เรื่องของคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเอง
James Despain เริ่มชีวิตการทำงานของเขาที่ Caterpillar ด้วยการเป็นคนกวาดโรงงาน
แต่เกษียณอายุในอีก 43 ปีต่อมาในตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ผู้สามารถพลิกฟื้นหน่วยงานที่ยิ่งกว่าไม่ทำกำไรแห่งหนึ่งของ
Caterpillar ให้กลับกลายเป็นหน่วยงานที่ทำกำไรได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของบริษัท
แม้จะไม่เคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแต่ด้วยความมุ่งมั่นจะทำงานหนักและทำทุกอย่างที่จะทำให้บริษัทดีขึ้น
เขาก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ ...And Dignity
For All ยังเป็นเรื่องราวของผู้จัดการคนหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง
จากนายงานที่ดุร้ายน่ากลัวมาเป็นผู้นำที่เข้าใจว่าอำนาจก็สามารถที่จะเกิดขึ้นจากความนับถือ
ซึ่งกันและกัน และการสนับสนุนจากพนักงาน ได้เหมือนกัน
Despain เคยเรียนรู้เรื่องอำนาจมาตั้งแต่เด็ก จากพ่อซึ่งเป็นคนงานเหมืองถ่านหินที่ดุร้าย
สิ่งที่เขาเรียนรู้คือ อำนาจคือสิ่งที่เขาต้องเคารพ มิฉะนั้นอาจเจ็บตัวได้
หลังจบชั้นมัธยม Despain รับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารอากาศอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเข้าทำงานกับ
Caterpillar หลังจากผ่านงานกวาดโรงงานที่แสนหนัก ผ่านการฝึกงานด้านบริหาร
และถูกปลดออกจากงานเป็นเวลา 1 ปี Despain กลับมาใหม่ที่ Caterpillar คราวนี้ในตำแหน่งคนคุมเครื่องจักร
ประสิทธิภาพการทำงานของเขาโดดเด่นเสียจนถูกหัวหน้างานกีดกันขัดขวางไม่ให้ได้เลื่อนตำแหน่ง
Despain จึงลาออกแล้วไปทำงานเป็นผู้จัดการในโรงงานเล็กๆ แห่งหนึ่ง หลังจากเจอปัญหาเดิมกับผู้จัดการโรงงานคนอื่นๆ
ที่นั่น เขากลับมาที่ Caterpillar อีกครั้ง ในตำแหน่งพนักงานกินเงินเดือนในสำนักงาน
ภายในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เขาก็สามารถกลับไปที่โรงงานอีกครั้งในตำแหน่งหัวหน้างานสมใจ
นายงานผู้ใจดำอำมหิต
เมื่อได้เป็นหัวหน้า Despain รู้สึกได้ถึงอำนาจที่เขามี และเริ่มเปลี่ยนเป็นคนที่ดุดันเข้มงวด
ใจแคบและก้าวร้าวมากขึ้น ความใจดำอำมหิตของเขาได้รู้กันทั่วในวันหนึ่ง เมื่อคนคุมเครื่องจักรคนหนึ่งรายงานต่อเขาว่า
เครื่องจักรทำงานเกินกำลังจนเริ่มมีควันขึ้น ด้วยความต้องการที่จะผลิตให้ทันตามกำหนดเส้นตาย
Despain ใจดำพอที่จะบังคับให้คนงานเดินเครื่องทำงานต่อไป โดยไม่สนใจว่าการทำเช่นนั้นอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือทำให้คนงานได้รับบาดเจ็บหรืออื่นๆ
ที่เลวร้ายกว่านั้น
แต่หลังจาก Caterpillar ส่งเขาไปทำงานใน Cleveland ที่นั่น Despain ได้เรียนรู้ว่า
ความแตกแยกระหว่างพนักงานและหัวหน้างานอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ ที่ขัดขวางประสิทธิภาพการผลิตและความก้าวหน้าของงานได้
เมื่อบริษัทส่งเขาไปทำงานที่ญี่ปุ่น Despain ก็ได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมองค์กร
ที่เอื้อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและการเคารพนับถือซึ่งกันและกัน
หลังจากย้ายไปทำงานที่เม็กซิโก Despain ก็ได้เรียนรู้อีกว่าคุณภาพของการทำงานต้องเริ่มต้นที่ใจของพนักงานเอง
8 ปีต่อมาเขากลับมาที่บ้านใน Peoria, Illinois เพื่อรับตำแหน่งกรรมการรองผู้จัดการดูแลรับผิดชอบโรงงานทั้งหมดในอเมริกาเหนือของ
Caterpillar รวมทั้ง Track-Type Tractor Division หน่วยงานที่ไม่ว่าจะปรับปรุงให้ทันสมัย
รื้อปรับระบบ จัดองค์กรใหม่ หรือนำ total quality management มาใช้ก็แล้ว
ก็ยังไม่สามารถจะทำให้โรงงานแห่งนี้มีกำไรขึ้นมาได้ หน่วยงานดังกล่าวเป็นหน่วยงานในยุคแรกๆ
ของ Caterpillar จึงมีวัฒนธรรมการทำงานที่เก่าแก่ปานกัน ซ้ำคนงานก็ไม่มีความสุข
และเพิ่งกลับเข้ามาทำงานใหม่หลังจากสไตรก์หยุดงานไปถึง 8 เดือน นอกจากนี้
คู่แข่งก็กำลังก้าวหน้าไปอย่างมาก Track-Type Tractor จึงกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่
หลังจาก Despain พิจารณาทบทวนสไตล์การทำงานแบบสั่งการและควบคุมของตนอย่างจริงจัง
ก็พบว่า ตัวเขาเองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาด้วย นี่คือจุดที่ทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเป็นผู้นำของตน
ซึ่งขณะเดียวกันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรไปพร้อมๆ กันด้วย ด้วยความช่วยเหลือจากต้นแบบในญี่ปุ่นและที่อื่นๆ
ที่สอนเขาเรื่องการจัดการบุคลากรและการบริหาร Despain สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและหน่วยงานเก่าแก่แห่งนี้ได้สำเร็จ
โดยการนำคุณค่าหลัก 9 ข้อมาใช้ ได้แก่ ความไว้วางใจ การเคารพในกันและกัน
การทำงานเป็นทีม การมอบอำนาจ การรับความเสี่ยง การมีสำนึกในความเร่งด่วน
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ภาระผูกพัน และความพึงพอใจของลูกค้า
สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความสำเร็จ
Despain ย้ำว่า คุณค่าสำคัญทั้งเก้าต่างหาก หาใช่การอัดฉีดเงินลงทุนก้อนโตไม่
ที่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อความสำเร็จ คุณค่าทั้งเก้าเป็นฐานในการตัดสินใจให้แก่พนักงาน
เป็นการขยายขอบเขตรองรับความคิดใหม่ๆ และเพิ่มอิสระแก่พนักงานในการสร้างความแตกต่าง