Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 ตุลาคม 2551
สหเอเซียฯ ถอนสมอเมคอัพ ชิเซโด้ดึงกลับลุยกลุ่มแมสทีจ             
 


   
www resources

Shiseido Thailand

   
search resources

Cosmetics
ชิเซโด้ (ไทยแลนด์), บจก.




สหเอเชียแฟซิฟิกปิดฉากตลาดเมคอัพ หลังบริษัทแม่ชิเซโด้ที่ญี่นเปิดเกมรุกตลาดกลุ่มแมสทีจในไทยเต็มรูปแบบ "ชิเซโด้" พร้อมเปิดแผนลุยแมสทีจประเดิม แบรนด์ซีเอ และนำเข้าใหม่แบรนด์ มาจอลิกามาจอร์กา มั่นใจปีหน้าเติบโต 2 หลัก

นายทัตสึโอะ ซึโด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของกลุ่มชิเซโด้ 5 แบรนด์ในไทยที่เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท สหเอเซียแปซิฟิค จำกัด กลับมาทำตลาดเองทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย ซีเอ อูโน่ เพียวแอนด์มาย ไวท์เทียร์ และทิส แต่จะเริ่มทำตลาดแบรนด์ "ซีเอ" ก่อนเมื่อเดือนกรกฎาคมนี้ และโอนถ่ายพนักงานมารวม 93 คน แต่ยังคงผลิตจากโรงงานเดิม

ทั้งนี้สหเอเซียฯเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มสหพัฒและชิเซโด้ ดำเนินการตลาดซีเอในไทยมาตั้งแต่ปี 2540 แต้นิ่งจากนโยบายบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นต้องการรุกตลาดแมสทีจ (ตลาดระหว่างกลุ่มแมสกับเพรสทีจซึ่งราคาสูงกว่าระดับแมสแต่ต่ำกว่าระดับเพรสทีจ) ในไทยมากขึ้น จึงดำเนินการเอง และมีเป้าหมายที่จะส่งแบรนด์ของกลุ่มชิเซโด้ไปต่างประเทศมากขึ้น เพื่อผลักดันให้เป็นแจแปนนิสเมกกะแบรนด์ ส่วนอีกบริษัทที่ร่วมทุนกันคือ บริษัท ชิเซโด้ โปรเฟสชันนอล จำกัด ทำธุรกิจสปาแบรนด์ "คิ" ยังดำเนินธุรกิจเหมือนเดิม

ปัจจุบันกลุ่มชิเซโด้ในไทยจับตลาดเครื่องสำอางค์ 3 กลุ่มหลักคือ 1.แบรนด์ชิเซโด้ ขายในไทยนานกว่า 46ปี เป็นรายได้หลักคือ 75% มีแผนที่จะปรับโฉมเคาน์เตอร์รูปแบบใหม่ และมีสินค้าเพิ่มมากขึ้น 2.กลุ่มที่ไม่ใช่แบรนด์ชิเซโด้ มีจำนวน 8 แบรนด์ เช่น อิปซ่า เอทูเซ่ เป็นต้น สัดส่วนรายได้ 25% และมีแผนจะทำตลาดระบบมัลติแบรนด์ด้วย และ 3. กลุ่มแมสทีจ ที่เพิ่งเริ่มต้นในไทย โดยเริ่มที่ 2แบรนด์หลักก่อนคือ "ซีเอ" และ "มาจอลิกา มาจอร์กา" ที่เพิ่งนำเข้ามาทำตลาดในไทย ซึ่งบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยังมีเครื่องสำอางกลุ่มแมสทีจอีกหลายแบรนด์ จะทยอยนำเข้ามาเพิ่มในไทย โดยที่ไต้หวันทำตลาดแมสทีจมากสุดถึง 6 แบรนด์

ทั้งนี้การมีสินค้าครบทุกกลุ่มจะทำให้ปีหน้าบริษัทชิเซโด้ในไทยมีรายได้เติบโตมากกว่า 11% และยังไม่มีแผนนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดในปีหน้า ขณะที่ครึ่งปีแรกปีนี้เติบโต 6% และตั้งเป้ากลุ่มเพรสทีจจะเติบโต 6% ปีหน้า โดยที่ปีนี้รายได้รวมบริษัทฯคาดว่าจะมีประมาณใกล้เคียง 1,500 ล้านบาท

"เมืองไทยยังมีศักยภาพด้านตลาดเครื่องสำอางอีกมาก จากเดิมที่จำกัดเฉพาะผู้หญิงทำงาน แต่ว่าตอนนี้ตลาดเครื่องสำอางขยายไปสู่ กลุ่มนักเรียน นักศึกษามากขึ้น และถึงแม้ว่าปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่นิ่งในเวลานี้ แต่บริษัทฯก็มองว่าเป็นปัญหาระยะสั้น ขณะที่โอกาสการทำตลาดระยะยาวยังเปิดกว้างอีกมาก และยังลงทุนต่อเนื่องล่าสุดทุ่มงบ 75 ล้านบาท สร้างแวร์เฮาส์ใหม่พื้นที่ 3 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราดกิโลเมตรที่ 19 และเตรียมจะเปิดใช้ภายในสิ้นปีนี้ " นาย ทัตสึโอะกล่าว

สาเหตุที่ชิเซโด้รุกตลาดแมสทีจเพราะว่า โดยตลาดแมสทีจในไทยนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าปี 2550 ตลาดเครื่องสำอางกลุ่มแมสทีจปี 2550 มีมากกว่า 10,000 ล้านบาท และคาดว่าเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาทในปี 2553 ขณะที่ตลาดแมสทีจในเอเซีย (มี 6 ประเทศคือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ) ในปี 2549 มีมูลค่าเท่ากับ 78,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2556 จะเพิ่มเป็น 166,000 ล้านบาท

สำหรับแผนตลาดของกลุ่มแมสทีจนั้น จะใช้งบตลาดรวม 45% จากยอดขายกลุ่มนี้แบ่งเป็น อะโบฟเดอะไลน์ 70% และบีโลว์เดอะไลน์ 30% ทำตลาดปีหน้า โดยที่แบรนด์ซีเอนั้น จับกลุ่มวัยรุ่นถึงวัยเริ่มทำงาน มีกำลังซื้อ ราคาเฉลี่ย 300-400บาท เน้นขายในร้านวัตสันห้างสรรพสินค้าทั่วไป สินค้าครอบคลุมทั้งรักษาสิว กลุ่มแอนตี้เอจิ้ง กลุ่มไวท์เทนนิ่ง ตัวเด่นคือ สกินแคร์

ส่วนแบรนด์ มาจอลิกา มาจอร์กา เพิ่มเริ่มทำตลาดในไทย พร้อมกับอ่องกง มาเลเซียสิงคโปร์ ไต้หวัน เริ่มวางตลาดวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เน้นกลุ่มทีนเอจ อายุ 14 ปี - วัยเริ่มทำงาน สินค้าครบไลน์สำหรับดวงตา ริมฝีปาก ใบหน้า และเล็บตัวเด่นคือ มาสคาร่า อายไลนเนอร์ ระดับราคาเฉลี่ย 100-700บาท จำหน่ายเฉพาะที่ร้านวัตสันเป็นเอ็กซ์คลูซ์แบรนด์ ปีนี้ เริ่มที่ 20สาขา และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 60สาขา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us