|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เดอะ มอลล์กรุ๊ป ปรับแผนกสินค้าเสื้อผ้าเด็ก ชูกลยุทธ์จัดสินค้าตามหมวดหมู่ แบ่งเป็น 3 กลุ่มเป้าหมายใหญ่ จากเดิมมีเพียง 2 กลุ่มใหญ่เท่านั้นเอง ทยอยปรับแล้วเริ่มที่บางแคเสร็จเรียบร้อย
นายสมเกียรติ โชคประจักษ์ชัด ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด แผนกสินค้าเสื้อผ้าเด็ก เดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า เดอะมอลล์กรุ๊ปได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดกลุ่มสินค้าเสื้อผ้าเด็กและของใช้สำหรับเด็กใหม่ ด้วยการจัดกลุ่มสินค้าและกลุ่มเป้าหมายใหม่ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างความแตกต่างในการทำตลาด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เริ่มใช้กับกลุ่มสินค้านี้ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนตั้งแต่เปิดบริการแล้วและประสบความสำเร็จอย่างดี มียอดขายสูงขึ้นพอสมควร และทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกหาซื้อสินค้าได้ง่าย ส่วนในกลุ่มของศูนย์การค้าเดอะมอลล์นั้นยังไม่ได้เริ่มใช้กลยุทธ์นี้เต็มที่นัก ซึ่งขณะนี้จะเริ่มทยอยปรับกลยุทธ์
ดังกล่าวกับแผนกสินค้าเสื้อผ้าเด็กในศูนย์การค้าเดอะมอล์ ทั้งหมด
ทั้งนี้การปรับดังกล่าวจะมีทั้งการปรับพื้นที่และการจัดวางสินค้ากลุ่มเด็กใหม่ที่เดอะมอลล์แต่ละสาขาโดยกลยุทธ์ใหม่นี้จะแบ่งสินค้าออกเป็นเซกชั่นดังนี้ 1.กลุ่มเบบี้และอุปกรณ์เสริม 2.กลุ่มสินค้าเด็ก และ 3.กลุ่ม พรีทีน+ทวีน(อายุ 10-15 ปี) อีกทั้งไม่ได้แบ่งสินค้าตามแบรนด์แต่อย่างใด แต่แบ่งเป็นประเภทสินค้า เพื่อให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทฯใช้วิธีแบ่งกลุ่มเพียงแค่ 2 ระดับอายุเท่านั้นคือ กลุ่มเบบี้ และ กลุ่มเด็ก
สำหรับการปรับพื้นที่นั้น บริษัทฯได้เริ่มปรับที่เดอะมอลล์สาขาบางแคเป็นสาขาแรกและเสร็จเปิดบริการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง และจะเริ่มทยอยปรับสาขาอื่นต่อไป เช่น ท่าพระ งามวงศ์วาน เป็นต้น คาดว่าภายในปีหน้าจะสามารถทยอยปรับพื้นที่แผนกสินค้าเสื้อผ้าเด็กทุกสาขาได้แล้วเสร็จ
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า หลังจากที่มีการปรับการจัดวางกลุ่มสินค้าใหม่นั้นไปแล้ว ยังช่วยส่งผลดีอีกทางหนึ่งต่อการเพิ่มจำนวนซับพลายเออร์อีกด้วย อันเป็นผลมาจากการใช้พื้นที่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% และมีซับพลายเออร์รวมแล้วมากกว่า 200 ราย ในทุกสินค้ารวมกัน ทั้งโลคอลแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์
ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในแผนกนี้จะมีทั้งสิ้น 3 รูปแบบ คือ เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ คือ สินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่เดอมอลล์แห่งเดียว ขณะนี้มีประมาณ 20 กว่าแบรนด์หลังจากเริ่มมาประมาณปีเศษ และคาดว่าจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ 2.โลคอลแบรนด์ สินค้าของคนไทยที่ได้รับการยอมรับ และ 3. อินเตอร์แบรนด์
นอกจากการได้ซับพลายเออร์เพิ่มขึ้นแล้ว บริษัทฯยังได้ร่วมมือกับทางซับพลายเออร์เพื่อทำการตลาดโปรโมชันสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย ซึ่งพฤติกรรมการซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมายตอนนี้จะเลือกซื้อสินค้าที่มีความชัดเจนมากขึ้น มีความรู้เรื่องสินค้ามากขึ้น ปริมาณการซื้อต่อบิลก็สูงขึ้นด้วยหลังจากที่เราปรับ เพราะลูกค้าหาซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นและราคาก็ไม่แพงเกินไป บวกกับเราทำโปรโมชั่นกับซับพลายเออร์ตลอดเวลา
ประกอบกับบริษัทฯยังใช้กลยุทธ์ซีเอสอาร์ด้วย เช่น การเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เช่น มีห้องเปลี่ยนผ้าอ้อมสำหรับเด็กทารก มีห้องสำหรับให้นมลูกที่ยังเล็กอยู่ เพื่อการเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นการสร้างความผูกพันให้กับลูกค้า
นายสมเกียรติกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯตั้งเป้าหมายของยอดขายของแผนกนี้ในภาพรวมของสาขาบางแคว่าจะเติบโต 15-20 % ต่อเดือน ส่วนภาพรวมของแผนกนี้ทุกสาขารวมกันยอดขายน่าจะเติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เช่นกัน
|
|
|
|
|