Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 ตุลาคม 2551
โตโยต้า-ฮอนด้า คาดปีหน้าหงอย             
 


   
www resources

Honda Homepage
Toyota (Thailand) Homepage

   
search resources

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, บจก.
Automotive
เอเชียนฮอนด้า มอเตอร์, บจก.




2 ค่ายรถยักษ์ใหญ่ "โตโยต้า-ฮอนด้า" ประสานเสียง เชื่อวิกฤตการเงินโลก บวกการเมืองวุ่น ฉุดกำลังซื้อ คาดปีหน้าตลาดรถยนต์ซบเซา ส่วนยอดขายรวมทุกยี่ห้อปีนี้น่าจะทำได้ 6.3 -6.5 แสนคัน วืดเป้าหมายเดิม 7 แสนคัน

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดการขายรถ 9 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวน 4.6 แสนคันโตขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นผลมาจากความวิตกกังวลจากราคาน้ำมันสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคช็อกและชะลอการซื้อรถออกไป แม้ว่าราคาน้ำมันจะลดต่ำลง แต่ภาวะเศรษฐกิจโลกกลับมีปัญหา ประกอบกับสถานการณ์การเมืองของไทยกำลังวุ่นวาย จึงทำให้เป้ายอดขายรถรวมทั้งปีที่คาดไว้ประมาณ 7 แสนคัน น่าจะทำได้เพียง 6.3-6.5 แสนคันเท่านั้น

นอกจากนี้วิกฤตการเงินโลก จะส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างแน่นอน แม้ยังไม่ใช่เวลานี้แต่อนาคตมีแน่ หากเปรียบวิกฤตของอเมริกาขณะนี้กับของไทยเมื่อปี 2540 จะเห็นว่ามีลักษณะกำลังดำเนินตามรอยกัน โดยเริ่มจาก ภาคอสังหาริมทรัพย์ล้ม แล้วภาคการเงินมีปัญหา จากนั้นถึงจะลามมาสู่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ แล้วไปจบลงที่ภาคอุตสาหกรรมในครัวเรือนจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า

อย่างไรก็ตามไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจดีและมีความแข็งแกร่งกว่าเมื่อปี 2540 รวมถึงการเคยผ่านวิกฤตการณ์ดังกล่าวมาแล้ว ทำให้มีการเตรียมรับมืออย่างดี แต่อาจมีการตระหนกตกใจของนักลงทุนบ้าง ดังนั้นภาครัฐไม่ควรชะล่าใจและควรออกมาตรการเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

นายนินนาท กล่าวว่า ในส่วนของโตโยต้าเองคงจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากไม่มีภาระหนี้สิน และมีตลาดทั้งในประเทศและส่งออกรองรับ ส่วนแผนการลงทุนต่างๆ ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะอีโคคาร์มีความคืบหน้าไปมาก กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับภาครัฐเพื่อขอลดเงื่อนไขบางประการลงซึ่งจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

ด้านนายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รอง ประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงต้นปีสภาพตลาดรถยนต์ดีมากทำให้มีการคาดว่ายอดขายจะถึง 7 แสนคัน แต่เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ทั้งจากราคาน้ำมันสูงเมื่อช่วงกลางปี วิกฤตการเงินโลกและการเมืองวุ่นของไทย จึงเชื่อว่า สิ้นปีตลาดรวมจะอยู่ประมาณ 6.3 แสนคัน

"แม้ว่าจะมีข่าวดีเรื่องราคาน้ำมันลดลง แต่ปัญหาวิกฤตการเงินโลกและการเมืองวุ่นวายของไทยทำให้กำลังซื้อหด ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายเงิน เนื่องจากเคยมีบทเรียนจากวิกฤตของไทยเมื่อปี 2540 ผู้ผลิตจะต้องบริหารต้นทุนให้ดี โดยปีหน้าคาดว่า ยอดขายรถคงดูไม่สดใส ขณะที่เวลานี้ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก"

สำหรับแผนการลงทุนของฮอนด้ายังเดินหน้าต่อไป ไม่มีการชะลอ เนื่องจากเป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งแผนการขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2.4 แสนคัน ขณะนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วและโรงงานใหม่พร้อมขึ้นไลน์ผลิตในสัปดาห์หน้า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us