Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 กรกฎาคม 2546
ปรับเป้าศก.โต5.5% ปลดแอกIMFวันนี้!             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารแห่งประเทศไทย
International Monetary Fund (IMF)
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
ทักษิณ ชินวัตร
บัณฑิต นิจถาวร
วิษณุ เครืองาม
สมชัย สัจจพงษ์
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ




แบงก์ชาติปรับเป้าเศรษฐกิจปีนี้โตเพิ่มอีก 1% เป็น 5.5% ขณะที่คลังก็เตรียมเปรับเพิ่ม หลังแนวโน้มครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง-ซาร์สกระทบน้อยกว่าคาด ขณะที่ปี 47 คาดเงินฝรั่งดันเศรษฐกิจไทยฉลุย ด้านคลังยันคืนหนี้ไอเอ็มเอฟหมดวันนี้ ปลดแอกไทยเป็นไท หลังตกเป็นทาสฝรั่งในฐานะลูกหนี้ เกือบ 10 ปี ไม่กระทบฐานะการคลัง ย้ำเงินใช้หนี้ไม่ได้มาจากเงินงบประมาณ แต่ใช้ทุนสำรอง ธปท.เชื่อหลังจากนี้ภาพลักษณ์ประเทศดีขึ้น ยันไทยไร้เงินฝืดแน่ ทักษิณเตรียมออกทีวีแจงประชาชนคืนนี้ หลังปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟ ขณะที่วิษณุเตรียมรณรงค์ คนไทยทั่วประเทศติดธงแสดงความเป็นไท 1 ส.ค.!

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยวานนี้ (30 ก.ค.) ว่าวันนี้ (31 ก.ค.) เวลา 20.30 น. จะ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพื่อชี้แจงประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้น และตัวเลขสถานะการเงินการคลังประเทศหลังชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หมด

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ อยากเสนอให้รัฐบาลมีศูนย์ให้ข้อมูลและรับเรื่องร้องทุกข์เรื่องเอกลักษณ์ของชาติ รวมถึงให้คนไทยทำใจกว้างยอมรับเอกลักษณ์บางอย่างที่ต้องเปลี่ยนแปลง

ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เคยนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อออกระเบียบให้หน่วยราชการและสถาน ที่สำคัญติดธงชาติไทยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย แต่ไม่ค่อยมีส่วนราชการใดปฏิบัติตาม จนนายกรัฐมนตรีพูดในที่ ประชุมครม.ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้และ เหตุใดจึงไม่มีหน่วยงานใดยอมปฏิบัติต่อกัน ซึ่งได้ชี้แจงว่า เหตุที่ยังไม่มีการติดธงเพราะเตรียม ธงยังไม่เสร็จ

ติดธงทั่วประเทศ 1 ส.ค.ปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟ

แต่ 1 ส.ค.จะรณรงค์ให้ติดธงชาติไทยทั่วประเทศ เพราะนอกจากจะเป็นช่วงที่เข้าสู่วันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่มีการติดธงเฉลิมฉลองกันอยู่แล้วแต่ความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ 1 ส.ค.เป็นวันที่ประเทศไทยปลดเปลื้องพันธนาการ หนี้สินทุกบาททุกสตางค์จากกองทุนเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้หมดเป็นวันแรก ถือเป็นการใช้ หนี้หมดก่อนกำหนด 2 ปี แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยว่า มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ดีในสายตาประชาคมโลก

นายบัณฑิต นิจถาวร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกปีนี้ และประมาณการเศรษฐกิจทั้งปี โดยปรับเป้าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) เพิ่มอีก 1% จากประมาณการเดิมที่ทำเม.ย.

ปรับศก.ปีนี้โตเพิ่มเป็น 5.5%

ธปท.คาดว่าอัตราขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ 4.5-5.5% เพิ่มจากเดิมที่ประมาณการที่ 3.5-4.5% ปี 2547 คาดจะขยายตัว 5-6% จากเดิมที่ประมาณ การ 4.5-6% คณะกรรมการนโยบายการเงินประเมินว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวระดับดังกล่าวทั้งปี 2546-2547 มีโอกาสเป็นไปได้ประมาณ 87.6% และ 67.1%

ขณะที่ส่งออกปีนี้ จะขยายตัว 9-11% นำเข้าขยายตัว 9.5-11.5% ดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกิน ดุล 6,000-7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปัจจัยหลักทำให้ธปท.ปรับอัตราขยายตัวเศรษฐกิจครั้งนี้ เนื่องจากการขยายตัวเศรษฐกิจ ไทยไตรมาส 1 สูงมากถึง 6.7% จากการขยายตัว การใช้จ่ายในประเทศเนื่องจากนโยบายดอกเบี้ย-เงินเฟ้อต่ำ แม้การลงทุนขยายตัวลดลงก็ตาม

ซาร์สกระทบน้อยกว่าคาด-ครึ่งปีหลังขยายต่อเนื่อง

ปัจจัยอีกประการ คือผลกระทบการระบาด โรคซาร์สต่อเศรษฐกิจไทย น้อยกว่าที่ประมาณ การเดิม กระทบเพียงการท่องเที่ยวเป็นหลัก ส่วนส่งออกที่คาดว่าจะกระทบ กลับมีผลน้อยมาก เห็นได้จากการส่งออกของไทยช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวสูง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขยายตัวเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนการฟื้นตัวประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 3 ประเทศ และผลกระทบโรคซาร์ส แต่เชื่อว่า การขยายตัวครึ่งปีหลังของไทยจะต่อเนื่อง แม้ น้อยกว่าครึ่งปีแรก

แนวโน้มการขยายตัวช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้ นายบัณฑิตกล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังของปี การ ขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวเทียบครึ่งปีแรก เพราะเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงปรับตัว รวมทั้งยังจะขึ้นกับการฟื้นตัวการค้าโลก และเศรษฐกิจประเทศภูมิภาคนี้เป็นสำคัญ เพราะหากเศรษฐกิจ ภูมิภาคฟื้นช้า อาจมีผลให้การส่งออกของไทยลดลงครึ่งหลังของปี มากกว่าที่ ธปท.คาดได้

ปี 47 ต่างชาติดัน ศก.ไทยฉลุย

แต่ปี 2547 คาดว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นอีก เนื่องจากการกลับมาของการลง ทุนต่างประเทศ ธปท.ประเมินปัจจัยเสี่ยงทางลบที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวไม่ได้ตามเป้าหมาย

ประการแรกความเสี่ยงการฟื้นตัวประเทศ จี 3 คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ธปท. คาดว่าจะฟื้นตัวต่ำกว่าที่ประมาณการเดิม ประ การที่ 2 ราคาน้ำมันผันผวน และแนวโน้มจะสูง ขึ้นต่อเนื่อง ประการที่ 3 การเบิกจ่ายเงินงบประมาณรัฐบาลยังคงล่าช้า คาดว่าทั้งปีจะเกินดุล เงินสด ปัจจัยสุดท้าย ความมั่นใจการลงทุนของ นักลงทุนต่างประเทศยังผันผวน ถูกกระทบง่าย

ยันเงินเฟ้อไม่ติดลบ-ไทยไร้เงินฝืด

นายบัณฑิตกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยบวกที่จะช่วยการขยายตัวเศรษฐกิจได้ เช่น มาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า และความมั่น ใจนักลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้มีการลงทุน และการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

การดำเนินนโยบายการเงินช่วงต่อไป ธปท. ประมาณเงินเฟ้อพื้นฐานปีนี้ 0.05% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 0-1% แต่ยังคาดว่า การขยาย ตัวเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ 1-2%

"ผมมั่นใจ อัตราเงินเฟ้อจากนี้จะขยายตัว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีติดลบ ดังนั้นจึงเป็นไป ไม่ได้ที่ไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ส่วนอัตราดอก เบี้ยนโยบายนั้น หากไม่มีความจำเป็นฉุกเฉิน ธปท.ตั้งเป้าว่า การยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับนี้จนถึงสิ้นปี โดยไม่ปรับลดลงอีก ยังเพียง พอที่จะทำให้เศรษฐกิจทั้งปีของไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย" เขากล่าว

คลังเล็งปรับเป้าจีดีพี ส.ค.

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการส่วนแบบจำลองและประมาณการเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ส.ค. นี้ สศค. เตรียมปรับประ มาณการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ใหม่ จะสูงกว่าประมาณการเดิม ที่คาดว่าปีนี้ จะขยายตัว 5.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจการคลัง มิ.ย. เศรษฐกิจไทย มิ.ย.-ไตรมาส 2 ยังคงขยายตัวดี จากแรงผลักดันอุปสงค์ ทั้งจากภายในและนอกประเทศ โดยสถานการณ์โรคทางเดินหายใจเฉียบ พลันรุนแรง (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) ไม่ส่งผลกระทบไทยมากอย่างที่คาด

สศค. เดาต่ำกว่าตัวเลขจริงประจำ

"สศค.ประมาณการอัตราขยายตัวเศรษฐกิจ ไตรมาส 1 ที่ 6.3% แต่ตัวเลขจริงขยายตัว 6.7% ขณะที่ไตรมาส 2 คาด 3.5% แต่เลขจริงสูงกว่า" นายเอกนิติกล่าว

ปลดแอกทาสไอเอ็มเอฟวันนี้ไม่กระทบฐานะคลัง

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สศค. เปิดเผยกรณีธปท. จะชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก่อนกำหนด 2 ปี หลังตกเป็นทาสฝรั่ง ในฐานะลูกหนี้เกือบ 10 ปี ประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ภายในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า จะไม่ส่งผลกระทบฐานะการคลังประ- เทศ

เนื่องจากเงินที่ใช้ชำระหนี้ดังกล่าว เป็นเงินจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของ ธปท. อย่างไรก็ตาม แง่จิตวิทยาอาจกระทบบ้าง เนื่องจากไทยได้รับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ 2 ครั้ง แล้ว แต่เพิ่งมีครั้งนี้ ที่ชำระหนี้ก่อนกำหนดถึง 2 ปี "ไทยจะได้ภาพลักษณ์ดีขึ้นในสายตาต่างชาติ สิ่งน่ายินดีและดีใจ คือไทยไม่มีหนี้สินกับไอเอ็ม เอฟอีกต่อไป

ผลกระทบทางบวกมาก ๆ คงไม่มีเพราะชำระหนี้หลังเศรษฐกิจไทยฟื้นแล้ว ยังยืนยันว่า การชำระหนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนด ไม่มีผลทำให้รัฐบาลไม่มีเงินเดือนจ่ายข้าราชการ เพราะเงิน ที่ใช้ชำระหนี้ ไม่ได้จากเงินงบประมาณแม้แต่บาท เดียว แต่เป็นเงินจาก ธปท.ล้วนๆ"

ทุนสำรองหลังจ่ายหนี้เหลือเฟือเกือบ 4 หมื่นล้านดอลล์

นายสมชัยกล่าว หลังชำระหนี้ไอเอ็ม ไทย ยังมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศอีกประ มาณ 3.8-3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่าสินค้านำเข้า 7 เดือน ซึ่งเพียงพอสำหรับไทย สิ้น ปีนี้ คาดทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศจะเพิ่ม เป็น 4 หมื่นล้านดอลลาร์

"ส่วนสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จะปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยเพิ่มขึ้นหรือ ไม่นั้น เรื่องดังกล่าวไม่อาจทราบได้ เพราะไม่สามารถเดาใจได้ ยืนยันว่า การชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนด ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลังแต่อย่างใด เพราะเงินที่ใช้ในการชำระหนี้ไม่ได้ใช้เงินจากงบประมาณแม้แต่บาทเดียว แต่เป็นเงินจาก ธปท.ล้วนๆ" นายสมชัยกล่าว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us