Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน20 ตุลาคม 2551
กลต.ลั่นไม่เลื่อนเปิดเสรีค่าคอมฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

   
search resources

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
Funds




สำนักงานก.ล.ต. ยืนยันภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังแกร่ง หลังหารือร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึงผลกระทบจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามทั่วโลก พร้อมกำชับให้โบรกเกอร์ดูแลทรัพย์สินลูกค้าให้รัดกุม หลังพบการทุจริตบ่อยครั้ง “ธีระชัย” เผยยังไม่เลื่อนกำหนดเปิดเสรีค่าคอมมิชชัน-ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตในปัจจุบัน เหตุโบรกเกอร์ยังมีเวลาปรับตัว

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต. กับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ประจำไตรมาส 3 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความสามารถของระบบควบคุมการซื้อขายหลักทรัพย์และฐานะของบริษัทหลักทรัพย์ที่จะรองรับความผันผวนของตลาดทุนอันเป็นผลจากภาวะวิกฤตการเงินทั่วโลก รวมทั้งการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการคุ้มครองทรัพย์สินของลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์

ทั้งนี้ ในที่ประชุมสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้รายงานว่า ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งมีฐานะที่แข็งแกร่ง มีเงินกองทุนที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมาก รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้น) มีสัดส่วนน้อยมากและมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

พร้อมกันนี้ บริษัทหลักทรัพย์ยังให้ความสำคัญกับความเสี่ยง รวมทั้งดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อลูกค้า ต่อบริษัทหลักทรัพย์ และต่อระบบการซื้อขายโดยรวม ทำให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถดำเนินธุรกิจด้วยความมั่นใจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ สำนักงานก.ล.ต.เองได้ติดตามสถานการณ์และภาวะตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อนำมาประมวลภาพรวมกับข้อมูลที่ได้จากการติดตามฐานะและสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ของทั้งบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ซึ่งยังไม่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด

“ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน โบรกเกอร์จะต้องให้ข้อมูลข่าวสารแก่ลูกค้าเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ รวมทั้งให้คำแนะนำในการซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้าด้วยความระมัดระวังเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม”

นอกจากนี้ สมาคมได้แจ้งว่าสมาคมได้จัดทำข้อความเตือนเรื่องหลักทรัพย์ที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูง (Turnover list) โดยในคำเตือนดังกล่าวจะระบุถึงรายชื่อและลักษณะของหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดให้เป็นหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และได้ซักซ้อมให้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งนำไปเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนตามช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้

สำหรับเรื่องการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้านั้น สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า บริษัทหลักทรัพย์ควรจะกำหนดมาตรการดูแลทรัพย์สินของลูกค้าที่ไม่มีความเคลื่อนไหวให้รัดกุมยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมามีผู้หาประโยชน์โดยการทุจริตทรัพย์สินของลูกค้าที่ไม่มีธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเวลานาน เช่น ปลอมแปลงลายมือชื่อลูกค้า เพื่อขอเปลี่ยนแปลงที่อยู่และข้อมูลลูกค้า ก่อนที่จะขายหรือโอนหลักทรัพย์ของลูกค้าไปยังบัญชีของบุคคลอื่น ซึ่งทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย

ส่วนเรื่องการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชัน) และการเปิดเสรีใบอนุญาตหลักทรัพย์ ที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เสนอให้พิจารณาเลื่อนออกไปก่อน นั้น นายธีระชัย กล่าวว่า สถานการณ์ในอนาคตน่าจะดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีแผนที่จะเลื่อนระยะเวลาประกาศใช้ออกไป แต่ช่วงนี้ควรเร่งหารือถึงแนวทางในการเตรียมความพร้อมของบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งในเรื่องของการลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ การพัฒนาสินค้าใหม่ ช่องทางการหารายได้รวมทั้งกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการเตรียมความพร้อม ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมที่จะรับฟังและแก้ไขกฎเกณฑ์ในทุกเรื่อง

“ที่ผ่านมาโบรกเกอร์เริ่มปรับตัวกันแล้วหลายราย โดยบางรายขายธุรกิจประเภทที่ไม่ชำนาญออกไปเพื่อเน้นธุรกิจด้านที่ตนเองชำนาญ หรือบางรายได้ควบรวมกิจการเพื่อให้เกิดความมั่นคงในการทำธุรกิจและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก.ล.ต. ยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ เช่น TCR, Gold Futures, Stock Futures และ Derivative Warrants ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์”

นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะนี้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการตรวจสอบระบบการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และการก่อหนี้ของลูกค้าอย่างเข้มงวด และได้มีการประสานงานให้ข้อมูลแก่สำนักงาน ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประมวลภาพรวมของทั้งระบบได้อย่างถูกต้อง

ขณะเดียวกันสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะระดมความคิดเห็นของสมาชิกเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคในการเตรียมตัวสำหรับการเปิดเสรีใบอนุญาต รวมทั้งหาแนวทางที่จะลดต้นทุนในการทำธุรกิจเพื่อให้สามารถขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้นและต้นทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง ซึ่งจะทำให้การลงทุนและการระดมทุนในตลาดทุนน่าสนใจยิ่งขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us