Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 ตุลาคม 2551
ไทยพร้อมรับนักเที่ยวไฮซีซั่นหมดห่วงเรื่องความปลอดภัย             
 


   
search resources

Tourism




ไม่มีใครกล้าปฎิเสธว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้ก้าวเข้าสู่เวทีของการแข่งขันที่รุนแรง เพราะทุกประเทศต่างมุ่งหวังสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในรายได้หลักเข้าประเทศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยให้เกิดการจ้างงานลงสู่รากหญ้า ได้เป็นอย่างดี

ท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในธุรกิจบริการ ดังนั้น นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงมอบนโยบายว่า นอกจากเรื่องการบริการที่ดีเลิศ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว อีก 3 ประเด็นที่สำคัญ คือ สะอาด สะดวก ปลอดภัย ยังเป็นจุดขายที่สำคัญของการแข่งขัน

เมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมาก การอำนวยความสะดวก ในเรื่องของมาตรการด้านความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน การเตรียมความพร้อมรับมือในเรื่องของอุบัติภัยในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องมีไว้ในระดับมาตรฐานสากล

ชูศักยภาพช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวกว่า 80% เป็นกลุ่มที่โดยสารมากับสายการบิน ดังนั้นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่สนามบิน จึงเป็นด่านแรกในการสร้างความอุ่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นของทุกปี การจราจรทางอากาศจะยิ่งหนาแน่น ไปพร้อมกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางกันมาอย่างคึกคัก

ล่าสุด โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้รับเลือกจาก การท่าอากาศยานไทย ให้เป็นโรงพยาบาลที่จะให้ความช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยว ในยามเจ็บป่วย และเกิดอุบัติเหตุ ด้วยโลเกชั่นที่ใกล้สนามบิน เพียง 10 นาที ของการเดินทาง การบริการตามมาตรฐานอเมริกา ห้องฉุกเฉินขนาดใหญ่ และทีมแพทย์เฉพาะทาง ทั้งหมด คือความพร้อมที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม ความพร้อมของประเทศไทย ในการช่วยเหลือผู้โดยสารของสายการบิน ไชน่าแอร์ไลน์ ที่ตกหลุมอากาศ ต้องร่อนลงฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ก็สามารถ รองรับบาดเจ็บได้ทั้งหมด ทุกคนได้รับการรักษาและปฐมพยาบาลทันที่ภายใน 1 ชั่วโมง ตรงนี้ ได้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในด้านความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ ในการรองรับอุบัติภัยที่เกิดขึ้น ตอกย้ำความเป็นสนามบินมาตรฐานสูงระดับสากล

หรือแม้กระทั่ง อุบัติเหตุรถบัสนักท่องเที่ยวรัสเซีย ที่พลิกคว่ำ ที่ ทางพิเศษมอเตอร์เวย์ ระหว่างการเดินทางจากพัทยา เข้ามาเที่ยวชมวัดพระแก้วในกรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บและเสียชีวิต ในครั้งนั้น โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ก็ ได้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้ทันท่วงที

บริการของโรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ยังครอบคลุมไปถึง ความเจ็บป่วย จากโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ป่วยด้านจิตเวช ผู้ป่วยนรีเวช อายุรกรรม และ ศัลยกรรม ที่พร้อมให้บริการช่วยเหลือแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งที่สนามบิน สุวรรณภูมิ โดยพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายเพื่อส่งต่อมายัง โรงพยาบาล สมิติเวช ศรีนครินทร์ ได้ภายใน 10 นาที โดยมีการซ้อมรับมืออุบัติภัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ภัยทางอากาศ หรือภัยภาคพื้นดิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ถึงความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ และประเทศไทย ในเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในอีกรูปแบบหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม น.พ.ดุลย์ ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ โรงพยาบาลฯ ไม่ได้มุ่งแต่ลูกค้าชาวต่างชาติ แต่ยังครอบคลุมถึงลูกค้าคนไทย ด้วยโลเกชั่นย่านศรีนคริทร์ ที่เป็นอีกหนึ่งชุมชนใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น โรงพยาบาลฯจึงมีแผนที่จะเป็นสถานพยาบาลเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลฯ ชูจุดขายเป็นโรงพยาบาลเด็ก ล่าสุด ขยายบริการในเรื่องของเป็นศูนย์กายภาพบำบัด ศูนย์ผู้ป่วยสูงอายุ และ เนิร์สซิ่ง เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยได้ทุกช่วงวัยของครอบครัว ด้วยค่าบริการที่ถูกกว่าโรงพยาบาลเอกชนในเมืองที่เป็นคู่แข่งขันถึง 20% ปัจจุบันลูกค้ากว่า 92% ก็ยังเป็นกลุ่มคนไทย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us