|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สำนักงานก.ล.ต. ยืนยันภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังแกร่ง หลังหารือร่วมกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึงผลกระทบจากวิกฤตการเงินที่ลุกลามทั่วโลก พร้อมกำชับให้โบรกเกอร์ดูแลทรัพย์สินลูกค้าให้รัดกุม หลังพบการทุจริตบ่อยครั้ง “ธีระชัย” เผยยังไม่เลื่อนกำหนดเปิดเสรีค่าคอมมิชชัน-ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตในปัจจุบัน เหตุโบรกเกอร์ยังมีเวลาปรับตัว
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยถึง ผลการประชุมระหว่างสำนักงาน ก.ล.ต. กับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ประจำไตรมาส 3 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงความสามารถของระบบควบคุมการซื้อขายหลักทรัพย์และฐานะของบริษัทหลักทรัพย์ที่จะรองรับความผันผวนของตลาดทุนอันเป็นผลจากภาวะวิกฤตการเงินทั่วโลก รวมทั้งการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการคุ้มครองทรัพย์สินของลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ในที่ประชุมสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้รายงานว่า ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งมีฐานะที่แข็งแกร่ง มีเงินกองทุนที่เพียงพอในการดำเนินธุรกิจ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำมาก รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้น) มีสัดส่วนน้อยมากและมีการควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนี้ บริษัทหลักทรัพย์ยังให้ความสำคัญกับความเสี่ยง รวมทั้งดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อลูกค้า ต่อบริษัทหลักทรัพย์ และต่อระบบการซื้อขายโดยรวม ทำให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถดำเนินธุรกิจด้วยความมั่นใจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ สำนักงานก.ล.ต.เองได้ติดตามสถานการณ์และภาวะตลาดทั้งในและต่างประเทศเพื่อนำมาประมวลภาพรวมกับข้อมูลที่ได้จากการติดตามฐานะและสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ของทั้งบริษัทหลักทรัพย์และบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ซึ่งยังไม่มีประเด็นที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
“ก.ล.ต. และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน โบรกเกอร์จะต้องให้ข้อมูลข่าวสารแก่ลูกค้าเพื่อให้เข้าใจถึงสถานการณ์ รวมทั้งให้คำแนะนำในการซื้อขายหลักทรัพย์แก่ลูกค้าด้วยความระมัดระวังเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม”
นอกจากนี้ สมาคมได้แจ้งว่าสมาคมได้จัดทำข้อความเตือนเรื่องหลักทรัพย์ที่มีอัตราการซื้อขายหมุนเวียนสูง (Turnover list) โดยในคำเตือนดังกล่าวจะระบุถึงรายชื่อและลักษณะของหลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนดให้เป็นหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และได้ซักซ้อมให้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งนำไปเผยแพร่แก่ผู้ลงทุนตามช่องทางต่างๆ เพื่อให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้
สำหรับเรื่องการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้านั้น สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่า บริษัทหลักทรัพย์ควรจะกำหนดมาตรการดูแลทรัพย์สินของลูกค้าที่ไม่มีความเคลื่อนไหวให้รัดกุมยิ่งขึ้น หลังจากที่ผ่านมามีผู้หาประโยชน์โดยการทุจริตทรัพย์สินของลูกค้าที่ไม่มีธุรกรรมซื้อขายหลักทรัพย์เป็นเวลานาน เช่น ปลอมแปลงลายมือชื่อลูกค้า เพื่อขอเปลี่ยนแปลงที่อยู่และข้อมูลลูกค้า ก่อนที่จะขายหรือโอนหลักทรัพย์ของลูกค้าไปยังบัญชีของบุคคลอื่น ซึ่งทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย
ส่วนเรื่องการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (คอมมิชชัน) และการเปิดเสรีใบอนุญาตหลักทรัพย์ ที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์เสนอให้พิจารณาเลื่อนออกไปก่อน นั้น นายธีระชัย กล่าวว่า สถานการณ์ในอนาคตน่าจะดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีแผนที่จะเลื่อนระยะเวลาประกาศใช้ออกไป แต่ช่วงนี้ควรเร่งหารือถึงแนวทางในการเตรียมความพร้อมของบริษัทหลักทรัพย์ ทั้งในเรื่องของการลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ การพัฒนาสินค้าใหม่ ช่องทางการหารายได้รวมทั้งกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการเตรียมความพร้อม ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมที่จะรับฟังและแก้ไขกฎเกณฑ์ในทุกเรื่อง
“ที่ผ่านมาโบรกเกอร์เริ่มปรับตัวกันแล้วหลายราย โดยบางรายขายธุรกิจประเภทที่ไม่ชำนาญออกไปเพื่อเน้นธุรกิจด้านที่ตนเองชำนาญ หรือบางรายได้ควบรวมกิจการเพื่อให้เกิดความมั่นคงในการทำธุรกิจและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก.ล.ต. ยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ เช่น TCR, Gold Futures, Stock Futures และ Derivative Warrants ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มรายได้ให้แก่บริษัทหลักทรัพย์”
นายกัมปนาท โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระยะนี้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งได้ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการตรวจสอบระบบการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และการก่อหนี้ของลูกค้าอย่างเข้มงวด และได้มีการประสานงานให้ข้อมูลแก่สำนักงาน ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประมวลภาพรวมของทั้งระบบได้อย่างถูกต้อง
ขณะเดียวกันสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะระดมความคิดเห็นของสมาชิกเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคในการเตรียมตัวสำหรับการเปิดเสรีใบอนุญาต รวมทั้งหาแนวทางที่จะลดต้นทุนในการทำธุรกิจเพื่อให้สามารถขยายธุรกิจได้ง่ายขึ้นและต้นทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง ซึ่งจะทำให้การลงทุนและการระดมทุนในตลาดทุนน่าสนใจยิ่งขึ้น
|
|
|
|
|