|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าฝากความหวังไว้ที่ตลาดอียูและอาเซียน หลังประเมินการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปีหน้าไม่ขยายตัว ผลพวงวิกฤติการเงินโลก จากปีนี้ที่คาดว่าการส่งออกขยายตัว9-10% คิดเป็นมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท
นายขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ามูลค่าการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยในปี 2552 น่าจะขยายตัวลดลงหรือใกล้เคียงปีนี้ เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกทำให้ประชาชนลดการใช้สอยในสินค้าที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งคาดว่าธันวาคมนี้จะเห็นผลคำสั่งซื้อเริ่มลดลง และเห็นชัดเจนในไตรมาสแรกปีหน้า
ทั้งนี้ไทยส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในอียูคิดเป็น 17-18%ของมูลค่าการส่งออก ซึ่งกลายเป็นตลาดใหญ่แซงหน้าตลาดสหรัฐฯที่ไม่ได้ขยายตัวมาหลายปีแล้ว โดยมองว่าตลาดอียูยังแข็งแกร่งอยู่ และความต้องการสินค้าที่หลากหลาย เน้นคุณภาพสินค้ามากกว่าราคา ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นก็หดตัวเช่นกัน ทำให้ไทยต้องหันไปพึ่งตลาดอาเซียนแทน
" สินค้าอิเล็กทรอนิสก์กว่า 90%พึ่งพาตลาดส่งออก ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไมโครเวฟ ตู้เย็นเชื่อว่าการส่งออกคงลดลง ขณะที่เครื่องปรับอากาศตลาดส่งออกในสหภาพยุโรปยังดีอยู่ เนื่องจากปัญหาโลกร้อน เชื่อว่าการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปีหน้าขยายตัวไม่ติดลบ เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต่างออกมาตรการรับมือวิกฤตการเงินโลกและกระตุ้นเศรษฐกิจ"
นายขัติยา กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เติบโตขึ้น 9-10% มูลค่าการส่งออกรวม 1.6 ล้านล้านบาท โดยการส่งออกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปีนี้ยังดีอยู่ แต่ปีหน้าสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องระมัดระวัง คือความผันผวนของค่าเงิน
ขณะเดียวกันแบงก์ชาติควรทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพื่อให้เป็นไปในทิศทางการเดียวกับต่างประเทศ โดย 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลไทยออกมานั้นก็น่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แต่ก็อยากให้รัฐบาลเจรจาสรุปมาตรการความร่วมมือรับมือวิกฤติที่เกิดขึ้นกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อให้เป็นมาตรการเดียวกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบภาคอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์จากวิกฤติการเงินสหรัฐว่า การส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คาดว่าในปี 2552 การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะมีการขยายตัวประมาณ 3-5 % ชะลอตัวลงจากที่คาดว่าจะขยายตัว 8-12 %ในปี 2551 ส่วนเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2552 อาจมีมูลค่าการส่งออกลดลงหรือขยายตัวไม่เกิน 1% ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น
|
|
|
|
|