Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 สิงหาคม 2546
สำรวจหุ้น "ปูนใหญ่-ปูนกลาง" หลากอารมณ์กับผลประกอบการชี้ "อนาคตยังแข็งแกร่ง"             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
โฮมเพจ เครือซิเมนต์ไทย

   
search resources

ปูนซีเมนต์นครหลวง, บมจ.
เครือซิเมนต์ไทย
ทรีนิตี้, บล.
เมอร์ริลลินช์ภัทร
พัฒนสิน, บล
ยูโอบี เคย์เฮียน,บมจ.
ชุมพล ณ ลำเลียง
จุฑามาศ รุจิวัตร




หากมองเข้าไปในกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หุ้นที่สร้างความมั่นใจให้กับตลาดอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าสถานการณ์ตลาดจะเป็นอย่างไร หนีไม่พ้น SCC ขวัญใจนักลงทุน เช่นเดียวกับ SCCC เมื่อดูตัวเลขผลประกอบการในปัจจุบันและความมั่นใจในอนาคตพบว่าประสิทธิภาพไม่ต่างไปจากกันมากนัก นักวิเคราะห์ต่างเทใจให้ซื้อลงทุนระยะยาว

หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ของ "ปูนใหญ่" บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) และ "ปูนกลาง" บมจ.ปูนซิเมนต์นครหลวง (SCCC) อารมณ์ของนักลงทุนในห้องค้าหลักทรัพย์แตกต่างกันออกไปทั้งผิดหวัง และสมหวัง

ผลประกอบการน่าผิดหวัง

แทบไม่น่าเชื่อว่า ความรู้สึกแรกมาจากตัวเลขกำไรจากการดำเนินงาน "ไม่ค่อยประทับใจมากนัก" คำกล่าวสั้นๆ ของสุรชัย ประมวลเจริญ-กิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เมื่อมองถึงผลประกอบการของ SCC

ในไตรมาส 2 ปี 2546 กลุ่มปูนใหญ่มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษ 3,510 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 3,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% ขณะที่ยอดขายสุทธิอยู่ที่ระดับ 36,044 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 13% เป็น 10,105 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ กำไรจากการดำเนินงานก่อนรายการพิเศษลดลง 32% และกำไร สุทธิลดลง 35% เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคา ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีจากภาวะสงครามอิรักสิ้นสุดลง รวมถึงผลกระทบจากโรคซาร์ส แต่บริษัทมี EBITDA เพิ่มขึ้น 14% จากเงินปันผลจากบริษัทร่วม

"กำไรจากการดำเนินงานที่ออกมาเป็นผลมาจากโรคซาร์ส รวมไปถึงความผันผวนของมาร์จิ้น และรายได้ลดลงของธุรกิจปิโตรเคมี" นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCC อธิบาย

ดังนั้น กล่าวได้ว่าประเด็นสำคัญสร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนอยู่ที่ส่วนได้เสียในกำไรของบริษัทร่วม (Equity from Subsidiary) โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวลดลงมากถึง 53% จากไตรมาสแรก และลดลง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เหลือเพียง 678 ล้านบาท

"ราคาปิโตรเคมีในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว มาจากสงครามตะวันออกสิ้นสุดอย่างกะทันหัน และโรคซาร์สระบาดในจีน ทำให้ส่วนต่างราคาเม็ดพลาสติกแนฟทาและ HDPE ปรับลดลงมาอยู่ระดับ 331 เหรียญสหรัฐต่อตัน จาก 340 เหรียญสหรัฐต่อตันในไตรมาสแรกของปี" จุฑามาศ รุจิวัตร ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายชุมพลคาดว่าไตรมาส 2 จะเป็นจุดต่ำสุดของธุรกิจปิโตรเคมีและพร้อมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความเด่นชัดในไตรมาส 3 โดยเฉพาะราคาผลิตภัณฑ์รวมถึงความต้องการจากประเทศจีนกลับมาสดใสอีกครั้ง

สำหรับธุรกิจซีเมนต์ ซึ่งถือว่าเป็นพระเอกของ SCC ตลอดกาล ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่ง 43% และมีส่วนสำคัญช่วยให้ผลการดำเนินงานไม่ตกต่ำไปมากกว่านี้ จากความต้องการภายในประเทศเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงแม้จะลดลง 5% ในไตรมาสแรกปีนี้ซึ่งเป็นผลของฤดูกาล

"ราคาขายปูนซีเมนต์ทรงตัวที่ระดับ 1,700-1,750 บาทต่อตัน การส่งออกเพิ่มจากไตรมาสแรก 21% โดยเฉพาะขายให้กับเวียดนามและอเมริกา ทำให้รายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 13%" นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนาสิน กล่าว

สำหรับแนวโน้ม แม้ว่าช่วงนี้เป็นฤดูฝนแต่ตลาดปูนซีเมนต์ยังคงได้แรงกระตุ้นจากความต้อง การที่อยู่อาศัยซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการก่อสร้างโครงการพื้นฐานต่างๆ ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวของ SCC อยู่ในทิศทางที่ดีต่อไป

ด้านธุรกิจกระดาษ ราคาและมาร์จิ้นใกล้เคียงกับไตรมาสแรก แต่มีรายได้จากการขายในประเทศลดลง 11% กระนั้นก็ตามไตรมาส 3 บริษัทประเมินว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากการฟื้นตัวของความต้องการในเอเชีย และเป็นช่วงปกติของฤดูขาย (Peak Season)

ด้านการประมาณการผลประกอบการปีนี้ จุฑามาศเชื่อว่ายอดขายจะอยู่ที่ระดับ 137,780 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14,911 ล้านบาท "ปัจจัยอยู่ที่ธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัว ธุรกิจกระดาษเติบโตจากการเข้าถือหุ้นของไทยเคนเปเปอร์ และผลประกอบการปูนซีเมนต์แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"

ประทับใจในปูนกลาง

หากมองความเคลื่อนไหวของ SCCC นักลงทุนอาจจะรอคอยความชัดเจนต่อการซื้อกิจการ บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่ด้วยผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ออกมาสามารถชดเชยบรรยากาศขมุกขมัวได้

"ตัวเลขที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดีและน่าประทับใจแม้จะไม่ใช่ฤดูขาย เพราะศักยภาพการบริหารงานที่ดี" สุรชัย บอก

ในไตรมาส 2 SCCC มีกำไรสุทธิ 954 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 749 ล้านบาท แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี แม้ว่ายอดขายจะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม EBITDA กลับเพิ่มมาอยู่ที่ 37.6% เนื่องเพราะความสามารถในการลดต้นทุนดอกเบี้ยได้ถึง 86% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่ผ่านมา และ 11% จากไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากบริษัทจ่ายคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดมูลค่า 5,000 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

"บริษัทแทบไม่มีหนี้เหลืออยู่ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยต่ำ และมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ" นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เล่า

ด้านราคาขายเฉลี่ยปูนซีเมนต์ไตรมาส 2 ของ SCCC อยู่ที่ระดับ 1,700-1,750 บาทต่อตัน ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก ซึ่งโดยปกติในไตรมาส 2 เป็นช่วงนอกฤดูขายเพราะเริ่มเข้าสู่หน้าฝน และมีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ราคาขายปรับลดลง แต่ปีนี้ราคากลับปรับตัวสูงขึ้น

แม้ว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของ SCCC จะเป็นรอง SCC แต่ด้วยความพยายามสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ ประกอบกับการพัฒนาที่ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง นับตั้งแต่การเปิดตัวเว็บเซลล์หรือการสั่งซื้อปูนซีเมนต์ด้วยระบบออนไลน์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จนถึงการออกปูนอินทรีทอง นวัตกรรมใหม่แห่งวงการปูนฉาบของเมืองไทยที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

"ปูนกลางวางกลยุทธ์ทางการตลาดโดยเน้นเรื่องราคาซึ่งสามารถทำกำไรให้ได้มากขึ้น จึงมองกลยุทธ์นี้ในเชิงบวก เนื่องจากเป็นสัญญาณบอกว่าบริษัทกำลังพยายามรักษาราคาไว้ในระดับนี้ โดยราคาปูนซีเมนต์ดังกล่าวเป็นราคาสำหรับปูนซีเมนต์ระดับพรีเมียมในประเทศไทย" นักวิเคราะห์ บล.เมอร์ริล ลินช์ ภัทร กล่าว

สำหรับการประเมินผลประกอบการปีนี้ สุรชัย คาดว่ายอดขายจะยังเติบโตในเกณฑ์ดีเท่ากับ 9% ประมาณ 18,409 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 3,505 ล้านบาท "ส่วนแนวโน้มระยะยาวยังขยายตัวต่อเนื่อง จากภาครัฐมีการเร่งใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us