Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 ตุลาคม 2551
"ไทยเบฟ"เดินหน้าเข้าตลาดหุ้น ประเดิมเทรดดูอัลฯควบสิงคโปร์             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.
Alcohol




"ไทยเบฟเวอเรจ"ยื่นขออนุมัติตลาดหลักทรัพย์ฯ ซื้อขายหุ้นในกระดานไทยควบสิงคโปร์ หวังเปิดจองไอพีโอ 80 ล้านหุ้นให้นักลงทุนไทยเข้าช้อน คาดอีก 1 เดือนรู้ผล มั่นใจตอบคำถามสังคมได้ทุกข้อ

นายอวยชัย ตันทโอภาส กรรมการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ยื่นเรื่องขอจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เนื่องจากมีความเหมาะสมด้วยหลายปัจจัย เช่น การผ่านร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งทำให้ระเบียบข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของไทยเบฟมีความชัดเจนมากขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่สิงคโปร์แต่อย่างใด เพราะบริษัทฯได้ศึกษาเรื่องดังกล่าวมานานซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ลงตัวในช่วงนี้

ส่วนกรณีที่จะมีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านการเข้าตลาดหุ้นของไทยเบฟเหมือนในอดีต เนื่องจากเป็นธุรกิจน้ำเมานั้น นายอวยชัยกล่าวว่า ทกุอย่างขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ วันนี้เป็นแบบนี้ พรุ่งนี้เป็นอย่างไรอีก 2 เดือนเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ การเข้าตลาดหุ้นและการต่อต้านเป็นคนละเรื่องกัน เราไม่รู้ว่าจะมีใครมาต่อต้านอีก แต่ว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ได้ อย่างไรก็ตามคราวนี้เรามีคำตอบชัดเจน เพราะว่าพรบ.แอลกอฮอล์ก็ออกมาแล้ว ข้อสงสัยทุกประการบริษัทสามารถให้คำตอบได้ อีกทั้งปัจุบัน บริษัทได้อยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ดังนั้นข้อมูลการดำเนินงานทุกอย่างจึงโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จะนำหุ้นของบริษัท สิริวนา จำกัด จำนวน 0.3% ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี จากจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ในไทยเบฟ 8.75% หรือคิดเป็นประมาณ 80 ล้านหุ้น มาดำเนินการเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยในประเทศไทย

ขณะที่ทุนจดทะเบียนของบริษัทไทยเบฟฯ มี 25,111 ล้านหุ้น ราคา พาร์ 1 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ภัทรจำกัด (มหาชน) และบล.ไทยพาณิชย์ จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน แต่ยังไม่มีการกำหนดราคาไอพีโอ ซึ่งขั้นตอนการพิจารณาเอกสารของทางตลท.จะใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือน และหากได้รับการอนุมัติจะทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงติดอันดับหนึ่งในสิบของตลาดทุนไทยและเป็นบริษัทไทยรายที่สองที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สองแห่ง คือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX-ST)

สำหรับผลประกอบการของบมจ.ไทยเบฟในปี 2550 มีรายได้จากการขาย 100,541 ล้านบาท กำไรสุทธิ 10,383 ล้านบาท และมีเงินปันผล 7,282 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรก 2551 มีรายได้ 51,000 ล้านบาท เติบโต 4% โดยมีกำไรสุทธิ 5,000 ล้านบาท ลดลง 4.6% และเป็นบริษัทฯที่จ่ายภาษีนิติบุคคลและภาษีสรรพสามิตให้กับรัฐบาลไทยมากกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี หรือประมาณ 4% ของยอดเก็บภาษีรวมทั้งปีของรัฐบาล

โดยการเข้าจดทะเบียนดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯมีหุ้นหมุนเวียนอยู่กับนักลงทุนรายย่อยที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์เหลือ 19.43% จากปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20% ขณะที่มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหรือมาร์เก็ตแคปของบริษัทฯ อยู่ที่ 130,000 ล้านบาท ส่วนราคาหุ้นของบริษัทฯที่ตลาดสิงคโปร์ ปิดตลาดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ราคา 0.225 ดอลล่าร์ต่อหุ้น

สำหรับกรณีบมจ.โออิชิ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนั้น ทางบมจ.ไทยเบฟฯยืนยันว่า จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยยังคงจดทะเบียนอยู่ในตลท.เหมือนเดิม และบริษัทฯจะไม่มีการปรับโครงสร้างบริหารของไทยเบฟด้วย เพราะปรับมาก่อนหน้านี้แล้ว

"เป้าหมายของไทยเบฟต้องการเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเครื่องดื่มครบวงจรทั้งแอลกอฮอล์และนอนแอลกอฮอล์ และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเมื่อต้นปีได้ซื้อกิจการเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ และเร็วๆนี้ก็ซื้อหุ้นในโออิชิเพิ่มขึ้นเป็น 43% ปัจจุบันสินค้าที่ทำตลาดในต่างประเทศมี 2 แบรนด์หลักของไทยคือ ช้างและแม่โขง กับแบรนด์ที่เป็นบริษัทในต่างประเทศที่เทคโอเวอร์มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว"นายอวยชัย กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us