เปิดยุทธศาสตร์ แผนบันได 3 ขั้นแฮปปี้ดีแทคแค่เดือนครึ่งโกยยอดกว่า 1 ล้านราย
และเป้าหมาย 2 ล้านรายสิ้นเดือน ก.ย. พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรด้านช่องทางจำหน่ายเพิ่มความแข็ง
แกร่ง ย้ำวันนี้ผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดพรีเพดเหลือแค่วัน-ทู-คอล กับแฮปปี้ดีแทค ส่วนออเร้นจ์โคม่า
หนักลูกค้าหนีซบแฮปปี้
นายธนา เธียรอัจฉริยะ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจพรีเพด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส
คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทคกล่าวผลการทำตลาดแฮปปี้ดีพร้อมท์ว่าหลังรีลอนซ์ แพกเกจแฮปปี้
โดยแบ่งเป็น 4 ช่วงเวลาให้ลูกค้าในระบบพรีเพดเลือกใช้บริการในอัตรา 50% ตั้งแต่
22 พ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผ่านไป เพียง 1 เดือนครึ่ง มียอดผู้ใช้แฮปปี้ มากกว่า
1 ล้านราย แบ่งเป็น ลูกค้าดีพรอมท์เก่าที่เปลี่ยนมาเลือกแพกเกจแฮปปี้ประมาณ 55%
ที่เหลือเป็นลูกค้าใหม่อีก 45%
"ลูกค้าดีพร้อมท์ที่ยังไม่เปลี่ยนมาใช้แฮปปี้อีกประมาณ 3 ล้านราย ซึ่งเรายังไม่ได้ทำแคมเปญ
อย่างจริงจัง ส่วนลูกค้าใหม่ส่วนมากมาจากรายที่ 3 หรือทีเอออเร้นจ์ เป็นหลัก ซึ่งแพกเกจแฮปปี้ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงวัน-ทู-คอล
มากนัก เช่นเดียวกับโปรโมชันของทีเอ ออเร้นจ์ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับแฮปปี้"
ในเชิงการตลาด ดีแทคทำแผนที่เรียกว่าบันได 3 ขั้นไปสู่ยอด ลูกค้าพรีเพด 2 ล้านราย
โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือการรีลอนซ์หรือแนะนำให้ลูกค้ารู้จักแฮปปี้แพกเกจ
(Brand Introduction) สื่อสารผ่านไอคอนรูปยิ้ม เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำแฮปปี้ในรูปลักษณ์ใหม่ที่สดใส
ซึ่งเป้าหมายของดีแทค ต้องการให้ไอคอนยิ้มเหมือนสัญลักษณ์ไนกี้ ที่คนเห็นก็จดจำได้ทันที
ขั้นที่ 2 คือ การพูดถึงจุดแข็งของแฮปปี้ (Core Selling Point) โดยเฉพาะประเด็นการมีทางเลือก
4 ช่วงเวลาของแต่ละวันให้ลูกค้าระบบพรีเพดสามารถเลือกช่วงเวลา ที่ใช้งานมากที่สุด
เพื่อรับค่าโทร. เพียง 50% และขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดีแทคกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการช่วงนี้คือการ
ตอกย้ำบริการที่มากกว่าระบบพรีเพดทั่วๆไป (More Than Normal Prepaid) เช่น การส่ง
MMS ทั่วประเทศ ,การส่ง SMS ในราคา 3 บาททั่วโลก บริการเสริมต่างๆ,การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่างแกรมมี่
ที่ช่วยเจาะกลุ่มลุกค้าด้านเอ็นเตอร์เทน และช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีประกอบกัน
พร้อมทั้งเพิ่มจุดแข็งในเรื่องการเติมเงินได้เพียง 50 บาทสามารถ ใช้ได้ 5 วัน
ที่ร้านดีแทค ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเห็นว่าแรงและตรงใจลูกค้ามากที่สุด ตามพฤติกรรมการใช้งาน
ลูกค้าพรีเพด
"ทั้ง 3 ขั้นตอนจะแล้วเสร็จใน เดือนก.ย.หมายถึงเราน่าจะมีลูกค้าแฮปปี้ถึง 2
ล้านคน"
เขากล่าวว่าสิ่งที่แฮปปี้จะทำต่อไปคือการหาพันธมิตรรายใหญ่ในเรื่อง Distribution
Channel ที่ไม่ใช่ช่องทางด้านโทรคมนาคม ใน เดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้จะทำในเรื่อง
แฮปปี้กำลัง 3 ซึ่งประกอบด้วย 1. ชุดโฟนคิต 2.สตาร์เตอร์คิตและ 3.รีฟิล ซึ่งทั้ง
3 ส่วนจะมีการออกแบบใหม่ ดีไซน์แปลกตากระตุ้นให้เกิดการใช้งานเติมเงินมากขึ้น
"เราพบว่าลูกค้าที่เปลี่ยนมาใช้แฮปปี้ มีรายได้ต่อเลขหมายเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเมื่อค่าบริการถูกลงมีการใช้งานมากขึ้น
ลูกค้าเห็นถึงความคุ้มค่า"
สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือโดยรวมตอนนี้อยู่ในภาวะที่หดตัวลง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขัน
เขาเห็นว่าผู้ให้บริการทุกรายถูกบีบบังคับด้วยเหตุผลในเรื่องการเงินมากกว่าการตลาด
ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ต่างโกยส่วนแบ่งตลาดกัน จะมีผู้เล่นในตลาดเท่าเดิม แต่คนที่มีบทบาทในตลดาพรีเพดจะเหลือ
เพียงวัน-ทู-คอลกับแฮปปี้ ที่รวมกันแล้วมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 90% โดยดีแทคมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ
30-40% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นภายหลังลอนซ์ แพกเกจแฮปปี้
"ถ้าสงครามราคาไม่เกิด รายที่ 3 กับที่ 4 จะลำบาก ตลาดเริ่มหดตัวจะเหลือแต่เพียงวัน-ทู-คอลกับแฮปปี้ในตลาดที่มีบทบาทสำคัญ"
สำหรับลูกค้ากว่า 1 ล้านรายของแฮปปี้ แยกเป็นเลือกใช้ช่วง Good Day (09.00-15.00น.)
40% Good Evening (15.00-19.00น.) 26% Good Time(21.00-24.00 น.) 23% และ Good
Night (24.00-09.00 น.) 11%