว่าปีนี้ เป็นปีที่ 5 ที่บริษัทฯ เปิดตลาดงานแสดงด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยาน
ยนต์ในไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราขยายตัวสูงมาก อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมูลค่าประมาณ
400,000 ล้านบาทต่อปี เป็นตลาดชิ้นส่วน 1.6 แสนล้านบาท 35% เป็นผู้ประกอบการในประเทศ
อีก 65% เป็นต่างชาติที่เข้ามาลงทุนทั้งหมด และร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการไทย
คาดปีนี้ชิ้นส่วนรถฟันยอดขาย 1.8 แสนล้าน
ปีนี้คาดว่าตลาดชิ้นส่วนยานยนต์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 13% เป็นประมาณ 1.8
แสนล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทย ในฐานะที่มีความหลากหลายของแหล่งผลิตสินค้า
รวมถึงการย้ายฐานของผู้ประกอบการรถยนต์รายใหญ่จากทั่วโลก จึงเป็นโอกาสของไทย ที่จะพัฒนากลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศได้
ภายในระยะเวลาอันใกล้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างไต้หวัน
งาน AA 2003 ปีนี้ คาดว่าจะมีผู้ชมงานกว่า 10,000 คน เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท
จากปีที่ผ่านมา ผู้ชมงานกว่า 7,000 คน และเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากปรับทิศทางของงานให้ยิ่งใหญ่
และครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยขยายฐานลูกค้าไปกลุ่มโรงงานผลิตรถยนต์ โรงงานชิ้นส่วน
รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
ทางด้านนายภูษิต ศศิธรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์โปลิงค์ โกลบอล เน็ทเวอร์ค
จำกัด ผู้จัดงาน AA2003 ในไทย เปิดเผยว่าศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย ที่แนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำให้เป็นที่สนใจของผู้ผลิตชิ้นส่วนจากทั่วโลก งาน AA2003 จึงเป็นตัวกลางให้นักลงทุน
และบริษัทชิ้นส่วนต่างชาติ หาพันธมิตรในไทย ทั้งเพื่อร่วมลงทุน และ สั่งซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยไปจำหน่าย
ความสำเร็จการจัดงานแสดงชิ้นส่วนฯ ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ นักลงทุนจากจีนสามารถตกลงร่วมลงทุนกับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยได้แล้ว
ผู้ผลิตจากเยอรมนีก็ได้ตกลงซื้อขายชิ้นส่วนกับผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยหลายรายการ
ตัวอย่างเหล่านี้ แสดงให้เห็นคุณภาพผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย และศักยภาพตลาดรถยนต์ไทย
ว่าเป็นที่สนใจของผู้ผลิตชิ้นส่วนและนักลงทุนจากต่างชาติอย่างมาก เห็นได้จากมีผู้ผลิตชิ้นส่วนรายเดิมกว่า
70% ที่เคยร่วมงานฯ ต่างกลับมาร่วมงานจัดแสดงฯ ปีนี้อีกครั้ง นายภูษิตกล่าว
ส่วนงานแสดงชิ้นส่วนยานยนต์ฯ ที่ปีนี้จัดงานใหญ่ถึง 2 งาน เวลาไล่เลี่ยกันมีผู้ผลิตชิ้นส่วน
จากต่างชาติร่วมงานกันคับคั่งทั้ง 2 งาน แสดงให้เห็นศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยแนวโน้มดี
ขนาดตลาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับคุณภาพผลิตชิ้นส่วนไทย ก็มีมาตรฐานสากล แม้จะจัดงานพร้อมๆ
กัน ก็ยังได้รับความสนใจจากต่าง ชาติอยู่
สำหรับการเตรียมความพร้อมจัดงาน AA2003 ขณะนี้ ยอดจองแล้วประมาณ 80% คาดว่าทั้งงาน
จะมีผู้ร่วมแสดงสินค้ากว่า 200 บริษัท จาก 20 ประเทศทั่วโลก อาทิ กลุ่มสหภาพยุโรป
เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน สหรัฐอเมริกา อิตาลี ออสเตรเลีย มาเลเซีย จีน อินเดีย ไต้หวัน
สิงคโปร์ และไทย
พื้นที่ของงานจะแบ่งเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนแสดงอุปกรณ์และชิ้นส่วนยานยนต์
ทั้งอะไหล่รถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนตัวถัง ส่วนเทคโนโลยีซ่อมบำรุง
รวบรวมอุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัยสำหรับอู่ซ่อม
ส่วน Logistics & Warehouse แสดงระบบขนส่งลำเลียง บรรจุภัณฑ์ ระบบการจัดการ
Supply Chain ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ประกอบด้วยอุปกรณ์ขนส่ง เช่น หัวรถลาก
รถบรรทุก รถโดยสารขนาดใหญ่ และรถเครนต่างๆ รวมถึงส่วนแสดงเครื่องมือต่างๆ เครื่องจักรสำหรับโรงงาน
ซึ่งเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบ การที่กำลังมีแผนการลงทุนหรือขยายสายการผลิต
ยังจัดเตรียมพื้นที่พิเศษ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย รวมทั้งจัดเตรียม
BOI Procurement Pavilion เพื่อให้บริการด้านการ จัดซื้อจัดหาอะไหล่จากโรงงานประกอบรถยนต์
10 บริษัท กับผู้ผลิตชิ้นส่วนของไทยระดับต้นน้ำ พร้อมงานสัมมนาให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยว
ข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนโดยตรง