ซันโย ทุ่มงบ 30 ล้านบาท รุกตลาดกล้องถ่ายรูป เจาะเซกเมนต์ใหม่ กล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง พร้อมอัดแคมเปญ Xacti Party Days 2008 กระตุ้นกำลังซื้อ ดัมป์ราคา 10% พร้อมโปรโมชั่นเงินผ่อน หวังปั้นยอดขาย 240 ล้านบาท
สงครามตลาดกล้องดิจิตอลในปีที่ผ่านมามีปริมาณความต้องการอยู่ที่ 950,000 เครื่อง เติบโต 13% ขณะที่มูลค่าตลาดอยู่ที่ 9,000 กว่าล้านบาท เติบโตลดลง 4% ส่วนในปีนี้คาดว่าปริมาณความต้องการในตลาดจะอยู่ที่ 1,000,000 เครื่อง ขณะที่มูลค่าตลาดยังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือ 9,000 กว่าล้านบาท โดยมีโซนี่เป็นผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลโดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 23% ตามด้วย แคนนอน 18% ฟูจิ 12% ซัมซุง 11% นิคอน 8% โกดัก 8% โอลิมปัส 7% พานาโซนิค 5% คาซิโอ 3% ที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นๆ 5%
ตลาดกล้องดิจิตอลถือเป็นตลาดที่มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามามากซึ่งส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพด้วยความละเอียดที่สูงถึง 5 ล้านพิกเซล และยังมีลูกเล่นอีกมากมาย จึงทำให้ตลาดกล้องถ่ายรูปมีการแข่งขันที่รุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้ที่ผ่านมาหลายๆค่ายพยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อฉีกหนีคู่แข่ง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดกล้องดิจิตอลถูกแบ่งออกเป็น 2 เซกเมนต์ โดยตลาดหลักที่มีสัดส่วนกว่า 95% เป็นกล้องคอมแพก ที่เหลือ 5% เป็นกล้อง DSLR ทว่าสัดส่วนตลาดกล้อง DSLR คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10% ขณะที่ตลาดกล้องคอมแพกจะลดลงเหลือ 90% โดยในเซกเมนต์ของกล้อง DSLR มีแคนนอนเป็นผู้นำตลาด ในขณะที่โซนี่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าวมากขึ้นด้วยการส่งซับแบรนด์ตัวใหม่ภายใต้ชื่อ อัลฟ่า เข้ามาทำตลาดเพื่อรักษามูลค่า ชดเชยตลาดกล้องคอมแพกที่มีแนวโน้มของราคาตกต่ำมากถึงปีละ 10-20%
ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดกล้องดิจิตอลมีราคาตกต่ำส่วนหนึ่งเกิดจากการแข่งขันด้านเทคโนโลยีและดีไซน์ที่มากขึ้น ทำให้ไลฟ์ไซเคิลของกล้องสั้นลง ส่งผลให้สินค้าเกิดการตกรุ่นไวขึ้น ทำให้ต้องระบายสต็อกเก่าด้วยการลดราคา อีกทั้งยังมีการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งใช้สงครามราคาเป็นตัวนำตลาด ยิ่งผลักดันให้การเติบโตในเชิงมูลค่าตกต่ำลงไปอีก ดังนั้นหลายๆค่ายจึงพยายามแสวงหาตลาดที่มีมูลค่า
สำหรับ ซันโย แม้ว่าจะมีการทำตลาดกล้องดิจิตอลมาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการทำการตลาดอย่างจริงจัง ทว่าในปีนี้บริษัทได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งมาพร้อมกับไลน์อัปสินค้าใหม่มากมาย จึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ซันโยจะรุกตลาดกล้องดิจิตอลอย่างจริงจัง ทว่าด้วยสภาพการแข่งขันที่รุนแรงส่งผลให้ซันโยพยายามครีเอตเซกเมนต์ใหม่ๆในการทำตลาดด้วยการรุกตลาด Digital Moving Camera ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 6 โมเดล และจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่อีก 3 โมเดล โดยมีราคาตั้งแต่ 9,990-39,990 บาท ขณะที่กล้องดิจิตอลธรรมดาปัจจุบันมี 6 โมเดล และจะมีรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 2 โมเดล โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 2,990-6,990 บาท
“สินค้าที่บริษัทจะใช้เป็นหัวหอกในการทำตลาดของกล้องดิจิตอล คือ กล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมรา ซึ่งเป็นกล้องที่มีฟังก์ชั่นการทำงานในโหมดวิดีโอ พร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพนิ่งที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีดีไซน์กะทัดรัด พกพาสะดวก ซึ่งถือเป็นสินค้ากลุ่มนิชมาร์เก็ตที่อยู่ระหว่างกล้องวิดิโอดิจิตอล และกล้องดิจิตอล โดยในตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นจริงจัง ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ซันโยหันมาทำตลาดกล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมร่า เนื่องจากซันโยเข้ามาตลาดกล้องทีหลัง ขณะที่เจ้าตลาดและแบรนด์อื่นๆ ค่อนข้างแข็งแกร่ง ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแบรนด์ค่อนข้างสูง บวกกับการแข่งในกลุ่มกล้องดิจิตอลภาพนิ่งค่อนข้างรุนแรง แต่ละปีภาพรวมกล้องดิจจิตอลมีราคาลดลง 10-20% ด้วยแล้ว จึงมองว่า การจับตลาดนิชมาร์เก็ต น่าจะเป็นสิ่งที่จะทำได้ง่ายกว่า” พศณัฐ ทองเจือ ผู้จัดการอาวุโส แผนกขายโมเดิร์นเทรด แผนกขายกล้องดิจิตอล ซันโย (ไทยแลนด์) กล่าว
นอกจากนี้ซันโยยังใช้กลยุทธ์ คัลเลอร์ ฟูล ในการดีไซน์สินค้าให้มีสีสันที่หลากหลายตรงกับความชอบของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ และ ผู้หญิง ที่ไม่ถนัดกับเรื่องเทคโนโลยีมากนัก จึงใช้เรื่องดีไซน์เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกซื้อ
ซันโย ใช้งบการตลาดในการรุกตลาดกล้องดิจิตอลในปีนี้ 30 ล้านบาท โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถปิดยอดขายกล้องดิจิตอลได้ 240 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 2 เท่า โดยแบ่งเป็นกล้องดิจิตอล มูฟวิ่ง คาเมรา 70% คิดเป็นยอดขาย 13,000 เครื่อง เติบโตขึ้น 3 เท่า ส่วนอีก 30% เป็นกล้องดิจิตอลธรรมดา ที่คาดว่าจะจำหน่ายได้ 20,000 เครื่องในปีนี้ เติบโตจากเดิมเป็นเท่าตัว
สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายบริษัทมีการทำแคมเปญ Xacti Party Days 2008 โดยมีการทำโปรโมชั่นลดราคา 10% พร้อมด้วยของแถมพรีเมียม และแคมเปญเงินผ่อน 0% นาน 6-10 เดือน
ในขณะที่ผู้นำตลาดอย่างโซนี่ก็มีการลอนช์กล้องดิจิตอลไซเบอร์ช็อตรุ่นใหม่ ตระกูล T จำนวน 13 รุ่น โดยรุ่นที่เป็นไฮไลต์ ได้แก่ รุ่น DSC-T77, DSC-T700 และ DSC-T500 ซึ่งมีราคา 11,990 บาท 13,990 บาท และ 16,990 บาท ตามลำดับ โดยจะให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มที่พิจารณาจากคุณภาพของสินค้ามากกว่าคำนึงเรื่องราคา
“ปัจจุบันผู้บริโภคไทยให้ความสนใจกล้องดิจิตอลที่มีระดับราคาต่ำกว่า 3,000 บาท เพราะนอกจากจะมีราคาถูกแล้วยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเพียงพอ ในขณะที่กล้องดิจิตอลของโซนี่มีระดับราคาเริ่มต้นที่ 4,900 บาท ทว่าบริษัทก็มิได้ให้ความสำคัญกับตลาดดังกล่าวมากนัก โดยเราจะเน้นไปที่คุณภาพของสินค้ามากกว่าเรื่องของราคา โดยจะให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ทันสมัย มีสีสัน รูปลักษณ์บาง จึงจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เป็นผู้หญิงและวัยรุ่น” โยจิ ฮิกาชิดะ กรรมการอาวุโส กลุ่มการตลาดคอนซูเมอร์ โซนี่ไทย กล่าว
|