แบงก์ชาติปรับเป้าเศรษฐกิจปีนี้โตเพิ่มอีก 1% เป็น 5.5% ขณะที่คลังก็เตรียมเปรับเพิ่ม
หลังแนวโน้มครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง-ซาร์สกระทบน้อยกว่าคาด ขณะที่ปี 47 คาดเงินฝรั่งดันเศรษฐกิจไทยฉลุย
ด้านคลังยันคืนหนี้ไอเอ็มเอฟหมดวันนี้ ปลดแอกไทยเป็นไท หลังตกเป็นทาสฝรั่งในฐานะลูกหนี้
เกือบ 10 ปี ไม่กระทบฐานะการคลัง ย้ำเงินใช้หนี้ไม่ได้มาจากเงินงบประมาณ แต่ใช้ทุนสำรอง
ธปท.เชื่อหลังจากนี้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้น ยันไทยไร้เงินฝืดแน่ ทักษิณเตรียมออกทีวีแจงประชาชนคืนนี้
หลังปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟ ขณะที่วิษณุเตรียมรณรงค์ คนไทยทั่วประเทศติดธงแสดงความเป็นไท
1 ส.ค.!
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (30 ก.ค.) ว่าวันนี้ (31 ก.ค.)
เวลา 20.30 น. จะ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพื่อชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้น
และตัวเลขสถานะการเงินการคลังประเทศหลังชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
หมด
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ อยากเสนอให้รัฐบาลมีศูนย์ให้ข้อมูลและรับเรื่องร้องทุกข์เรื่องเอกลักษณ์ของชาติ
รวมถึงให้คนไทยทำใจกว้างยอมรับเอกลักษณ์บางอย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลง
ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เคยนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อออกระเบียบให้หน่วยราชการและสถาน
ที่สำคัญติดธงชาติไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย แต่ไม่ค่อยมีส่วนราชการใดปฏิบัติตาม
จนนายกรัฐมนตรีพูดในที่ ประชุมครม.ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้และ เหตุใดจึงไม่มีหน่วยงานใดยอมปฏิบัติต่อกัน
ซึ่งได้ชี้แจงว่า เหตุที่ยังไม่มีการติดธงเพราะเตรียม ธงยังไม่เสร็จ
ติดธงทั่วประเทศ 1 ส.ค.ปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟ
แต่ 1 ส.ค.จะรณรงค์ให้ติดธงชาติไทยทั่วประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นช่วงที่เข้าสู่วันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ที่มีการติดธงเฉลิมฉลองกันอยู่แล้วแต่ความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ 1 ส.ค.เป็นวันที่ประเทศไทยปลดเปลื้องพันธนาการ
หนี้สินทุกบาททุกสตางค์จากกองทุนเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้หมดเป็นวันแรก
ถือเป็นการใช้ หนี้หมดก่อนกำหนด 2 ปี แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยว่า มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดีในสายตาประชาคมโลก
นายบัณฑิต นิจถาวร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกปีนี้ และประมาณการเศรษฐกิจทั้งปี
โดยปรับเป้าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) เพิ่มอีก 1% จากประมาณการเดิมที่ทำเม.ย.
ปรับศก.ปีนี้โตเพิ่มเป็น 5.5%
ธปท.คาดว่าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ 4.5-5.5% เพิ่มจากเดิมที่ประมาณการที่ 3.5-4.5%
ปี 2547 คาดจะขยายตัว 5-6% จากเดิมที่ประมาณ การ 4.5-6% คณะกรรมการนโยบายการเงินประเมินว่า
โอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวระดับดังกล่าวทั้งปี 2546-2547 มีโอกาสเป็นไปได้ประมาณ
87.6% และ 67.1%
ขณะที่ส่งออกปีนี้ จะขยายตัว 9-11% นำเข้าขยายตัว 9.5-11.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกิน
ดุล 6,000-7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยหลักทำให้ธปท.ปรับอัตราขยายตัวเศรษฐกิจครั้งนี้ เนื่องจากการขยายตัวเศรษฐกิจ
ไทยไตรมาส 1 สูงมากถึง 6.7% จากการขยายตัว การใช้จ่ายในประเทศเนื่องจากนโยบายดอกเบี้ย-เงินเฟ้อต่ำ
แม้การลงทุนขยายตัวลดลงก็ตาม
ซาร์สกระทบน้อยกว่าคาด-ครึ่งปีหลังขยายต่อเนื่อง
ปัจจัยอีกประการ คือผลกระทบการระบาด โรคซาร์สต่อเศรษฐกิจไทย น้อยกว่าที่ประมาณ
การเดิม กระทบเพียงการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนส่งออกที่คาดว่าจะกระทบ กลับมีผลน้อยมาก
เห็นได้จากการส่งออกของไทยช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวสูง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขยายตัวเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนการฟื้นตัวประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ
3 ประเทศ และผลกระทบโรคซาร์ส แต่เชื่อว่า การขยายตัวครึ่งปีหลังของไทยจะต่อเนื่อง
แม้ น้อยกว่าครึ่งปีแรก
แนวโน้มการขยายตัวช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ นายบัณฑิตกล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังของปี
การ ขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวเทียบครึ่งปีแรก เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงปรับตัว
รวมทั้งยังจะขึ้นกับการฟื้นตัวการค้าโลก และเศรษฐกิจประเทศภูมิภาคนี้เป็นสำคัญ
เพราะหากเศรษฐกิจ ภูมิภาคฟื้นช้า อาจมีผลให้การส่งออกของไทยลดลงครึ่งหลังของปี
มากกว่าที่ ธปท.คาดได้
ปี 47 ต่างชาติดัน ศก.ไทยฉลุย
แต่ปี 2547 คาดว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นอีก เนื่องจากการกลับมาของการลง
ทุนต่างประเทศ ธปท.ประเมินปัจจัยเสี่ยงทางลบที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ได้ตามเป้าหมาย
ประการแรกความเสี่ยงการฟื้นตัวประเทศ จี 3 คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป
ธปท. คาดว่าจะฟื้นตัวต่ำกว่าที่ประมาณการเดิม ประ การที่ 2 ราคาน้ำมันผันผวน และแนวโน้มจะสูง
ขึ้นต่อเนื่อง ประการที่ 3 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรัฐบาลยังคงล่าช้า คาดว่าทั้งปีจะเกินดุล
เงินสด ปัจจัยสุดท้าย ความมั่นใจการลงทุนของ นักลงทุนต่างประเทศยังผันผวน ถูกกระทบง่าย
ยันเงินเฟ้อไม่ติดลบ-ไทยไร้เงินฝืด
นายบัณฑิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยบวกที่จะช่วยการขยายตัวเศรษฐกิจได้ เช่น มาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า และความมั่น ใจนักลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้มีการลงทุน
และการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
การดำเนินนโยบายการเงินช่วงต่อไป ธปท. ประมาณเงินเฟ้อพื้นฐานปีนี้ 0.05% ลดลงจากประมาณการเดิมที่
0-1% แต่ยังคาดว่า การขยาย ตัวเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ 1-2%
"ผมมั่นใจ อัตราเงินเฟ้อจากนี้จะขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีติดลบ
ดังนั้นจึงเป็นไป ไม่ได้ที่ไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ส่วนอัตราดอก เบี้ยนโยบายนั้น
หากไม่มีความจำเป็นฉุกเฉิน ธปท.ตั้งเป้าว่า การยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับนี้จนถึงสิ้นปี
โดยไม่ปรับลดลงอีก ยังเพียง พอที่จะทำให้เศรษฐกิจทั้งปีของไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย"
เขากล่าว
คลังเล็งปรับเป้าจีดีพี ส.ค.
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการส่วนแบบจำลองและประมาณการเศรษฐกิจการคลัง
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ส.ค. นี้ สศค. เตรียมปรับประ มาณการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ใหม่
จะสูงกว่าประมาณการเดิม ที่คาดว่าปีนี้ จะขยายตัว 5.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(จีดีพี)
เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจการคลัง มิ.ย. เศรษฐกิจไทย มิ.ย.-ไตรมาส 2 ยังคงขยายตัวดี
จากแรงผลักดันอุปสงค์ ทั้งจากภายในและนอกประเทศ โดยสถานการณ์โรคทางเดินหายใจเฉียบ
พลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) ไม่ส่งผลกระทบไทยมากอย่างที่คาด
สศค. เดาต่ำกว่าตัวเลขจริงประจำ
"สศค.ประมาณการอัตราขยายตัวเศรษฐกิจ ไตรมาส 1 ที่ 6.3% แต่ตัวเลขจริงขยายตัว
6.7% ขณะที่ไตรมาส 2 คาด 3.5% แต่เลขจริงสูงกว่า" นายเอกนิติกล่าว
ปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟวันนี้ไม่กระทบฐานะคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. เปิดเผยกรณีธปท. จะชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
(ไอเอ็มเอฟ) ก่อนกำหนด 2 ปี หลังตกเป็นทาสฝรั่ง ในฐานะลูกหนี้เกือบ 10 ปี ประมาณ
1.6 พันล้านดอลลาร์ ภายในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า จะไม่ส่งผลกระทบฐานะการคลังประ-
เทศ
เนื่องจากเงินที่ใช้ชำระหนี้ดังกล่าว เป็นเงินจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของ
ธปท. อย่างไรก็ตาม แง่จิตวิทยาอาจกระทบบ้าง เนื่องจากไทยได้รับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ
2 ครั้ง แล้ว แต่เพิ่งมีครั้งนี้ ที่ชำระหนี้ก่อนกำหนดถึง 2 ปี "ไทยจะได้ภาพลักษณ์ดีขึ้นในสายตาต่างชาติ
สิ่งน่ายินดีและดีใจ คือไทยไม่มีหนี้สินกับไอเอ็ม เอฟอีกต่อไป
ผลกระทบทางบวกมาก ๆ คงไม่มีเพราะชำระหนี้หลังเศรษฐกิจไทยฟื้นแล้ว ยังยืนยันว่า
การชำระหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด ไม่มีผลทำให้รัฐบาลไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการ
เพราะเงิน ที่ใช้ชำระหนี้ ไม่ได้จากเงินงบประมาณแม้แต่บาท เดียว แต่เป็นเงินจาก
ธปท.ล้วนๆ"
ทุนสำรองหลังจ่ายหนี้เหลือเฟือเกือบ 4 หมื่นล้านดอลล์
นายสมชัยกล่าว หลังชำระหนี้ไอเอ็ม ไทย ยังมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศอีกประ
มาณ 3.8-3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าสินค้านำเข้า 7 เดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับไทย
สิ้น ปีนี้ คาดทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศจะเพิ่ม เป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์
"ส่วนสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จะปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยเพิ่มขึ้นหรือ
ไม่นั้น เรื่องดังกล่าวไม่อาจทราบได้ เพราะไม่สามารถเดาใจได้ ยืนยันว่า การชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ
ก่อนกำหนด ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลังแต่อย่างใด เพราะเงินที่ใช้ในการชำระหนี้ไม่ได้ใช้เงินจากงบประมาณแม้แต่บาทเดียว
แต่เป็นเงินจาก ธปท.ล้วนๆ" นายสมชัยกล่าว