|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้ก้าวเข้าสู่เวทีของการแข่งขันที่รุนแรง เพราะทุกประเทศต่างมุ่งหวังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในรายได้หลักเข้าประเทศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยให้เกิดการจ้างงานลงสู่รากหญ้า ได้เป็นอย่างดี
ท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการ ดังนั้น นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงมอบนโยบายว่า นอกจากเรื่องการบริการที่ดีเลิศ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว อีก 3 ประเด็นที่สำคัญ คือ สะอาด สะดวก ปลอดภัย ยังเป็นจุดขายที่สำคัญของการแข่งขัน
เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก การอำนวยความสะดวก ในเรื่องของมาตรการด้านความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน การเตรียมความพร้อมรับมือในเรื่องของอุบัติภัยในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องมีไว้ในระดับมาตรฐานสากล
ชูศักยภาพช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวกว่า 80% เป็นกลุ่มที่โดยสารมากับสายการบิน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สนามบิน จึงเป็นด่านแรกในการสร้างความอุ่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นของทุกปี การจราจรทางอากาศจะยิ่งหนาแน่น ไปพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันมาอย่างคึกคัก
ล่าสุด โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้รับเลือกจาก การท่าอากาศยานไทย ให้เป็นโรงพยาบาลที่จะให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยว ในยามเจ็บป่วย และเกิดอุบัติเหตุ ด้วยโลเกชั่นที่ใกล้สนามบิน เพียง 10 นาที ของการเดินทาง การบริการตามมาตรฐานอเมริกา ห้องฉุกเฉินขนาดใหญ่ และทีมแพทย์เฉพาะทาง ทั้งหมด คือความพร้อมที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทุกเวลา
อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของประเทศไทย ในการช่วยเหลือผู้โดยสารของสายการบิน ไชน่าแอร์ไลน์ ที่ตกหลุมอากาศ ต้องร่อนลงฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ก็สามารถ รองรับบาดเจ็บได้ทั้งหมด ทุกคนได้รับการรักษาและปฐมพยาบาลทันที่ภายใน 1 ชั่วโมง ตรงนี้ ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในด้านความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ ในการรองรับอุบัติภัยที่เกิดขึ้น ตอกย้ำความเป็นสนามบินมาตรฐานสูงระดับสากล
หรือแม้กระทั่ง อุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่พลิกคว่ำ ที่ ทางพิเศษมอเตอร์เวย์ ระหว่างการเดินทางจากพัทยา เข้ามาเที่ยวชมวัดพระแก้วในกรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บและเสียชีวิต ในครั้งนั้น โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ก็ ได้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันท่วงที
บริการของโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ยังครอบคลุมไปถึง ความเจ็บป่วย จากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ป่วยด้านจิตเวช ผู้ป่วยนรีเวช อายุรกรรม และ ศัลยกรรม ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งที่สนามบิน สุวรรณภูมิ โดยพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายเพื่อส่งต่อมายัง โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้ภายใน 10 นาที โดยมีการซ้อมรับมืออุบัติภัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ภัยทางอากาศ หรือภัยภาคพื้นดิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ และประเทศไทย ในเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม น.พ.ดุลย์ ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ โรงพยาบาลฯ ไม่ได้มุ่งแต่ลูกค้าชาวต่างชาติ แต่ยังครอบคลุมถึงลูกค้าคนไทย ด้วยโลเกชั่นย่านศรีนคริทร์ ที่เป็นอีกหนึ่งชุมชนใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น โรงพยาบาลฯจึงมีแผนที่จะเป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลฯ ชูจุดขายเป็นโรงพยาบาลเด็ก ล่าสุด ขยายบริการในเรื่องของเป็นศูนย์กายภาพบำบัด ศูนย์ผู้ป่วยสูงอายุ และ เนิร์สซิ่ง เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยได้ทุกช่วงวัยของครอบครัว ด้วยค่าบริการที่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนในเมืองที่เป็นคู่แข่งขันถึง 20% ปัจจุบันลูกค้ากว่า 92% ก็ยังเป็นกลุ่มคนไทย
|
|
|
|
|