|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
CPF เล็งลงทุนสร้างโรงผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วในโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์เพิ่มอีก 2 แห่งที่โคราชและมีนบุรี ขนาดกำลังการผลิตโรงละ 1แสนลิตร/เดือน หลังโครงการนำร่องที่สระบุรีประสบความสำเร็จ ลดต้นทุนการผลิตสูง
นายนพดล ศิริจงดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อไก่ (สระบุรี-โคราช) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (CPF ) เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนจะขยายการลงทุนสร้างโรงผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันพืชใช้แล้วในโรงงานแปรรูปอาหารเพิ่มเติมที่จังหวัดนครราชสีมา และมีนบุรี คาดว่าจะผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้แห่งละ 1 แสนลิตรต่อเดือน หลังจากโครงการนำร่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลของบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน)ที่สระบุรี ประสบความสำเร็จ โดยทดลองนำน้ำมันไบโอดีเซลที่ผลิตได้มาใช้กับรถเครื่องยนต์ดีเซลของโรงงานในเครือฯ พบว่ามีอัตราการสิ้นเปลืองเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลทั่วไป 3% แต่ราคาต่ำกว่าดีเซลถึงลิตรละ 4 บาท ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสึกหรอของเครื่องยนต์
ทั้งนี้ การลงทุนสร้างโรงผลิตน้ำมันไบโอดีเซลอีก 2 แห่ง จะใช้เงินลงทุนไม่สูงมากเพียงแห่งละ 1ล้านกว่าบาท คาดดำเนินการได้ปีหน้า เพราะต้องขอใบอนุญาตจากกรมธุรกิจพลังงานด้วย ซึ่งโครงการนำร่องผลิตน้ำมันไบโอดีเซลที่สระบุรีนี้ ได้รับการรับรองมาตรฐานไบโอดีเซลชุมชน และอยู่ระหว่างการยื่นเพิ่มการตรวจสอบบางรายการเพิ่มอีก 2-3 รายการ ซึ่งจะทำให้น้ำมันไบโอดีเซลที่บริษัทฯผลิตได้สามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้
แม้ว่าจะได้รับการรับรองว่าน้ำมันไบโอดีเซลผ่านมาตรฐานจนสามารถจำหน่ายเชิงพาณิชย์ได้ แต่ไม่มีแผนที่จะจำหน่ายภายนอก เพราะจะนำมาใช้ภายในเครือซีพี เพื่อลดต้นทุนการใช้น้ำมันดีเซลแทน ซึ่งปัจจุบันโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซลที่กรุงเทพโปรดิ๊วสนั้น สามารถผลิตได้ 1 แสนลิตรต่อเดือน แต่ผลิตจริงเพียง 3.5-5 หมื่นลิตรต่อเดือน เพราะต้องการทดสอบคุณภาพน้ำมัน ส่วนน้ำมันพืชที่ใช้แล้วครึ่งหนึ่งประมูลขายให้บุคคลภายนอกนำไปใช้ผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลต่อไป
นายนพดล กล่าวว่า จากราคาน้ำมันดีเซลที่อ่อนตัวลงในช่วงนี้เหลือเพียง 63 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่เชื่อว่าราคาดีเซลน่าจะปรับตัวสูงขึ้นไป หลังจากโอเปคปรับลดกำลังการผลิตลง ซึ่งจะทำให้โครงการดังกล่าวยังคุ้มการลงทุนเพราะต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 4 บาท ทำให้บริษัทประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันดีเซลได้ปีละ 80-90 ล้านบาท และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึงปีละ 7,500 ตัน โดยโรงงานผลิตไบโอดีเซลใหม่นี้จะมีการยื่นขอคาร์บอนเครดิตด้วย เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยลงอันเนื่องจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯลามไปทั่วโลกนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่การที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจด้านอาหาร ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก เพราะเป็นสินค้าจำเป็นและต้นทุนการผลิตก็ต่ำลงทั้งต้นทุนอาหารสัตว์และราคาเชื้อเพลิง ซึ่งโรงงานแปรรูปอาหารของกรุงเทพโปรดิ๊วสในเครือซีพีเอฟนั้นจะส่งออกไปยังอังกฤษไม่มีปัญหา แม้ยอดสั่งซื้อจากอียูช่วงนี้ชะลอตัว เพราะลูกค้าต่อรองขอปรับลดราคาสินค้า เนื่องจากต้นทุนน้ำมันลดลงและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งขณะนี้ออร์เดอร์ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ เเซเว่น-อีเลฟเว่นจากญี่ปุ่นเสนอให้บริษัทฯนำสินค้าอาหารภายใต้แบรนด์ซีพีหรือซีพีเอฟไปจำหน่ายได้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเองทั้งในและต่างประเทศจากเดิม 5-6% เพิ่มเป็น 20-25%ในปี 52
|
|
|
|
|