โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา เล็งเจาะฐานลูกค้าใหม่ "ตะวันออกลาง อินเดีย รัสเซีย จีน " เพิ่มเป็น 25-35% แทนกลุ่มลูกค้ายุโรปและสหรัฐ ที่เชื่อว่าจะหดหายหลังได้รับผลกระทบปัญหาวิกฤตสถาบันการเงิน เตรียมตั้งสำนักงานตัวแทน พร้อมระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น คาด 1-2 เดือนนี้ เลห์แมน บราเธอร์ ติดต่อขายหุ้นที่ถือในโรงแรมกะตะภูเก็ต โรงแรมกะรนภูเก็ต พร้อมตั้งงบลงทุนอีก 3 พันล้านบาทปีหน้า คาดโกยรายได้รวม 9 พันล้านบาท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า บริษัทปรับแผนในการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆในแถบตะวันออกกลาง อินเดีย จีน รัสเซีย แทนกลุ่มลูกค้ายุโรป และสหรัฐที่ ได้ผลกระทบจากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐ โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างที่ไปจัดตั้งสำนักงานตัวแทนขายที่ตะวันออกกลางและจะมีการนจัดบูธในการเชิญชวนให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ทั้งนี้ คาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าตะวันออกกลาง อินเดีย จีน รัสเซีย เพิ่มเป็น25-35% จากขณะนี้ที่มีไม่ถึง 10% เพราะกลุ่มลูกค้าค้าดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงิน และประชาชนในประเทศดังกล่าวล้วนมีรายได้ที่ดี ขณะเดียวกันประชาชนในประเทศเหล่านั้นต่างก็ชอบบินตรงมาเที่ยวประเทศไทย เนื่องราคาไม่แพง โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปและสหรัฐ 50-60%
สำหรับ ปัญหาการเมืองในประเทศนั้น ส่งผลให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเข้าพักคิดเป็น 4% ของรายได้ ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนัก แต่ภาพรวมรายได้ในไตรมาส3/51 เพิ่มขึ้น 15-20% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน 456.81 ล้านบาท เพราะยอดการเข้าพักในเดือนกรกฎาคม ถึงสิงหาคมยังคงดีอยู่แต่ได้รับผลกระทบมาก ในช่วงเดือนกันยายน
นายรณชิต กล่าวว่า จากการดำเนินงานพบว่าไตรมาส 4 ของทุกปีนั้นเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุดหรือเป็นช่วงไฮซีซั่นนั้น แต่ปีนี้สัญญาณการมาท่องเที่ยวไม่ได้ดีกว่าปีที่แล้ว เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกมีการชะลอตัวและปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งหากดีขึ้นก็จะเท่ากับปีที่แล้ว และผลจากปัญหาดังกล่าวทำให้บริษัทมีนโยบายการลงทุนระมัดระวัง
สำหรับการที่เลห์แมน บราเธอร์ส ถือหุ้นในโรงแรมกะตะภูเก็ต บริษัท โรงแรมกะรนภูเก็ต ในสัดส่วนแห่งละ 48 % มูลค่าเงินลงทุนรวม 240 ล้านบาท นั้น เชื่อว่าผลจากการที่เลห์แมนฯประสบปัญหาทางการเงินทำให้ต้องมีการขายสินทรัพย์ที่ถือออกมานั้น เชื่อว่าในช่วง 2-3 เดือนนี้ ทางเลห์แมนฯ คงจะมีการติดต่อมายังบริษัท เพราะจำเป็นจะต้องมีการขายหุ้นออกมา โดยที่ผ่านมานั้นทางเลห์แมนฯยังไม่ได้มีการติดต่อมายังบริษัทแต่อย่างใด
ทั้งนี้ CENTEL ตั้งงบลงทุนรวมปีหน้าถึง 3,000 ล้านบาท เพราะจะมีการเปิดโรงแรมใหม่ปี 52 ถึง 5 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรมที่ลงทุนสร้างเอง 2 แห่ง คือที่พัทยา มัลดีฟส์ และอีก 3 แห่งเป็นลักษณะการรับจ้างบริหาร คือ ที่ขอนแก่น หัวหิน และสมุย 2 แห่ง โดยเงินทุนจะมาจากเงินที่ได้จากการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เงินกู้และจากผลการดำเนินงานของบริษัท
นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีหน้าไว้ที่ 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปี 2551 ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 8.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม 3,900-4,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากโรงแรมที่บริษัทมีแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 5 แห่งในปีหน้า โดยธุรกิจอาหารคาดมีรายได้ 5,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่มีรายธุรกิจโรงแรม 3,500 ล้านบาท และธุรกิจอาหาร 4,500-4,600 ล้านบาท
|