“คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี”ปรับตัวรับเศรษฐกิจตกต่ำ การเมืองไม่มีเสถียรภาพ ลุยรับงานต่างประเทศ หลังงานในประเทศลดฮวบ เผยเจรจารับงานในอิหร่าน แอฟริกา จีน รัสเซีย ไนจีเรีย หวังรักษาระดับรายได้ 200-300 ล้านบาท

ไม่เพียงแต่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง หรือโครงการบ้านจัดสรรเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากความตกต่ำของภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ทำให้การลงทุนโครงการใหม่ของภาคเอกชนลดลงอย่างมาก ขณะที่ภาครัฐก็ยังไม่มีการลงทุนโครงการใหม่ ๆ ตามนโยบายที่มีแผนจะลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์หลายโครงการ แต่ธุรกิจบริษัทที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้างก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นเดียวกัน ที่สำคัญยังได้รับผลกระทบก่อนธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบการบ้านจัดสรร และผู้ค้าวัสดุก่อสร้างด้วย เพราะถือเป็นธุรกิจแรก ๆที่ต้องดำเนินการก่อนงานก่อสร้าง เพราะลักษณะของธุรกิจที่ปรึกษางานด้านก่อสร้างเริ่มตั้งแต่ให้คำปรึกษาการลงทุนโครงการใหม่ งานออกแบบสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน ภูมิสถาปัตยกรรม งานวางผังการใช้ที่ดิน งานให้คำปรึกษาด้านพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนงานวิศวกรรมต่าง ๆ

ดังนั้น ในช่วงนี้ จะเริ่มเห็นบริษัทที่ปรึกษาหลายแห่งเบนเข็มไปรับงานในต่างประเทศมากขึ้น บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด บริษัทที่ปรึกษางานด้านการก่อสร้างเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่มีแผนไปรับงานในต่างประเทศมากขึ้น พิสิฐ พุฒิไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายการรับงานไปยังต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากงานในประเทศลดลง ทั้งงานภาครัฐและภาคเอกชน อีกทั้งการแข่งขันยังรุนแรงมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะขยายตลาดในประเทศเดิมที่จะรับงานอยู่แล้ว เช่น เวียดนาม กัมพูชา จีน ปากีสถาน การ์ต้า และรัสเซีย เป็นต้น รวมทั้งเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆ เช่น อิหร่าน แอฟริกา ไนจีเรีย และตะวันออกกลาง เป็นต้น

ปัจจุบันบริษัท อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรับงานในหลายประเทศ ทั้งอิหร่าน แอฟริกา ตะวันออกกลางไนจีเรีย จีน และรัสเซีย มีทั้งงานภาครัฐและเอกชน และคาดว่าจะชนะการประมูลบ้าง เนื่องจากเจ้าของงานในประเทศที่ด้อยพัฒนากว่าไทย จะเห็นว่าผู้ประกอบการจากไทยมีศักยภาพ มีความสามารถสูง อีกทั้งค่าบริการยังถูกกว่าจากประเทศฝั่งตะวันตก ขณะที่ประเทศที่เจริญกว่าไทย จะจ้างผู้รับเหมาช่วงให้กับผู้ประกอบการจากไทย เพราะเห็นว่ามีศักยภาพด้านวิชาการสูง ที่สำคัญปีนี้บริษัทยังได้รับรางวัลผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น ด้านธุรกิจก่อสร้าง จากโครงการ PM’s Award 2008 จัดโดยกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นรางวัลที่รัฐบาลการันตีสินค้าและบริการจากไทยได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของงาน

พิสิฐ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 10% ของรายได้ปีก่อน 200-300 ล้านบาท เป็นงานภาครัฐและเอกชนในสัดส่วนเท่ากัน 50% และคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จะลดสัดส่วนงานภาครัฐลง เพราะการแข่งขันสูง สำหรับผลงานที่ผ่านมามีทั้งงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง การเคหะแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรมทางหลวง กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยและบริษัทในเครือ บริษัทปิโตรเคมีแห่งชาติ บริษัท ไทยออยล์ นิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมเหมราช โรงพยาบาลศิครินทร์ และโรงแรมสยามอินเตอร์คอนติเนนตัล เป็นต้น