Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 ตุลาคม 2551
ธอส.หวั่นNLPพุ่งเข้มปล่อยกู้จัดสรรโอดรีเซลใหม่ใช้เวลาขายนาน2เท่า             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ขรรค์ ประจวบเหมาะ
Real Estate
Loan




แนวโน้มแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อบ้านพุ่งเพิ่ม "พฤกษา"เผยสูงถึง 30% โอดลูกค้ากู้ไม่ผ่านเพิ่มเวลาขายบ้านนานเป็น 2 เท่า วอนธอส.เป็นแกนนำปล่อยกู้ ด้านบิ๊กธอส. เสียงอ่อยไม่กล้าแถมต้องเข้มงวดปล่อยกู้ เหตุหวั่นเอ็นพีแอล.เหมือนวิกฤตปี 40 ส่งผลยอดปล่อยสินเชื่อ 9 เดือนลดฮวบ 20% พร้อมยอมรับยอดเอ็นพีแอลลูกค้าบ้านเอื้ออาทรแนวโน้มเพิ่มขึ้น "ธีระชน" หนักใจปี 52 แบงก์เข้มงวดยิ่งกว่านี้ ระบุการบริหารกระแสเงินสดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยหนุนการพัฒนาโครงการ คาดคอนโดฯแนวสูงเสี่ยงกระทบหนัก เผยแบงก์ต่างชาติไม่มีนโยบายปล่อยกู้ล่วงหน้า

สืบเนื่องมาจากผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยระดับกลางและล่าง นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ออกมาแสดงความกังวลกรณีลูกค้าของบริษัทพฤกษาฯมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 30% จากเดิมเพียง 20-25% และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากภาวะวิกฤตการเงินโลกทำให้ธนาคารพาณิชย์ของไทยมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น

ปัญหาการขอสินเชื่อไม่ผ่าน ทำให้ต้องนำบ้านกลับมาขายใหม่หรือรีเซล มีผลต้องใช้เวลาในการขายนานขึ้นเป็น 2 เท่าหรือประมาณ 6 เดือน จากเดิมหากนับจากลงมือก่อสร้างจนกระทั้งขายและโอนใช้เวลาเพียง 110 วัน ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดเฉพาะกับบริษัทพฤกษาฯ เจ้าตลาดทาวน์เฮาส์เท่านั้น แต่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็ประสบปัญหาดังกล่าวด้วยเช่นกัน และนายทองมายังได้ฝากความหวังไว้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นแกนนำในการปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยรายย่อย เพื่อให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เหมือนช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

ด้านนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า กรณีที่มีผู้ประกอบการต้องการให้ธอส. เป็นผู้นำในการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านเหมือน ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 เพื่อให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้มากขึ้นในภาวะที่ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อบ้านนั้น ทางธนาคารจะปล่อยสินเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาคุณสมบัติผู้กู้เหมือนปี 2540 ไม่ได้ เนื่องจากประสบการณ์จากการปล่อยกู้ในครั้งนั้นทำห้ธอส. ต้องแบกหนี้เสียจนถึงทุกวันนี้

“ธอส. เป็นแบงก์ที่มีหน้าที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ให้แก่ลูกค้ารายย่อย จึงหยุดปล่อยสินเชื่อไม่ได้ ในภาวะที่แบงก์พาณิชย์แห่งอื่นเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อแต่จะทำแบบปี 2540 ไม่ได้ เวลานี้ต้องดูเรื่องที่มารายได้ ดูว่าผู้กู้มีงานทำมั่นคงหรือไม่ อีกทั้งเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเอ็นพีแอลในภายหลัง ”

ทั้งนี้ การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว รวมถึงตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ มีการแข่งขันกันทางด้านโปรโมชันสูง ในรูปแบบการเสนอโปรโมชันปลอดดอกเบี้ย และปล่อยลอยตัวในปีถัดไป พร้อมกับเสนอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการพร้อมกับปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าซื้อบ้านในโครงการดังกล่าวดัวย แต่ธอส.ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อแก่โครงการได้ ทำให้สูญเสียตลาดส่วนนี้ให้แก่ธนาคารพาณิชย์ เป็นผลให้ยอดสินเชื่อบ้านในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ดังนั้น ทั้งปีประเมินว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ 80,000 ล้านบาท ลดลง 15,000 ล้านบาทจากเป้าหมายเดิมตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อรวม 95,000 ล้านบาท

ผวาหนี้โครงการบ้านเอื้อฯพุ่งกระฉูด

นายขรรค์ กล่าวว่า ในส่วนของการปล่อยสินเชื่อในโครงการบ้านเอื้ออาทร ปัจจุบันอัตราการปฏิเสธสินเชื่อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ และคุณสมบัติของผู้กู้เอง อย่างไรก็ตามในส่วนยอดหนี้เอ็นพีแอล ณ สิ้นเดือนกันยายน มีทั้งสิ้น 11.3 % ของสินเชื่อรวม ลดลง ประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังจากให้ความสำคัญกับการติดตามหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มมากขึ้น ส่วนสาเหตุที่หนี้เสียของธนาคารเพิ่มขึ้นมาในระดับดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรฐานการสำรองตามมาตรฐานบัญชีใหม่ ไอเอเอส 39

จากตัวเลขสถิติการปล่อยสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ รวบรวมโดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พบว่า ในไตรมาส 1/2551 สินเชื่อที่อยู่อาศัยบุคคลทั่วไปปล่อยใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 49,905 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2551 เพิ่มสูงถึง 79,447 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อของผู้ประการ ไตรมาส 1/2551 จำนวน 9,283 ล้านบาท ไตรมาส 2 จำนวน 24,210 ล้านบาท สาเหตุการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2 มาจากเริ่มต้นของมาตรการด้านภาษีอสังหาฯ ที่มีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาส 2 พอดี ส่วนตัวเลขในไตรมาส 3 คาดว่าจะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเริ่มมีการชุมนมประท้วงรวมไปถึงผลกระทบจากปัญหาซัปไพรม์ลุกลามกลายเป็นวิกฤตทางการเงินของอเมริกาและของโลกในที่สุด

อสังหาฯตั้งการ์ดรับแบงก์เข้มปล่อยกู้

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์สภาพเงินตรึงตัวในตลาดโลก จะยิ่งกดดันให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อโครงการในปี 2552มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดใน 2 ส่วนแรกคือ การพัฒนาโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์จะกระทบอย่างหนัก โครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมแนวสูง(ไฮไรส์)ที่พึ่งพาแหล่งเงินทุนในการลงทุนพัฒนาโครงการจำนวนมากจะมีความเสี่ยงสูงกว่าการพัฒนาโครงการโลว์ไรส์

ขณะที่ผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดหุ้น อาจจะมีผลกระทบลดลง เนื่องจากสามารถบริหารการเงินผ่านเครื่องมือทางการเงิน เช่น การออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนมาใช้พัฒนาโครงการใหม่ได้ แต่หากในปีหน้า สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อมากกว่าปีนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเตรียมจัดสรรกระแสเงินสดจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาพัฒนาโครงการ แต่หากโครงการมีขนาดใหญ่ๆมากด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีผลกระทบต่อการบริหารกระแสเงินสดในการนำมาใช้พัฒนาโครงการ

“ แนวทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการจะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว คือ การพัฒนาโครงการก่อนแล้วจึงขอเงินกู้จากสถาบันการเงิน แต่การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว และจะต้องสามารถเร่งการขายให้จบได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหากใช้ระยะเวลานานก็จะยิ่งทำให้ผู้พัฒนาลำบากมากขึ้น”

แบงก์ต่างชาติระวังปล่อยกู้ล่วงหน้า

สำหรับส่วนผลกระทบที่2 คือ กลุ่มลูกค้ารายย่อยซึ่งจะทำให้กำลังซื้อหายไปค่อนข้างมาก จากเดิมที่ปัจจุบันปริมาณการถูกปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยเพิ่มจำนวนขึ้นมาก จากเดิมมีอยู่20% เพิ่มขึ้นเป็น 30%กว่าในขณะนี้ แนวทางที่ผู้ประกอบการทุกรายทำขณะนึ้คือ การให้ลูกค้าขอสินเชื่อกับธนาคารเดียวกันที่ปล่อยสินเชื่อโครงการให้แก่บริษัทของตนเอง ซึ่งแต่ละบริษัทต้องช่วยลูกค้าในการขอสินเชื่อด้วย เช่น การตรวจสอบเครดิตก่อนกู้ การเพิ่มเงื่อนไขพิเศษเพื่อช่วยลูกค้า จัดบริการหาผู้กู้ร่วมเพื่อเพิ่มวงเงินในการกู้

ในส่วนของPF ปรับแผนโดยการเพิ่มวงเงินดาวน์ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าซื้อบ้านสั่งสร้าง ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับขึ้นเงินดาวน์ในส่วนของคอนโดฯ จากเดิม10% เป็น 15% ในปัจจุบัน ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายมีการขอเปิดวงเงินกู้ล่วงหน้ากับสถาบันการเงินเพื่อป้องการการเข้มงวดการปล่อยกู้ในปีหน้านั้น เชื่อว่าสถาบันการเงินที่มีต่างชาติถือหุ้นอยู่จะไม่มีการปล่อยสินเชื่อในรูปแบบดังกล่าวจะมีก็แต่สถาบันการเงินที่คนไทยถือหุ้นอยู่100%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us